ถ้าคุณต้องการสร้างผลตอบแทนจากการสวิงเทรดหุ้นให้ได้ กำไรเฉลี่ยระดับร้อยเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มีอยู่ 2 หลักการสำคัญ ที่คุณจำเป็นต้องเข้าใจให้ลึก

Image
ถ้าคุณต้องการสร้างผลตอบแทนจากการสวิงเทรดหุ้นให้ได้ กำไรเฉลี่ยระดับร้อยเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มีอยู่ 2 หลักการสำคัญ ที่คุณจำเป็นต้องเข้าใจให้ลึก โมเมนตัม (Momentum) การหด–ขยายตัวของความผันผวน (Volatility Contraction / Expansion) หัวใจของการทำกำไร คือ 👉 ค้นหาหุ้นที่กำลังจะเข้าสู่ช่วง “การขยายตัว” ของราคา 👉 และต้องเป็นการขยายตัว ไปในทิศทางเดียวกับโมเมนตัม ถ้าคุณทำได้ เงินจะเป็นเพียงผลลัพธ์ที่ตามมา

ข้อมูลพื้นฐานใด ที่มีผลต่อราคาหุ้นมากที่สุด


ข้อมูลพื้นฐานที่มีผลต่อราคาหุ้นมากที่สุดประกอบด้วยหลายปัจจัย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ดังนี้:

1. ผลประกอบการและงบการเงิน (Financial Performance)

- รายได้ (Revenue): รายได้ที่บริษัทสร้างได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ หากรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มักจะส่งผลบวกต่อราคาหุ้น

- กำไรสุทธิ (Net Profit): กำไรที่บริษัททำได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด กำไรที่เพิ่มขึ้นมักจะดึงดูดนักลงทุนและทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น

- กำไรต่อหุ้น (Earnings Per Share - EPS): กำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่าย เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินความสามารถในการทำกำไรของบริษัท


2. งบดุล (Balance Sheet)

- สินทรัพย์รวม (Total Assets): สินทรัพย์ที่บริษัทถือครอง

- หนี้สินรวม (Total Liabilities): หนี้สินที่บริษัทต้องชำระ

- ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder's Equity): ส่วนต่างระหว่างสินทรัพย์และหนี้สิน แสดงถึงมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท


3. กระแสเงินสด (Cash Flow)

- กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow): กระแสเงินสดที่เกิดจากกิจกรรมหลักของบริษัท

- กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow - FCF): กระแสเงินสดที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่ายการดำเนินงานและการลงทุน ชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แท้จริง


4. การเติบโตของบริษัท (Growth)

- การเติบโตของรายได้ (Revenue Growth): การเพิ่มขึ้นของรายได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ แสดงถึงความสามารถในการขยายตัวของบริษัท

- การเติบโตของกำไร (Profit Growth): การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ แสดงถึงความสามารถในการเพิ่มกำไรของบริษัท


5. การประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation)

- อัตราส่วนราคาต่อกำไร (Price-to-Earnings Ratio - P/E Ratio): ราคาแบ่งด้วยกำไรต่อหุ้น เป็นตัวชี้วัดว่าหุ้นมีมูลค่าสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับกำไร

- อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (Price-to-Book Ratio - P/B Ratio): ราคาแบ่งด้วยมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น แสดงถึงมูลค่าหุ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์สุทธิของบริษัท


6. ปัจจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม (Economic and Industry Factors)

- สภาวะเศรษฐกิจทั่วไป: การเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง

- สถานะของอุตสาหกรรม: การเติบโตของอุตสาหกรรมที่บริษัทอยู่ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่อาจมีผลต่อธุรกิจ


7. การจัดการและกลยุทธ์ของบริษัท (Management and Corporate Strategy)

- ความสามารถของทีมบริหาร: ประสบการณ์และความสามารถของผู้บริหารในการตัดสินใจและบริหารบริษัท

- กลยุทธ์การขยายตัว: แผนการขยายธุรกิจ การควบรวมกิจการ และการลงทุนใหม่ ๆ


8. เหตุการณ์และข่าวสารที่สำคัญ (Significant Events and News)

- การประกาศผลประกอบการ: ข่าวสารเกี่ยวกับผลประกอบการรายไตรมาสหรือรายปี

- ข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการหรือการร่วมทุน: การควบรวมกิจการหรือการร่วมทุนกับบริษัทอื่น


9. ปัจจัยเชิงพฤติกรรม (Behavioral Factors)

- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: ความเชื่อมั่นและการคาดการณ์ของนักลงทุนสามารถส่งผลต่อราคาหุ้นในระยะสั้น

- แนวโน้มตลาด: การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโดยรวมและแนวโน้มของอุตสาหกรรม


การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนมีข้อมูลพื้นฐานที่ดีในการตัดสินใจลงทุนและคาดการณ์แนวโน้มราคาหุ้นในอนาคต

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?