Posts

Showing posts from February, 2024

ถ้าคุณต้องการรู้จักนิสัยของตลาดให้มากที่สุด ให้เดินไปที่ชายหาด ก้าวลงไปในน้ำทะล

Image
ถ้าคุณต้องการรู้จักนิสัยของตลาดให้มากที่สุด ให้เดินไปที่ชายหาด ก้าวลงไปในน้ำทะล แล้วลองผลักน้ำจากฝั่ง ทำคลื่นดันกลับเข้าไปหาทะเล สร้างคลื่น สู้กับทะเล ลองทำดู ทั้งคลื่นลูกเล็ก และคลื่นลูกใหญ่ คุณจะพบว่า ไม่ว่าคุณจะสร้างคลื่นดันกลับไปในรูปแบบไหน คุณจะไม่มีทางชนะคลื่นจากทะเลได้เลย  ไม่มีทาง ความจริงที่คุณได้จากเรื่องนี้คือ "ตลาดจะถูกเสมอ" . Market Wizards ยอมรับตรงกันว่า "ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ" พวกเขาไม่เคยหัวเสียกับตลาด(เพราะเคยทำมาแล้วในตอนเป็นมือใหม่) พวกเขาไม่เคยโทษตลาด(เพราะเคยทำมาแล้วในตอนเป็นมือใหม่) . พวกเขาแค่ยอมรับว่าตลาดจะทำในสิ่งที่มันจะทำ พวกเขาแค่ยอมรับว่าเขาไม่สามารถเอาชนะตลาดได้ จากนั้นสิ่งที่พวกเขาทำก็คือ ๑) อ่านตลาด ๒) แยกแยะความเสี่ยงกับโอกาสให้ได้ ๓) หาโอกาสทำเงินเมื่อตลาดให้โอกาส และอยู่เฉย ๆ ถือเงินสดเมื่อตลาดเป็นความเสี่ยง ๔) คิดก่อนเสมอว่า "ถ้าตลาดไม่ให้เงิน(เทรดขาดทุน) ฉันจะยอมเสียกี่บาท" การเอาตัวรอด คือเป้าหมายแรกของยอดนักเทรด เพราะคิดแบบนี้...ไม่ว่าตลาดจะร้ายแค่ไหน ยอดนักเทรดก็จะรอดเสมอ #จิตวิทยาการเทรด #ปั้นพอร์ต #วินัยนัก

การเทรดคือธุรกิจตอบสนอง ไม่ใช่การทำนาย

Image
ผู้คนชอบถามผมว่า ๑) ปีนี้ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร หรือ ๒) จุดต่ำสุด ของ S&P 500 จะเป็นเท่าไหร่ . พวกเขาคิดว่านักเทรดชั้นยอดนั้นต้องรู้อนาคต นั่นเป็นการเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง . การเทรดเป็นธุรกิจที่อยู่กับปัจจุบัน! . ผมอยู่ในธุรกิจตอบสนอง ไม่ใช่การทำนาย (ผมเป็นนักบริหารการเทรด ผมไม่ได้เป็นหมอดูทำนายอนาคต) ไม่มีใครทำนายอนาคตได้ และไม่จำเป็นต้องรู้อนาคตก็ทำกำไรได้มหาศาล

Mindset ความน่าจะเป็น คือกุญแจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ กับระบบเทรดแบบ Breakout

Image
Mindset ความน่าจะเป็น  คือกุญแจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ กับระบบเทรดแบบ Breakout ๑) อะไรก็เกิดขึ้นได้ - ตลาดคือความคาดเดาไม่ได้  เช่น เมื่อวานราคา breakout สวยมาก  แต่วันนี้มันอาจจะร่วง false breakout หน้าตาเฉยก็ได้ . ๒) คุณสามารถทำเงินจากการเทรดได้-โดยไม่รู้อนาคต  แค่คุณมีระบบเทรดที่ได้เปรียบ (หรือ Edge) คุณก็สามารถทำกำไรได้ คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าราคาจะไปถึงระดับไหน แค่ทนรวยตามแนวโน้มก็พอ . ๓) Edge หรือ การเทรดที่ได้เปรียบนั้น ไม่ได้ชนะทุกครั้ง ไม้ได้มี Win rate 100% มันก็มีขาดทุนกำไรปะปนอยู่ในการเทรดจำนวนหลายครั้งนั้น  เพราะ Edge คือ Positive Expectancy  แม้คุณจะมี Win rate แค่ 30-35% (ระบบ trend following) แต่ถ้าผลการเทรดออกมาได้ Positive Expectancy ระบบนั้นก็มีความได้เปรียบระดับสุดยอดแล้ว . ๔) Edge ไม่ได้หมายความว่ามันจะชัวร์ทุกครั้ง ก็แค่มันมีโอกาสเกิดเรื่องหนึ่งมากกว่าอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง เช่น การเทรดแบบ breakout ฐานราคา  โอกาสที่หนึ่ง: หลังจากที่มันทะลุขึ้นไปได้แล้ว มันวิ่งไปต่อ หากยังคงรักษาโมเมนตัมได้ มันก็จะวิ่งตามแนวโน้มให้กำไรก้อนโตแก่เรา โอกาสที่สอง : หลังจากท

ความเห็นและคำแนะนำสำหรับมือใหม่ของพี่มาร์ค มิเนอร์วินี

Image
ความเห็นและคำแนะนำสำหรับมือใหม่ของพี่มาร์ค มิเนอร์วินี ๑) หนึ่งในความผิดพลาดใหญ่หลวงที่สุดของมือใหม่ที่ผมเห็นคือพวกเขาโฟกัสที่ผลลัพธ์มากเกินไปแถมยังต้องการกำไรก้อนโตและไวที่สุด พวกเขาลืมความจริงที่ว่า ช่วงเริ่มต้นนั้นพวกเขายังเป็นนักเทรดที่ห่วยมาก  คุณไม่มีทางได้ผลงานระดับสุดยอดได้ตั้งแต่ยังเป็นมือใหม่แน่นอน  เรื่องนี้ต้องใช้เวลา จนกระทั่งคุณทำกระบวนการได้ดีที่สุดก่อนเท่านั้น - คุณถึงจะปั้นพอร์ตได้สม่ำเสมอและยั่งยืน ๒) ตอนที่ผมยังเป็นมือใหม่นั้น ผมบังคับตัวเองให้ดูเฉพาะกราฟหุ้นรายวันและสัปดาห์เท่านั้น - ดูเฉพาะหุ้น - ไม่ให้ความสำคัญกับดัชนีมาหนัก - ลองทำดู แล้วคุณจะมีพัฒนาการที่รวดเร็ว ๓) มือใหม่ถูกดูดเข้าตลาดเพราะความตื่นเต้น เมื่อเวลาผ่านไป พอเจอความยากลำบากเข้า ส่วนใหญ่จะเลิกล้มและถอนตัว ดังนั้น ตัวชี้วัดว่าใครจะไปได้ไกลกว่า...คือความมุ่งมั่น เมื่อเวลาผ่านไป...คุณจะพบว่า จริงๆ แล้วคุณมีความมุ่งมั่นเพียงใด ๔) เหตุใดนักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่จึงล้มเหลวในการสร้างผลงานที่เหนือกว่าและเลิกล้มถอนตัว?  เพราะพวกเขาคิดว่า "นักเทรด" ต้องโฟกัสที่ เงินทอง ความเย้ายวนใจ และความตื่นเต้น...มา

ผลตอบแทนมหาศาล(จากการเทรด/ลงทุน)ไม่ได้มาจากการได้กำไรก้อนโตจากผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่(เพียงอย่างเดียว)... แต่มันต้องมาจากความสม่ำเสมอและการจำกัด Drawdown(ก่อนเสมอ)

Image
That is, big returns don't come from having big winners... they come from consistency and limiting drawdowns.  ผลตอบแทนมหาศาล(จากการเทรด/ลงทุน)ไม่ได้มาจากการได้กำไรก้อนโตจากผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่(เพียงอย่างเดียว)... แต่มันต้องมาจากความสม่ำเสมอและการจำกัด Drawdown(ก่อนเสมอ) บทความนี้ พี่มาร์ค ได้ยกเคสของคุณ Cathie Wood ที่เก่งมาก ๆ เรียกได้ว่าถึงขั้นอัจฉริยะเลย แถมยังมี "ทีมวิจัยที่ดีที่สุดในโลก" ช่วยอีกต่างหาก แต่ด้วยความที่ยังไร้ประสบการณ์ จึงไม่มีแผนการจัดการความเสี่ยง! (เพราะอาจจะคิดว่าตนเองเก่งกว่าตลาด - เนื่องจากเชื่อว่าทฤษฎีต้องถูกเสมอ) และเมื่อตลาดเป็นขาลงสุดโหดแค่ครั้งเดียว แถมพื้นฐานหุ้นเปลี่ยนตาม(แต่พวกเธอไม่เชื่อ) กองทุน ARKK ของเธอ Drawdown ไปแล้วมากกว่า 80% ซึ่งจากนี้ไปเธอต้องการผลตอบแทน 400% เท่านั้นถึงจะกลับมาเท่าทุน มันยากมาและท้าทายมาก สำหรับนักลงทุนคนหนึ่ง . พี่มาร์ค จึงให้ข้อคิดกับนักเทรด/ลงทุนมือใหม่ไว้ว่า ๑) อย่าคิดแต่จะบุกอย่างเดียว แต่จงให้ความเสี่ยงมาก่อนเสมอ ถ้าคุณจำกัด Drawdown ได้ดีก่อน การได้กำไร แม้จะเล็กน้อย ๆ แต่เมื่อมันทบต้นไปนานพอ คุณก็จะได้รับ

Aha Moment ในเกมการเทรด ๓ เรื่อง ของ Tom Basso

Image
Aha Moment ในเกมการเทรด ๓ เรื่อง ของ Tom Basso ที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับนักเทรดที่ดิ้นรน ยังไม่คลิกในเกมนี้ ปล. Aha Moment คือการเข้าใจถ่องแท้ รู้แจ้ง ว่าอะไรเป็นอะไรอย่างแท้จริง มันคล้ายกับคำพูดของไอน์สไตน์ ที่ว่า "คุณต้องเรียนรู้กติกาของเกม จากนั้นคุณต้องเล่นให้ดีกว่าคนอื่น" Tom Basso เทรดสไตล์ Trend Following ๑) อินดิเคเตอร์(สำหรับการเทรดแบบติดตามแนวโน้ม)นั้นไม่สำคัญมากนัก อย่าหมกมุ้นเสียเวลาค้นหาอินดิเคเตอร์เทพ เพราะแท้จริงแล้วมันก็ส่งสัญญาณในเวลาใกล้เคียงกัน ๒) Position Size ต่างหากที่สำคัญมากกว่าอินดิเคเตอร์(ที่บอกแค่จะเข้าและออกตรงไหน) ถ้าคุณปรับแต่ง Position Size ได้ดี มันก็จะส่งผลให้คุณได้ Return to risk ratio ที่ดีตามมาด้วย การตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกตำแหน่งในพอร์ตโฟลิโอมีขนาดที่เหมาะสมและมีส่วนทำให้เกิดผลกำไรและขาดทุน-จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานราบรื่นและควบคุมการ Drawdown ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Return to risk ratio และช่วยรักษาจิตใจในการเทรดของคุณให้สมดุลมากขึ้น ๓) คุณไม่จำเป็นต้องเทรดเพียงกลยุทธ์เดียว การกระจายความเสี่ยงไปยังตลาด-ช่วงเวลา-ตราสารและอินดิเคเตอร์ที่ห

นักเทรดมาแล้ว 20 ปี อ่านหนังสือ 1000 เล่ม หมดตัว 4 ครั้ง เพิ่งคลิกเทรดได้กำไร นี่คือคำแนะนำ ที่เขาอยากบอกมือใหม

Image
ฉันพูดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการต่อสู้ดิ้นรนของฉันด้วยเหตุผลหลายประการ: 1) ฉันไม่ได้พยายามขายฝันให้คุณ มีตัวชี้วัดเวทย์มนตร์และระบบกล่องดำมากมายที่รับประกันความร่ำรวยไม่รู้จบ นักพัฒนาเหล่านี้ไม่ค่อยบอกคุณว่าตัวบ่งชี้และระบบเหล่านี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนดูมีประโยชน์อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ค้าที่มีความหวังใช้เงินก้อนโตเพื่อค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์ เชื่อฉันเถอะ ฉันใช้เงินไปกับหนังสือซื้อขาย หลักสูตร ฯลฯ ในรอบ 20+ ปีมากกว่าที่คุณส่วนใหญ่มีในบัญชีซื้อขายหรือบัญชีธนาคารของคุณ ฉันชอบคิดว่ามันเหมือนกับค่าเล่าเรียนที่แพงมากในโรงเรียนศิลปศาสตร์หรูบางแห่ง แต่ฉันหางานไม่ได้เพราะว่าฉันไม่มีทักษะหรือความรู้ที่เป็นประโยชน์ 99.9% ของทุกสิ่งที่ฉันอ่านมานั้นไร้ค่าและเป็นไดรฟ์ที่บรรจุใหม่ จากหนังสือ 1,000 เล่ม ฉันอาจชี้ไปที่น้อยกว่า 20 เล่มที่ฉันอ่านและอ้างอิงซ้ำหลังจากอ่านครั้งเดียว 2) พวกคุณส่วนใหญ่ยังไม่ได้เรียนรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ในวิสัยทัศน์แห่งความร่ำรวยที่เต็มไปด้วยดวงดาว ความจริงก็คือเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ไม่นาน เต่าส่วนใหญ่ไม่เคยไปถึงทะเล - พวกมั

แนะนำอีบุ๊กฟรี "10 ปี Zyo Trading Journey"

Image
"10 ปี Zyo Trading Journey"  มีให้อ่านฟรีแล้วที่แอพ Meb เข้าไปรับสิทธิ์ได้ตามลิงค์นี้ครับ  https://www.mebmarket.com/ebook-285359-10-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-Zyo-Trading-Journey เจตนาการเขียน "10 ปี Zyo Trading Journey" ไม่ได้ตั้งใจจะอวดว่าผมประสบความสำเร็จมากแค่ไหน(เพราะว่าผมก็ยังคงไม่สำเร็จอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน) แต่ผมอยากจะบอกเล่าให้คุณได้อ่านว่า "ผมได้อะไรบ้างจากการเทรด"  ผมว่าประเด็นนี้สิ่งที่ผมได้นำเสนอให้อ่านต่อไปนี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับนักเทรดจำนวนมากของตลาดว่าท่านควรที่จะมองหาอะไรและเก็บเกี่ยวอะไรจากการเทรดได้บ้าง  ตรงนี้สำคัญกว่าเพราะผมมองว่าการเทรดนั้นความมั่งคั่ง(เงินกำไร)ก็คือเมนคอร์ส แต่ผลพลอยได้จากการเทรดนั้นก็คือออเดิร์ฟที่แสนอร่อยและมีประโยชน์  หนำซ้ำมันคือจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเติมเต็มศักยภาพการเทรดของคุณให้ดีพอต่อการทำเงินได้ในบั้นปลายนั่นเองครับ คำนำ ยินดีด้วยนะครับที่ท่านได้อ่านอีบุ๊คเล่มนี้ ท่านโชคดีมาก ที่หาญกล้าบอกว่าท่านโชคดี...ก็เพราะว่าไม่น่าจะมีใคร(ที่เป็นนักเทรดที่ยังไม่รวย)ที่กล้า(จะเรียกว่าหน้าด้านก็ได้นะ)เขียนเขียนประสบการณ์ที่ยังไม่สำเ

คุณพี่สาววัยเกษียณ สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 155% ด้วยเคล็ดลับพัฒนาตนเอง 4 ข้อ และอ่านหนังสือ 2 เล่ม

Image
ผู้บริหารด้านการดูแลสุขภาพที่เกษียณแล้วกลับมา 155% ในปี 2020 หลังจากเรียนรู้ที่จะซื้อขายหุ้น เคล็ดลับยอดนิยม 4 ข้อในการเอาชนะตลาดและหนังสือ 2 เล่มที่ช่วยให้เธอก้าวไปข้างหน้ามีดังนี้ เคล็ดลับ 4 อันดับแรก 1) รู้จักสไตล์การซื้อขายของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณชอบที่จะซื้อและถือครองหุ้นหรือพลิกกลับโดยเร็วที่สุด? คำตอบขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถรับมือกับความผันผวนได้ดีเพียงใด หากการเคลื่อนไหวของราคามากเกินไปทำให้คุณวิตกกังวล คุณน่าจะดีกว่าที่จะเป็นเทรดเดอร์แบบสวิงหรือเดย์เทรดเดอร์ แทนที่จะพยายามใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าคุณจะค้นคว้าข้อมูลพื้นฐานมากน้อยเพียงใดหรือกลยุทธ์ทางเทคนิคของคุณแม่นยำเพียงใด คุณไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นได้ สิ่งเดียวที่คุณสามารถควบคุมได้คือปฏิกิริยาของคุณ ดังนั้นคุณต้องสบายใจกับกลยุทธ์ของคุณ “ความผิดพลาดที่ผู้คนสามารถทำได้คือการโต้ตอบมากเกินไปหรือน้อยเกินไป” Jha กล่าว “ดังนั้น หากคุณไม่ทราบสไตล์ของตัวเอง บางสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติในตลาดที่มีสุขภาพดี แต่อาจทำให้คุณซื้อขายมากเกินไปได้” Jha ชอบที่จะเป็นเทรดเดอร์ระยะยาวหรือถือครองเป็นเ

ทัศนคติ Abundance attitude ของนักเทรด ผู้แพ้กับผู้ชนะ

Image
 ๑) นักเทรดมือสมัครเล่นถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันตัดขาดทุนแล้วมันเด้งกลับไปและทำให้ฉันพลาดหุ้นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ตัวนี้?” . ๒) แต่ผู้เชี่ยวชาญถามว่า “เนื่องจากฉันรู้ว่าหุ้นสามารถร่วงลงได้ -90% ฉันรู้แล้วว่าจะขายออกตรงไหนหากการเทรดนั้นฉันคิดผิด เพื่อที่ฉันจะได้รักษาเงินทุนส่วนใหญ่ของฉันไว้ได้” . - มือสมัครเล่นกลัวที่จะพลาดโอกาสมากกว่าการรักษาเงินทุนไว้ (คิดว่าโอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น - ซึ่งแท้จริงแล้วมันมีความหมายเดียวกับ "ความไม่ต้องการเป็นคนผิด" ของอีโก้นั่นเอง) - แต่ผู้เชี่ยวชาญจะทราบดีว่าตลาดจะมอบข้อเสนอและโอกาสอย่างไม่มีที่สิ้นสุดคือสิ่งที่สำคัญที่สุด . - มือสมัครเล่นคิดว่าการพลาดโอกาสนั้นแย่กว่าการอยู่ในการเทรดที่ขาดทุน - ผู้เชี่ยวชาญรู้ว่าพวกเขาจะสามารถกลับเข้าไปเทรดหุ้นผู้ชนะรายใหญ่ได้อีกครั้งในที่สุด เมื่อมันนำเสนอโอกาสการเข้าเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำอีกครั้ง . ปล. นี่คือทัศนคติที่เรียกว่า Abundance attitude หรือ Abundance mindset นั่นเองครับ คนที่ร่ำรวย เขารวยได้เพราเชื่อเรื่องโอกาสที่มีไม่หมดสิ้น แต่คนที่ยากจน จะเชื่อตรงข้ามคือ ทุกอย่างล้วนขาดแคลน ความเชื่อที่ต่างแ

Holy Grail ของยอดนักเทรดที่ปั้นพอร์ตโต 800% คือ “สติ” กับ บันทึกการเทรด

Image
  ตอนนี้ อีบุ๊ก "EQ ความได้เปรียบทางอารมณ์สำหรับนักเทรด"  มีจำหน่ายที่แอพ Mebmarket แล้วครับ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI4MzE5NiI7fQ ราคา 220 บาท ขอบคุณแฟนคลับทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลงานครับ การเทรดที่ดีที่สุดของผมเกิดขึ้นเมื่อผมโฟกัสไปที่ปัจจุบัน  การยอมรับว่าผลลัพธ์ของการเทรดอยู่นอกเหนือการควบคุมของผมเป็นหนึ่งในแนวคิดที่ยากที่สุดที่ผมต้องเรียนรู้ ผมไม่สามารถควบคุมตลาดได้   ผมสามารถควบคุมได้เฉพาะข้อมูลของผมเท่านั้น: เคารพกฎการเข้าและออก การจัดการความเสี่ยง และการดำเนินการ Flow (Zone) จะเกิดขึ้นเมื่อผมละทิ้งความคาดหวังในสิ่งที่การgmifสามารถทำได้ และมุ่งเน้นไปที่กระบวนการและการเดินทางของผมมากกว่าจุดหมายปลายทาง สติ อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจ "จอกศักดิ์สิทธิ์" ในการเทรดของผม: คือ บันทึกการซื้อขายนับพันรายการ "Education without execution is extinction." เมื่อผมพบแนวคิดการเทรดและผู้ให้คำปรึกษาที่เหมาะกับบุคลิกภาพของผมแล้ว  ผมก็เริ่มนำไปใช้ทันที ผมอยาก

การเทรดที่ได้กำไร มีพัฒนาการ เหมือนธรรมชาติ

Image
การเทรด มีพัฒนาการ เหมือนธรรมชาติ มีเฟสของมัน คือ 1)ขาดทุน 2)เท่าทุน 3)ฐานแน่น/มืออาชีพ 4)เติบโต ทุกคนมีเป้าหมายก่อนเข้าตลาดหุ้น คือ ต้องการปั้นพอร์ตให้เติบโต ทุกคนอยากกระโดดไปเฟสที่ 4) เลย ไม่มีใครอยากเสียเวลาในระยะที่ 1 - 3 หรอก . แต่มันผิดธรรมชาติ ถ้าคุณฝืนธรรมชาติ คุณก็ถูกทำลายได้ง่าย เหมือนคุณขับรถโดยมีแต่คันเร่ง แต่ไม่มีเบรกไม่มีเกียร์ . ช่วงแรกนั้น คุณจำเป็นต้องขาดทุนก่อนเสมอ เพราะคู่แข่งของคุณเก่งกว่า เก๋ากว่า และเป็นมวยกว่า คุณมีแค่ไฟ แต่ขาดทักษะ ไร้ประสบการณ์ ไม่รู้ว่าเกมเล่นยังไง การแพ้การขาดทุนจึงเป็นเรื่องปกติมาก . คุณต้องใช้เวลา ใช้จำนวนเกม ใช้ความเจ็บปวดเพื่อเติบโต เพื่อพัฒนาจากเป็นผู้แพ้ เป็นผู้อยู่รอด และเป็นมืออาชีพก่อน จากนั้นจึงจะ "เติบโต" ได้อย่างจริงจัง . ความสำเร็จในเกมการเทรดจึงต้องใช้เวลา ใช้เวลาเพื่อสะสมทักษะ ประสบการณ์ รู้วิธีเล่นเกม ใช้เวลาเพื่อพัฒนาตนเองจากผู้เสียเงินให้ตลาดสม่ำเสมอ จนกลายเป็นผู้อยู่รอด และกลายเป็นผู้ทำเงินจากตลาดอย่างสม่ำเสมอ . ไม่มีใครชนะเวลาได้ จงให้เวลาเป็นเพื่อน อย่าให้เวลาเป็นศัตรูเด็ดขาด ถ้าคุณยอมรับเรื่องนี้ได้ คุณก็มีโอกา

ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเทรด/ลงทุน จงให้ EQ มาก่อน IQ

Image
  ตอนนี้ อีบุ๊ก "EQ ความได้เปรียบทางอารมณ์สำหรับนักเทรด"  มีจำหน่ายที่แอพ Mebmarket แล้วครับ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI4MzE5NiI7fQ ราคา 220 บาท ขอบคุณแฟนคลับทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลงานครับ แม้แต่ Warren Buffett หนึ่งในนักลงทุนที่มีอิทธิพลและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกยังกล่าวว่า "การลงทุนไม่ใช่เกมที่คนที่มี IQ 160 จะเอาชนะคนที่มี IQ 130" จะเป็นอย่างไรถ้าฉันบอกคุณว่า Mr. X ซื้อหุ้นของบริษัท Y ที่ 180 และออกจากหุ้นที่ 360 และจองกำไร 100% แต่เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ขณะที่ตลาดพุ่งสูงขึ้นและเห็นเพื่อนของเขาร่ำรวยขึ้น Mr. X กลับเข้าสู่หุ้นที่ 680 และออกจากหุ้นที่ 175 เมื่อราคาพัง คุณอาจพูดว่า - ฮ่า! ผู้ชายต้องไม่ฉลาดหรือไม่มีความรู้ดีพอ แต่คุณจะต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่า Mr. X คือ Sir Isaac Newton นักคณิตศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขา เขาเป็นนักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมมาเกือบตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ในปี 1720 เมื่อตลาดหุ้นลอนดอนเริ่มเฟื่องฟู เขาก็ติดอ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ