การเทรดคือเกมของฮีโร่ นี่คือตัวอย่างเส้นทางของคุณ

Image
  เส้นทางของ "The Hero's Journey" แบ่งออกเป็นสองโลกคือ Known (โลกที่รู้จัก) และ Unknown (โลกที่ไม่รู้จัก) ซึ่งวีรบุรุษจะต้องเดินทางไปในโลกที่ไม่รู้จัก (Unknown) เพื่อพัฒนาตนเอง ผ่านการผจญภัยและการทดสอบต่าง ๆ ก่อนที่จะกลับมายังโลกที่เขารู้จักพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงภายใน 1. Call to Adventure! (การเรียกสู่การผจญภัย)    - จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเมื่อ "Hero" ได้รับการกระตุ้นให้เข้าสู่การเดินทางใหม่หรือการผจญภัยที่ไม่คุ้นเคย 2. Supernatural Aid (ความช่วยเหลือเหนือธรรมชาติ)    - Hero ได้รับการช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากสิ่งที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติ เช่น กำลังภายใน ความสามารถพิเศษ หรือคำแนะนำจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. Threshold Guardian (ผู้เฝ้าประตู)    - ตัวละครหรือสิ่งที่ยืนขวาง Hero ไม่ให้เข้าสู่โลกที่ไม่รู้จัก วีรบุรุษต้องเอาชนะหรือก้าวผ่านเพื่อเดินหน้าต่อ 4. Threshold (ประตูแห่งการเปลี่ยนแปลง)    - จุดที่ Hero ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความไม่แน่นอน จากสิ่งที่เขารู้ไปสู่สิ่งที่เขายังไม่รู้ 5. Challenges (ความท้าทาย)    - Hero เผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ที่ทดสอบทั้งร่างกายแล

วิธีการที่ช่วยนักเทรดที่ขาดทุนซ้ำซาก หมดตัว พอร์ตไม่โต ตลอด 15 ปี พลิกไปได้กำไรสม่ำเสมอหลังจากนั้น

วิธีการที่ช่วยนักเทรดที่ขาดทุนซ้ำซาก หมดตัว พอร์ตไม่โต ตลอด 15 ปี

พลิกไปได้กำไรสม่ำเสมอหลังจากนั้น คือ...

คิดและเทรดแบบรถถัง + ฟังตลาด + โฟกัสกระบวนการ และเลือกสัญญาณซื้อแค่ 1-2 ตัว

.

1. คิดและเทรดแบบรถถัง:

ตั้งรับให้ดี เสียให้น้อยก่อน รอจนโอกาสดี ๆ เข้ามาจึงจัดหนัก

รีบตัดขาดทุนตั้งแต่เสียหายเล็ก ๆ น้อย

เพื่อเก็บเงินสดก้อนโต รอโอกาสดี ๆ 

การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวของเขาคือ การปรับความเสี่ยงต่อการเทรดของลงเป็น 0.25-0.5% ของเงินทั้งพอร์ตเท่านั้น

การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณเสียหายจากหุ้นผู้แพ้น้อยลง

.

2. ฟังตลาด:

เทรดตามอารมณ์ตลาด ตามความแข็งแรงของหุ้น ไม่ใช่ตามใจตนเอง

อย่าดื้อ เถียงตลาด อย่าแก้แค้นหลังจากขาดทุน เพราะมันจะทำให้คุณขาดทุนหนักกว่าเดิม เพราะเทรดตามอารมณ์

ฟัง feedback จากตลาดให้ดี เช่น ถ้าคุณขาดทุนแสดงว่าตลาดแย่(หุ้นตัวนั้นแย่) ก็ให้ถอนตัวออกมา อย่าไปยุ่งกับมันในตอนนั้น

แต่ถ้าหากคุณได้กำไร แสดงว่าหุ้นตัวนั้น มันเป็นของดี ควรทนรวยกับมันให้นาน จนกว่ามันจะจบแนวโน้ม

คุณควรบุกหนักในตอนที่ตลาดเงินง่าย

และเทรดให้น้อยหรือถือเงินสดอยู่เฉยๆ เมื่อตลาดได้เงินยาก 

.

3. โฟกัสกระบวนการ และเลือกสัญญาณซื้อแค่ 1-2 ตัว:

ยิ่งโฟกัสที่ผลลัพธ์ ก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการเทรดตามอารมณ์เท่านั้น และที่ร้ายแรงจากนั้นก็คือ มันจะทำให้คุณเปลี่ยนกลยุทธ์ไปเรื่อย เพราะอยากได้กลยุทธ์ที่จะทำให้คุณ "พอใจทันที พอใจทุกครั้ง" ซึ่งมันไม่มีอยู่จริง

.

แต่ถ้าโฟกัสที่กระบวนการ มันจะช่วยให้คุณใจเย็น และบริหารจัดการการเทรดของคุณได้ดีขึ้น

วิธีการง่าย ๆ คือ เลือกหน้าเทรด หรือ สัญญาณซื้อแค่ 1-2 แบบพอ

ทุกสัญญาณซื้อมันทำเงินให้คุณได้แน่ เพียงแต่มันไม่ได้กำไรทุกครั้ง

ทุกสัญญาณซื้อ มีจุดอ่อน จุดแข็ง อยู่ในนั้น

เมื่อคุณเข้าใจสัญญาณซื้อได้ดีมากพอ คุณจะเริ่มหใ้ความสำคัญกับกระบวนการมากขึ้นตาม เพราะการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอนั้น มันขึ้นอยู่กับ  "การบริหารการเทรด+Position Sizing" ไม่ใช่แค่สัญญาณซื้อ

ถ้าคุณใช้สัญญาณซื้อเยอะ ๆ คุณจะต้องเจอปัญหา Overtrading แน่นอน

.

อ่านเนื้อหาเต็ม ๆ ได้ที่ https://x.com/AsymTrading/status/1793003052770734246

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

5 Holy Grail ที่ใช้ได้ผลจริง ในการเทรด

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo