หุ้นอเมริกาที่ผ่านสูตรสแกนแบบ Peter Lynch

เคยสงสัยไหมว่า นักลงทุนระดับตำนานค้นหาหุ้นชนะตลาดกันอย่างไร? นี่คือหลักพื้นฐานที่ ปีเตอร์ ลินช์ ใช้ในการมองหาบริษัทที่มีศักยภาพสูง! $DBX, $FVRR, $COUR, $AI, $SOUN, $GLBE, $NU, $HIMS, $S, $DUOL, $ROKU, $IOT, $PYPL ที่มา https://x.com/commonsenseplay/status/1994082845305057662 เช็กลิสต์คัดเลือกหุ้นแบบ Peter Lynch 1. ค่า Trailing P/E < 25 2. ค่า Forward P/E < 15 3. การเติบโตของ EPS > 15% 4. อัตราหนี้ต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) < 35% 5. มาร์เก็ตแคป < 5 พันล้านดอลลาร์ 6. ค่า PEG Ratio < 1.2 ทำไมค่า P/E จึงสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการ “ซื้อแพงเกินไป” P/E ต่ำ = ความปลอดภัยในการลงทุนสูงกว่า Forward P/E ต่ำกว่า 15 มักบ่งบอกถึงคาดการณ์กำไรที่แข็งแกร่งในอนาคต ตัวอย่างหุ้นที่มีมุมมองด้านมูลค่าที่น่าสนใจ $DBX (Dropbox) $FVRR (Fiverr) $COUR (Coursera) $PYPL (Paypal) EPS Growth > 15% - การเติบโตของกำไรคือเครื่องยนต์สำคัญของราคาหุ้นในระยะยาว - บริษัทที่แข็งแกร่งมักเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เป็นครั้งคราว ตัวอย่างกลุ่มหุ้นเติบโตสูง กลุ่ม AI: $AI (C3.ai), $SOUN (SoundHound) การชำระเงินดิจิทั...

วิธีการที่ช่วยนักเทรดที่ขาดทุนซ้ำซาก หมดตัว พอร์ตไม่โต ตลอด 15 ปี พลิกไปได้กำไรสม่ำเสมอหลังจากนั้น

วิธีการที่ช่วยนักเทรดที่ขาดทุนซ้ำซาก หมดตัว พอร์ตไม่โต ตลอด 15 ปี

พลิกไปได้กำไรสม่ำเสมอหลังจากนั้น คือ...

คิดและเทรดแบบรถถัง + ฟังตลาด + โฟกัสกระบวนการ และเลือกสัญญาณซื้อแค่ 1-2 ตัว

.

1. คิดและเทรดแบบรถถัง:

ตั้งรับให้ดี เสียให้น้อยก่อน รอจนโอกาสดี ๆ เข้ามาจึงจัดหนัก

รีบตัดขาดทุนตั้งแต่เสียหายเล็ก ๆ น้อย

เพื่อเก็บเงินสดก้อนโต รอโอกาสดี ๆ 

การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวของเขาคือ การปรับความเสี่ยงต่อการเทรดของลงเป็น 0.25-0.5% ของเงินทั้งพอร์ตเท่านั้น

การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณเสียหายจากหุ้นผู้แพ้น้อยลง

.

2. ฟังตลาด:

เทรดตามอารมณ์ตลาด ตามความแข็งแรงของหุ้น ไม่ใช่ตามใจตนเอง

อย่าดื้อ เถียงตลาด อย่าแก้แค้นหลังจากขาดทุน เพราะมันจะทำให้คุณขาดทุนหนักกว่าเดิม เพราะเทรดตามอารมณ์

ฟัง feedback จากตลาดให้ดี เช่น ถ้าคุณขาดทุนแสดงว่าตลาดแย่(หุ้นตัวนั้นแย่) ก็ให้ถอนตัวออกมา อย่าไปยุ่งกับมันในตอนนั้น

แต่ถ้าหากคุณได้กำไร แสดงว่าหุ้นตัวนั้น มันเป็นของดี ควรทนรวยกับมันให้นาน จนกว่ามันจะจบแนวโน้ม

คุณควรบุกหนักในตอนที่ตลาดเงินง่าย

และเทรดให้น้อยหรือถือเงินสดอยู่เฉยๆ เมื่อตลาดได้เงินยาก 

.

3. โฟกัสกระบวนการ และเลือกสัญญาณซื้อแค่ 1-2 ตัว:

ยิ่งโฟกัสที่ผลลัพธ์ ก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการเทรดตามอารมณ์เท่านั้น และที่ร้ายแรงจากนั้นก็คือ มันจะทำให้คุณเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย เพราะอยากได้กลยุทธ์ที่จะทำให้คุณ "พอใจทันที พอใจทุกครั้ง" ซึ่งมันไม่มีอยู่จริง

.

แต่ถ้าโฟกัสที่กระบวนการ มันจะช่วยให้คุณใจเย็น และบริหารจัดการการเทรดของคุณได้ดีขึ้น

วิธีการง่าย ๆ คือ เลือกหน้าเทรด หรือ สัญญาณซื้อแค่ 1-2 แบบพอ

ทุกสัญญาณซื้อมันทำเงินให้คุณได้แน่ เพียงแต่มันไม่ได้กำไรทุกครั้ง

ทุกสัญญาณซื้อ มีจุดอ่อน จุดแข็ง อยู่ในนั้น

เมื่อคุณเข้าใจสัญญาณซื้อได้ดีมากพอ คุณจะเริ่มหใ้ความสำคัญกับกระบวนการมากขึ้นตาม เพราะการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอนั้น มันขึ้นอยู่กับ  "การบริหารการเทรด+Position Sizing" ไม่ใช่แค่สัญญาณซื้อ

ถ้าคุณใช้สัญญาณซื้อเยอะ ๆ คุณจะต้องเจอปัญหา Overtrading แน่นอน

.

อ่านเนื้อหาเต็ม ๆ ได้ที่ https://x.com/AsymTrading/status/1793003052770734246

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน