Posts

นักแม่นปืน กับ นักเทรด เหมือนกันตรงไหนบ้าง?

 (ข้อคิดดี ๆ จาก Amrit Sall - Unknown Market Wizards) นักแม่นปืน กับ นักเทรด https://twitter.com/SallAmrit/status/1645849672534179840 . ๑) นักแม่นปืน กับ นักเทรด มีนิสัยเหมือนกันคือความแม่นยำ  นักแม่นปืนต้องมุ่งเป้าไปที่เลเซอร์และอดทนเพื่อรอการยิงที่สมบูรณ์แบบ เทรดเดอร์จะต้องมีวินัยและความอดทนรอคอย รอโอกาสที่เหมาะสมในการโจมตี . ๒) ทั้งคู่จะต้องสามารถปรับให้เข้ากับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้  ไม่ว่าจะเป็นลมและภูมิประเทศสำหรับนักแม่นปืน  หรือความผันผวนของตลาดและเหตุการณ์ข่าวสำหรับนักเทรด . ๓) และเช่นเดียวกับที่นักแม่นปืนต้องสามารถจัดการการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อรักษาเป้าหมายที่มั่นคง  เทรดเดอร์จะต้องสามารถจัดการอารมณ์ของตนเพื่อตัดสินใจอย่างมีเหตุผลท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอน . ๔) โดยพื้นฐานแล้ว  นักแม่นปืนและนักเทรดต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานฝีมือ(masters of their craft) โดยใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญเพื่อเข้าถึงเป้าหมายและบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยความแม่นยำขั้นสูงสุด

อยากเข้มแข็งและกล้าหาญมากขึ้นมั้ย? ลองบอกตัวเองด้วย 17 ประโยคนี้ทุกวัน

Image
ถ้อยคำแห่งกำลังใจสำหรับความกล้าหาญและความแข็งแกร่งเมื่อคุณต้องการ: สิ่งที่ต้องพูดกับตัวเอง Words of Encouragement for Courage & Strength When You Need It: Things to Say to Yourself 1. ฉันไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันได้ แต่ฉันสามารถควบคุมวิธีตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในการตอบสนองของฉันคือพลังของฉัน 2. ฉันเป็นผู้พิทักษ์จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณของฉัน ฉันป้องกันตัวเองจากการคิดลบ ไม่มีความมืดใดสามารถหรี่แสงของฉันได้ 3. ฉันพยายามทำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ และสิ่งที่ดีที่สุดของฉันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ 4. ฉันใช้ชีวิตไปทีละขั้น ก้าวต่อไปของฉันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ 5. ฉันไม่จำเป็นต้องมีคำตอบทั้งหมด ฉันมีความกล้าที่จะเคารพคำถามก่อนที่คำตอบจะมา 6. ด้วยเวลา ความพยายาม และความทุ่มเทที่เพียงพอ ฉันสามารถเรียนรู้สิ่งที่ต้องการเพื่อประสบความสำเร็จได้ 7. ฉันเข้มแข็งและฉลาดพอที่จะเติบโตจากความเจ็บปวด 8. ฉันสามารถใช้ความคิดเพื่อสร้างความรู้สึกที่ฉันต้องการมากขึ้นได้ 9. ความฝันของฉันเป็นไปได้และฉันสามารถใช้ชีวิตตามนั้นได้ 10. ฉันเป็นมากกว่าความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน ฉันเป็นมากกว่าความกลัวและคว

การเทรดคือ Solopreneur ผู้ประกอบการคนเดียว

Image
 คุณกำลังอยู่ในธุรกิจการเทรดของคุณเอง (การเทรดคือ Solopreneur ผู้ประกอบการคนเดียว) หน้าเทรดของคุณ คือ สินค้าของคุณ การซื้อขายของคุณ คือลูกค้าของคุณ Risk : Reward Ratio ของคุณ คือ ส่วนต่างกำไรของการค้าของคุณ Position Size ของคุณ คือ ขนาดความเสี่ยงของธุรกิจคุณ บันทึกการเทรดของคุณ คือ บัญชีรายรับรายจ่ายของคุณ (สำคัญที่สุดคือ) ตัวคุณเอง คือ สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของธุรกิจคุณ - Tradeciety - Rolf . (ใช่ การเทรดเป็นธุรกิจ...แต่) การเทรดก็ไม่ใช่ธุรกิจที่เปิดร้านแล้วทำเงินได้แน่นอนเหมือนธุรกิจทั่วไป การเทรดเป็นเรื่องของการเก็บเล็กผสมน้อย บางครั้งคุณก็ได้กำไรก้อนโต แต่ส่วนใหญ่คุณจะได้กำไรมาทีละนิดหน่อย ฉะนั้นทุกครั้งที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนเงินสดเป็นหุ้น คุณควรให้แน่ใจว่าโอกาสที่คุณจะได้กำไรสูงกว่าขาดทุน  ถ้าไม่ชัวร์ คุณต้องรู้จักรอคอย เก็บเงินสดไว้ก่อนจะดีกว่า - Mark Minervini

Mindset ผู้ชนะ ของพี่ Mark Minervini

Image
ประเด็นสำคัญจากบทความ How Early Stock Losses Built A Champion Stock Trader . 1) โชคดี(ฟลุก)ของมือใหม่ Beginner's Luck ของ Mark Minervini เริ่มต้นในปี 1983 กับหุ้นของบริษัท Allis-Chalmers ผู้ผลิต forklifts และ tractors นี่เป็นหุ้นตัวแรกที่ Mark Minervini เข้าซื้อที่ราคา $4 ซึ่งอยู่ไกล้ ๆ 52-week low แล้วจากนั้นราคาก็พุ่งทะยานขึ้น ทำให้เขาได้กำไรจากมันมากมาย ทำให้เขาคิดว่า "ว้าว...การลงทุนมันช่างง่ายอะไรอย่างนี้" ก็แค่ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำที่สุดให้ได้ แล้วก็ถือ แค่นี้ก็รวยแล้ว . แต่หลังจากการได้กำไรครั้งนั้น ตลาดก็สั่งสอนเขา ทำให้ 6 ปีจากนั้นเขาไม่เคยได้กำไรเลย แถมหมดตัวไปสองครั้ง (ใช่...กำไรจาก Allis-Chalmers เป็นแค่ความฟลุคเท่านั้นเอง) . 2) ผู้ชนะใช้การขาดทุนหนักเป็นแรงบันดาลใจ แต่...ด้วยความที่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นผู้แพ้ในเกมนี้ แทนที่จะใช้การขาดทุนหนัก หมดตัวเป็นเหตุผลในการล้มเลิก Mark Minervini กลับใช้มันเป็นเหตุผลในการสู้ ใช้มันเป็นตัวเปลี่ยนเกม พลิกให้เขากลับไปเป็นผู้ชนะ . 3) ใช้ความผิดพลาดเป็นเบาะแสพัฒนาตนเอง ตั้งแต่ต้นปี 1990 Mark Minervini ใช้เวลาหาคำตอบว่าเขาทำอะ

Great trader นั้น 'ถูกสร้าง' ไม่ได้สุดยอดตั้งแต่เกิด คุณต้องสร้างมันขึ้นมาเอง

Image
Great trader นั้น 'ถูกวางแผนและสร้างมันขึ้นมาใหม่'  ไม่ได้ Great ตั้งแต่เกิด แต่อย่างใด ไม่มีใครที่เข้ามาเทรดแล้วประสบความสำเร็จขั้นสูงได้ทันที กว่าจะเป็น Great trader นั้นต้องใช้ความทุ่มเท การทำงานหนัก การฝึกฝน มีความเพียร และความเต็มใจที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถที่จำเป็นเพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในงานที่ท้าทายอย่างยิ่งนี้ - Steven Goldstein แรงบันดาลใจที่เราได้จากประโยคนี้คืออะไร? ๑) ความสำเร็จในการเทรดนั้น ไม่ได้มาจากชาติกำเนิด แต่มาจากความพยายาม ฝึกฝน ความตั้งใจ และการเสียสละทุ่มเท จนกระทั่งเชี่ยวชาญ  นั่นหมายความว่า "ทุกคนมีโอกาสสำเร็จได้" ถ้าตั้งใจและอยากได้มากพอ . ๒) แสดงว่า ความสำเร็จนั้น มันเป็น "สิ่งที่เราควบคุมได้" มันอยู่ในอำนาจของเราที่จะเป็นเจ้าของมันได้แน่ ถ้าตั้งใจและอยากได้มากพอ . ๓) เมื่อรู้ว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะเป็น Great trader ได้แน่ นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของคุณ "มันอยู่ในกำมือของคุณ" งานคุณก็ง่ายขึ้นแล้ว ส่วนที่เหลือคือ "ทำกระบวนการที่จะทำคุณไปสู่เป้าหมายให้ได้เท่านั้นเอง - ด้วยการ ใช้ความทุ่มเท การทำงานหนัก การฝึกฝ

15 บทเรียนจากหนังสือ Driving with Plato: The Meaning of Life's Milestones โดย Robert Rowland Smith

Image
15 บทเรียนจากหนังสือ Driving with Plato: The Meaning of Life's Milestones โดย Robert Rowland Smith: 1. ชีวิตคือการเดินทางไม่ใช่จุดหมายปลายทาง อย่ายึดติดกับเป้าหมายสุดท้ายจนเกินไป เพลิดเพลินไปกับการเดินทางไปพร้อมกัน 2. ทุกประสบการณ์คือโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต แม้แต่ประสบการณ์เลวร้ายก็สามารถสอนเราถึงสิ่งที่มีคุณค่าได้ 3.อย่ากลัวที่จะเสี่ยง ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต มักเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ทำ 4. ทำตามหัวใจของคุณ อย่าปล่อยให้ความคาดหวังของคนอื่นมากำหนดทางเลือกของคุณ 5. ซื่อสัตย์กับตัวเอง อย่าพยายามเป็นคนที่ไม่ใช่คุณ 6.อย่ากังวลกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าจะกังวลกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ 7. จงขอบคุณสิ่งที่คุณมี มีคนที่มีน้อยกว่าคุณเสมอ 8. ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นผลดีต่อจิตวิญญาณและทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น 9. แสดงตน อย่ายึดติดกับอดีตหรือกังวลถึงอนาคต จงมุ่งความสนใจไปที่ที่นี่และเดี๋ยวนี้ 10. ปล่อยวางการควบคุม สิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนเสมอไป เรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งนั้น และดำเนินไปตามกระแส 11. จงอดทน. สิ่งที่ดีมาให้กับผู้ที่รอ. 12. อย่าละทิ้งความฝันของคุณ ไม่ว่าจะเจอเรื่องยากแ

อยากให้ Expectancy เป็นบวก ต้องให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมของตลาด (แค่มีวินัยตัดขาดทุนไม่พอ)

Image
Expectancy กับ อิทธิพลของสภาพแวดล้อมของตลาด https://x.com/PaulStifler3/status/1704643224202055772?s=20 ความคาดหวังในการซื้อขายคือการวัดจำนวนเงินโดยเฉลี่ยที่คุณสามารถคาดหวังที่จะชนะ (หรือแพ้) ต่อการซื้อขาย โดยพิจารณาจากอัตราการชนะและขนาดการชนะ/ขาดทุนโดยเฉลี่ย เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์เพราะมันให้มุมมองแบบองค์รวมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบการซื้อขายมากกว่าแค่ดูที่อัตราการชนะหรือปัจจัยกำไรเพียงอย่างเดียว สูตรสำหรับ Expectancy:  (Win Rate×Avg Win)−(Loss Rate×Avg Loss) อย่างไรก็ตาม ตัวแปรเหล่านี้ไม่คงที่ พวกมันมีความเคลื่อนไหวและได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสภาวะตลาดที่เป็นอยู่ แม้ว่าคุณจะลดการขาดทุนในทุกการซื้อขายอย่างเคร่งครัด แต่อัตราการชนะและกำไรเฉลี่ยของคุณก็ยังคงผันผวนอยู่ตลอดเวลา ในตลาดที่ย่ำแย่ อัตราการชนะจะอยู่ในถังและกำไรโดยเฉลี่ยจะลดลง ดังนั้นการตัดขาดทุนให้สั้นลงในขณะที่พยายาม "ทำให้บางสิ่งเกิดขึ้น" ในตลาดที่ย่ำแย่ต่อไปจึงเป็นวิธีที่รวดเร็วในการเจาะรูในบัญชีของคุณและทำให้การขาดทุนแย่ลง Win Rate และสภาวะตลาด: ในตลาดกระทิงหรือมีแนวโน้ม แม้แต่กลยุทธ์ระดับปานกลางก็สา

ตะลุยอ่านหนังสือดีๆหลายสิบเล่ม-แค่รอบเดียว...แทบไม่ได้อะไร

Image
ตะลุยอ่านหนังสือดีๆหลายสิบเล่ม-แค่รอบเดียว...แทบไม่ได้อะไร แต่การละเลียดอ่านหนังสือดีๆเล่มเดียว-หลายสิบรอบ...คุณจะได้อะไรๆ มากมาย...ช่วยให้คุณเชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นจริงๆ...ซึ่งความเชี่ยวชาญจะทำให้คุณมั่งคั่งได้ หากคุณอ่านหนังสือดีๆ จบรอบเดียวหรือสองรอบ แล้วคิดว่า “ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว" แสดงว่าคุณหลงผิดอย่างมาก  หนังสือใดๆ ที่เขียนจากประสบการณ์เชิงลึก ของผู้ที่สำเร็จอย่างแท้จริงที่เขียนจากประสบการณ์ 30-40 ปีของเขา คุณต้องใช้เวลาอ่าน 10, 20 หรือมากกว่านั้นเพื่อเริ่มรวบรวมข้อมูลให้ได้ครบโดยสมบูรณ์ และที่สำคัญคุณยังต้องใช้ประสบการณ์ชีวิตจริงเพื่อทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งอีกด้วย  - Mark Minervini . ทำไมต้องอ่าน "คิดและเทรดอย่างแชมป์" หลายรอบขนาดนั้น? จำไว้เสมอว่า คุณจะซึมซับข้อมูลได้เท่าที่ประสบการณ์ที่คุณมี ถ้าคุณยังไร้ประสบการณ์ แม้คุณจะอ่านหนังสือทุกหน้าแล้ว คุณก็จะดึงข้อมูลไปเก็บไว้ในความทรงจำของคุณเท่าที่หน่วยความเชื่อมโยงของคุณจะรับได้เท่านั้น . เปรียบภาพให้เห็นตัวอย่างง่าย ๆ เซียนที่เขาสำเร็จนั้น เหมือนคนที่เดินไปถึงยอดเขาแล้ว ถึงจุดสูงสุดแล้ว สมมุติว่าบันไดประสบการณ์ที่เ

ทำไมช่วง 6 ปีแรกของอาชีพนักเทรดของพี่ Mark Minervini จึงพอร์ตพัง-หมดตัว? และจุดเปลี่ยนที่ทำให้กลับมาเป็นผู้ชนะคืออะไร?

Image
"เพื่อให้ทุกอย่างมันเคลียร์ 100%  ผม(จะบอกความจริงให้คุณรู้ทั่วกันว่า)ได้ทำผิดพลาดนับพันครั้งตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีแรก(ผมพลาดเละเทะมาก) ... แต่กุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาวของผมคือ การหลีกเลี่ยงความเสียหายจากความผิดพลาดครั้งใหญ่ และยอมให้หุ้นที่ดีที่สุดเป็นแนวทางในการลงทุนของผมเสมอ โดยผมจะไม่โต้เถียงกับคำตัดสินของตลาดเด็ดขาด" - Mark Minervini จากภาพบน ตรงที่เป็นกรอบสีแดงคือช่วงแรกที่พี่มาร์คเข้าสู่ตลาด ทั้ง ๆ ที่ตลาดเป็นขาขึ้นแต่แกก็ยังทำเงินไม่ได้ ๑) เหตุผลคือในตอนนั้น แกใช้กลยุทธ์ซื้อหุ้น laggard หุ้นที่ทำจุดต่ำสุดใหม่แบบวีไอมือสมัครเล่นทำ หาหุ้นไม่เป็น ซื้อหุ้นตามคำแนะนำของมาร์เก็ตติ้งให้เล่นหุ้นปั่นสตอรี่ ซ้ำร้ายคือ - แกไม่ขายไม่ขาดทุน - และ ถัวเฉลี่ยขาดทุน จึงทำให้พอร์ตพัง หมดตัวไป (ปัญหาไม่ใช่แนวทางวีไอ - แต่เป็นเพราะแกรู้ไม่จริง และไม่มีการบริหารความเสี่ยงเลย) ๒) แกกลับมาอีกครั้ง พร้อมเงินก้อนใหม่ และเปลี่ยนมาร์เก็ตติ้งใหม่ แต่ด้วยความที่คบกันแบบคู่คิดคู่แข่ง ทำให้ตอนที่ขาดทุนไม่กล้าบอกให้ตัดขาดทุน(ในอดีตนั้น จะซื้อขายหุ้นต้องให้มาร์เก็ตติ้งทำให้) จึงอมพะนำไว้

10 นิสัยของนักเทรดที่ไม่ได้กำไร

Image
10 นิสัยของนักเทรดที่ไม่ได้กำไร 10 Bad Habits Of Unprofitable Traders โดย Steve Burns 1. เทรดเน้นปริมาณแต่ได้คุณภาพต่ำ ทำให้ยิ่งขยันเทรดยิ่งขาดทุน 2. เทรดสวนเทรนด์ ต้องการพยายามจับจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเสมอ แต่เมื่อ ความแม่นยำต่ำ ยิ่งขยันก็ยิ่งขาดทุน 3. ขายเก็บกำไรไวเกิน กำไรน้อยก็รีบขาย แต่พอขาดทุนกลับเก็บเอาไว้ก่อนโดยหวังว่าจะฟื้นตัวกลับคืนมาเท่าทุน เพราะไม่เข้าใจประโยชน์ของ Risk Reward ที่เป็นธุรกิจ 4.ต้องการเป็นคนถูกมากกว่าอยากทำเงิน นั่นคือพอคิดผิดก็ไม่ต้องการยอมรับผิด พอขาดทุนกลับเก็บเอาไว้ก่อนโดยหวังว่าจะฟื้นตัวกลับคืนมาเท่าทุน ไม่รู้จักบริหาร Risk Reward ที่เป็นธุรกิจ 5. อยากรวยเร็ว รวยด่วน จึง Position Size โตเกินไป พอพลาดมาแค่ครั้งสองครั้งก็ขาดทุนหนักพอร์ตพังอย่างเร็ว 6. ไม่ทำการบ้านเอง ชอบหาหุ้นจากนักวิเคราะห์/กูรูนักเชียร์หุ้น 7. เทรดตามอารมณ์ความรู้สึก ความชอบ ไม่มีระบบ 8. ต้องการชนะทุกครั้ง ไม่ผิดเลย Win Rate 100% 9. มองหาทางลัดรวยไว ชอบหุ้นปั่น ชอบอินไซด์ 10. คิดเพียงว่า ถ้าคิดถูกจะได้เท่าไหร่ - แต่ไม่เคยคิดว่า ถ้าคิดผิดจะยอมเสียเท่าไหร่

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

7 นิสัย ของนักเทรดมืออาชีพ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง

การเทรดยังคงเป็นเรื่องยาก หากยังไม่เข้าใจ 3 Concepts นี้