หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit

Image
สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven) วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน --- วินัยและระบบอัตโนมัติ การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น ขาย ⅓ ที่ 2R ขายอีก ⅓ ที่ 5R วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว --- หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes) ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA) สรุป: ใช้ระบบขายบ...

ศัตรูตัวใหญ่ที่สุด 3 ประการของเทรดเดอร์ผู้ทะเยอทะยาน

 

ศัตรูตัวใหญ่ที่สุด 3 ประการของเทรดเดอร์ผู้ทะเยอทะยาน ได้แก่:

1. กลัวการสูญเสีย

2. ต้องถูกเสมอ

3. ใช้เลเวอเรจมากเกินไป

- Peter Brandt

.

การเทรดเป็นกิจกรรมที่ต้องมีความรอบคอบสูงและเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง นี่คือเหตุผลที่ทำไมลุงปีเตอร์ จึงบอกเช่นนี้

.

1. **กลัวการขาดทุน (Fear of Losses)**:

    - **สาเหตุ**: การขาดทุนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในการซื้อขาย และนักเทรดทุกคนต้องเผชิญ การกลัวการขาดทุนมักจะทำให้นักเทรดไม่กล้าที่จะทำการซื้อขายหรือปิดการซื้อขายก่อนเวลาอันควร เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน

    - **ผลกระทบ**: การกลัวการขาดทุนทำให้นักเทรดไม่สามารถทนต่อความผันผวนของตลาดได้ ส่งผลให้พลาดโอกาสในการทำกำไรที่ดี นอกจากนี้ยังอาจทำให้นักเทรดเลือกที่จะไม่ทำการซื้อขายเลย ซึ่งทำให้ขาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทน

.

2. **ความต้องการที่จะถูกเสมอ (Need to be Right)**:

    - **สาเหตุ**: การที่นักเทรดต้องการที่จะถูกเสมอในการทำนายทิศทางของตลาดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความมั่นใจเกินไปในการตัดสินใจ ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดติดกับมุมมองของตนเองโดยไม่ยอมรับข้อมูลใหม่ ๆ หรือไม่ปรับกลยุทธ์

    - **ผลกระทบ**: ความต้องการที่จะถูกเสมอทำให้นักเทรดไม่สามารถปรับตัวตามตลาดได้ ซึ่งเป็นการขัดขวางความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ซึ่งจำเป็นในการรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาด การยึดติดกับมุมมองที่ผิดพลาดสามารถนำไปสู่การขาดทุนมากขึ้น

.

3. **การใช้เลเวอเรจมากเกินไป (Becoming Over-Leveraged)**:

    - **สาเหตุ**: เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่สามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุน การใช้เลเวอเรจมากเกินไปเป็นการเพิ่มขนาดของการลงทุนโดยใช้เงินที่ยืมมา ซึ่งทำให้นักเทรดมีความเสี่ยงสูงขึ้น

    - **ผลกระทบ**: การใช้เลเวอเรจมากเกินไปทำให้นักเทรดสามารถขาดทุนมากกว่าที่ลงทุนจริง ๆ ได้ ถ้าตลาดเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ การขาดทุนจากการใช้เลเวอเรจอาจส่งผลกระทบต่อการเงินอย่างรุนแรงและทำให้นักเทรดต้องออกจากตลาด

.

**สรุป**: ความกลัวการขาดทุน ความต้องการที่จะถูกเสมอ และการใช้เลเวอเรจมากเกินไป เป็นศัตรูหลักของนักเทรดเพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบและขาดการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี การเข้าใจและการบริหารจัดการปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่นักเทรดต้องทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการซื้อขาย





7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit