52 Week High Breakout Trading Strategy
(อ่านได้จากหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" , "หุ้นวิ่งสวิงเทรด", "ศาสตร์และศิลปะการปั้นพอร์ต")
๑) ไม่ได้เชียร์ ชวนทำการบ้านหาหุ้นเท่านั้น
๒) อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้น False breakout ได้เสมอ มองในมุมความน่าจะเป็นเสมอ
๓) ไม่มีอะไรที่ตรงตามทฤษฏี 100% ขาดทุนได้เสมอ
๔) แม่นยำ 50-50 ก็เพียงพอแล้ว
๕) Exit + Position sizing + Trading Management สำคัญกว่า Entry
๖) ต้องรอด+รักษาเงินต้น คือเป้าหมายแรกของการเทรด
๗) Holy Grail = Positive Expectancy = (avg gain * win %) - (avg loss * loss %)
ไม่สำคัญว่าจะถูกกี่ครั้งผิดกี่ครั้ง แต่สำคัญที่ว่าเมื่อคิดถูกคุณได้มากแค่ไหน
และเมื่อคิดผิด คุณเสียน้อยแค่ไหนต่างหาก
หุ้นที่คุณคิดถูก(กำไร)ต้องมีเงินเดิมพันเยอะ ๆ หุ้นคิดผิดมีเงินในนั้นน้อยที่สุด
การบริหารเงินทุน คือ กุญแจสำคัญ!!
** เคล็ดลับคือ ซื้อไม้แรกน้อย ถ้ามันไม่ขึ้น ก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม รอตัดขาดทุน ไม่กำไรไม่ซื้อเพิ่ม
ถ้ามันวิ่งขึ้น จึงซื้อเพิ่มตามความเหมาะสม ให้มีเงินลงทุนสูงกว่าไม้แรกหลายสิบเท่า
๘) กฎทองคำของการเทรดคือ “Cut your loss short and let’s your profit run”
อะไรที่ทำให้เม่าโหยหวน ร้องระงม ขาดทุนยับ ในตอนที่ SET ลงหนัก ๆ
๑) ซื้อแล้วถือ หวังรวยง่าย ๆ ไม่ต้องทำอะไร จากตลาดหุ้น
๒) ซื้อแบบเล่นหวย หวังให้โชคช่วย ลงทุนด้วยความหวัง(อารมณ์)
๓) ไม่มีแผนการออก ไม่กล้าออก เพราะไม่คิดว่าจะขาดทุนหนัก
๔) เล่นหุ้นแบบงานอดิเรก คิดแบบนักพนัน ได้ก็ดี ไม่ได้ก็โวย
๕) ไม่มีแผน ไม่มีระบบ รอฟ้าฝน(พึ่งพาโชคชะตาอย่างเดียว)
๖) ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ SET แต่อยู่ที่วิธีการ กระบวนการของคุณเองที่ผิด ถ้าไม่แก้ ก็จะโดนอีก
(แนะนำหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" , "หุ้นวิ่งสวิงเทรด", "ศาสตร์และศิลปะการปั้นพอร์ต" และ "เทรดแบบทำธุรกิจ")