Posts

Showing posts from January, 2019

การเทรดคือเกมของฮีโร่ นี่คือตัวอย่างเส้นทางของคุณ

Image
  เส้นทางของ "The Hero's Journey" แบ่งออกเป็นสองโลกคือ Known (โลกที่รู้จัก) และ Unknown (โลกที่ไม่รู้จัก) ซึ่งวีรบุรุษจะต้องเดินทางไปในโลกที่ไม่รู้จัก (Unknown) เพื่อพัฒนาตนเอง ผ่านการผจญภัยและการทดสอบต่าง ๆ ก่อนที่จะกลับมายังโลกที่เขารู้จักพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงภายใน 1. Call to Adventure! (การเรียกสู่การผจญภัย)    - จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเมื่อ "Hero" ได้รับการกระตุ้นให้เข้าสู่การเดินทางใหม่หรือการผจญภัยที่ไม่คุ้นเคย 2. Supernatural Aid (ความช่วยเหลือเหนือธรรมชาติ)    - Hero ได้รับการช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากสิ่งที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติ เช่น กำลังภายใน ความสามารถพิเศษ หรือคำแนะนำจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. Threshold Guardian (ผู้เฝ้าประตู)    - ตัวละครหรือสิ่งที่ยืนขวาง Hero ไม่ให้เข้าสู่โลกที่ไม่รู้จัก วีรบุรุษต้องเอาชนะหรือก้าวผ่านเพื่อเดินหน้าต่อ 4. Threshold (ประตูแห่งการเปลี่ยนแปลง)    - จุดที่ Hero ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความไม่แน่นอน จากสิ่งที่เขารู้ไปสู่สิ่งที่เขายังไม่รู้ 5. Challenges (ความท้าทาย)    - Hero เผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ที่ทดสอบทั้งร่างกายแล

Momentum Master (CANSLIM) มีสไตล์การเทรดแบบไหน?

Image
Momentum Master มีสไตล์การเทรดแบบไหน? วานก่อนมี FC ที่เคารพท่านหนึ่ง ได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมาแลกเปลี่ยนกัน ผมเห็นว่าน่าสนใจ จึงเอามาเขียนแชร์มุมมองให้อ่านกัน ผมบอกว่า ตอนแรก ตั้งแต่อ่านงานเล่มส้มของปู่โอนีล กับเล่มขาวของพี่มาร์ค ก็มองว่าพวกเขาน่าจะมีสไตล์การเทรดเป็นนักรันเทรนด์กินกำไรรอบใหญ่กันอย่างเดียว ไม่น่าเล่นสั้น เพราะดูจากเคสที่เขายกมาใส่ในหนังสือแล้ว รูปแบบฐานราคา cup with handle หรือ vcp ที่เขานำเสนอ แต่ละตัว มันกำไรเป็นเด้งๆ จึงทำให้เราคิดว่าการเทรดแบบเขา ต้องทนรวยให้นานๆ ผมเข้าใจผิดไปแบบนั้น ไปนาน แต่พอตลาดไม่ค่อยดี ผันผวน ทำกำไรไม่ค่อยได้ ผมไปสะดุด คำเตือนของแอดมินเพจ " ห้องหาปลา " ประมาณว่านัก CANSLIM เขาไม่ได้เอากำไรเยอะทุกตัวหรอก 20% ก็ขายแล้ว ตอนแรกก็รู้สึกขัดใจ ว่าทำไมมักน้อยจัง แต่พอไปหยิบหนังสือเล่มส้มมาพลิกอ่านไปเรื่อยๆ ก็พบประโยคนี้จริงๆ ในบทที่ปู่โอนีล ปรับปรุงแนวทางการขาย ให้เริ่มที่ 20% เพราะหุ้นส่วนใหญ่มักจะวิ่งมาได้ไกลแค่นี้ หลังจากที่ทะลุฐานราคาขึ้นมาได้ พวก cup with handle, double bottom, อะไรพวกนี้ที่แกเอามาแชร์ คนอ

เล่นหุ้นดีไหม 2019

Image
เล่นหุ้นดีไหม 2019 ตอนที่ผมเขียนบทความนี้เป็นเดือนมกราคม 2562 ครับ เป็นต้นปี 2019 พอดี เป็นปีที่บางคนอยากรู้ว่า "เล่นหุ้นดีไหม 2019?" ก็เลยหาเรื่องเขียนบทความตอบให้ท่านหายข้องใจ ด้วยการบอกว่า "ปี 2019 เล่นหุ้นดีครับ" เพราะอะไร? เลข 9 มันเป็นสัญลักษ์แห่งความก้าวหน้าไง เริ่มต้นอะไรต้องดีอยู่แล้ว ซึ่งผมก็หวังว่าตลาดหุ้น ก็น่าจะดีเช่นกัน โดยมันจะดีมากขึ้น ถ้าท่าน "ไม่รีบรวยไวๆ จากการเล่นหุ้น" เพราะถ้าท่านรีบเมื่อไหร่นะ บรรลัย แน่นอน เนื่องจากตลาดหุ้น ไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากรวยเร็วๆหรอก การเล่นหุ้นที่ดีในปี 2019 คือเล่นหุ้นเพื่อเรียนรู้ เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดจากการการแกว่งตัวของตลาด เรียนรู้จากความผิดพลาด ที่เกิดจากการตัดสินใจที่ผิดของเรา เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมที่ผันผวน อย่ารีบทำเงินให้รวยครับ ให้ใช้เวลานี้เพื่อเรียนรู้ แล้วท่านจะได้กำไรแน่นอน  เล่นหุ้นดีไหม 2019? แน่นอนว่าต้องดีสิ ถ้าท่านมีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเล่นหุ้น เพราะในตลาดหุ้นท่านควบคุมราคาไม่ได้ แต่ควบคุมความเสี่ยงได้ ดั

งบปีหุ้น XX ออกมาขาดทุนอีกแล้ว ใช่จุดต่ำสุดหรือยัง?

Image
เห็นเซียนบางสำนักโพสต์ประเด็นนี้ "งบปีหุ้น XX ออกมาขาดทุนอีกแล้ว ใช่จุดต่ำสุดหรือยัง?" ก็เลยทำให้นึกถึงสภาพตัวเองตอนที่ขาดทุนหนักที่สุดในชีวิต และอยากเอามาแชร์ให้ท่านอ่าน เพราะผมเคยเอาความเชื่อผิดๆในเรื่องนี้ไปใช้ทำร้ายตัวเองครับ ในตอนนั้น ผมมีหุ้นตัวหนึ่งที่ชื่อ PAE ตอนที่ซื้อหุ้นตัวนี้ มันมีการกระตุก เหมือนไล่ราคาขึ้น แต่ไปต่อไม่ได้ โดนกดให้ลงไปทำนิวโลว์ จากนั้นไม่นาน งบประจำไตรมาสออกครับ ขาดทุนเละเทะเลย ก็ได้ยินประโยคนี้ลอยๆมาจากกูรูหุ้นเทิร์นอะราวด์ มันทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาครับ ไม่ยอมขายหุ้นเพื่อตัดขาดทุนตั้งแต่เนิ่นๆ หนำซ้ำใจกล้าซื้อถัวเฉลี่ยขาดทุนอีกต่างหาก เพราะเชื่อว่า ขาดทุนจนถึงจุดต่ำสุดแล้วนี่แหละ แต่ท่านเชื่อมั้ยว่า ไตรมาสต่อมา มันยังเละต่อครับ แล้วมันก็ไม่เคยเด้งกลับไปยืนที่ระดับเดิมได้เลย ทำนิวโลว์แล้ว นิวโลว์อีก พอร์ตผมหายไปเกือบครึ่ง "แมลงสาป" ไม่เคยมาตัวเดียว ผมอยากบอกท่านแบบนี้เลย บางที บางเรื่อง เขาไม่อยากเผยความเลวร้ายออกมาทั้งหมด แต่จะพยายามแพลมออกมาทีละนิด ทีละนิด ดังนั้น ท่านต้องอย่าไปปักใจเชื่อเรื่อง

หนังสือจิตวิทยาการเทรด ที่อ่านง่ายไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย

Image
น่าเศร้าใจมากครับสำหรับวงการหนังสือหุ้นในบ้านเรา ที่หา " หนังสือจิตวิทยาการเทรด " อ่านได้ยากเหลือเกิน ชื่อหนังสือ :  จิตวิทยาการเทรด เขียนโดย : Zyo / เซียว จับอิดนึ้ง ราคา 250 บาท จำนวนหน้า 194 หนังสือเล่ม สั่งซื้อได้ที่เพจ Zyo Books :   www.facebook.com/zyobooks eBook จิตวิทยาการเทรด ซื้อได้ที่  mebmarket.com ผมเองเป็นนักเทรดที่ชอบอ่านหนังสือมากครับ แทบทุกวันมักจะเดินเข้าร้านหนังสืออยู่ตลอด เพื่อหาหนังสือเล่มใหม่ๆ น่าสนใจมาอ่าน มันเป็นนิสัยเปแล้วครับ เรื่องอ่านหนังสือ แต่น่าเศร้ามากที่ หนังสือภาษาไทยไม่ค่อยมี  หนังสือจิตวิทยาการเทรด คนไทยไม่ได้เขียนกันเลยครับ มีแต่งานแปลของฝรั่ง เท่าที่จำได้คือ เล่มของพี่พรชัย แปล จิตวิทยาการลงทุน หนังสือ Trading in the zone และล่าสุดของ Mr. Lawrence 10 แปล The Daily Trading Coach แต่บอกตรงๆนะ "โคตรอ่านยาก" มันเป็นปรัชญาเอามากๆ ที่สำคัญคือ "ภาษา" ที่มันเป็นวิชาการ เหมือนอ่านวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาปริญญาเอกน่ะครับ คนเขียนดูดีดูเท่ แต่คนอ่านต้องปีนกระไดอ่าน นอกจากนั้นก็ต้อง " แปลไทยเป็นไทย "

หนังสือ จิตวิทยาการเล่นหุ้น ที่อ่านแล้วชีวิตดีขึ้น

Image
หนังสือ " จิตวิทยาการเล่นหุ้น " ที่อ่านแล้วชีวิตดีขึ้น!! ทำไมคุณช่างกล้าเขียนอะไรที่เหิมเกริมแบบนี้? ท่านอาจสงสัย และอยากรู้คำตอบ ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้ รับรองอ่านแล้วอึ้งแน่ ที่ผมมั่นใจ ว่าถ้าได้อ่านแล้วชีวิตดีขึ้นแน่ เพราะผมเป็นคนเขียนมันเองไงครับ เนื่องจากการได้ลองทำแล้วดีไง จึงอยากบอกต่อ บอกผ่านหนังสือ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท" เล่มนี้เขียนถึงสาเหตุที่ทำให้นักเทรดขาดทุนหนักครับ ผมเล่นหุ้นจากเงิน 2 ล้าน ขาดทุนยับ เหลือไม่กี่แสน และด้วยความที่ผมเป็นนักอยากเขียน จึงบันทึกว่าที่มาของการขาดทุนมันคืออะไรบ้าง ซึ่งระบุได้ถึง 36 ข้อ ในนี้รวมถึง "วิธีการทำความเข้าใจ และแก้ไข" ด้วย ซึ่งผมมั่นใจเหลือเกินว่า ถ้าท่านได้อ่าน ต้องมีชีวิตการเทรดที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะความเจ็บปวดของนักเล่นหุ้นมีเรื่องเดียวครับ คือ "การขาดทุน" ถ้าท่านรู้ว่า "โลกนี้ยังมีคนที่เจ็บหนักกว่าเรา" แค่นี้ก็ชีวิตดีขึ้นแล้วใช่มั้ย? แถมถ้าอ่านแล้วยังรู้ว่า "วิธีนี้ ไม่ควรทำ" ท่านยิ่งมีชีวิตดี๊ดี อีกหลายเท่า นอกจากนี้ ท่านยังได้รายละเอ

วิธีใช้ประโยชน์จากบทวิเคราะห์ - เคสกลุ่มยานยนต์ (AUTO)

Image
เห็นโพสต์วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยานยนต์ของ Phillip Capital แล้วคิดว่าน่าสนใจเอามาเขียนบทความต่อยอด รายละเอียดเขาว่ามาแบบนี้ครับ ใจความคือ รายได้ของอุตสาหกรรมนี้กระเตื้องขึ้น มีการเติบโต โดยให้ราคาพื้นฐานหุ้นในอุตสาหกรรมที่มี 3 ตัว ดังนี้ AH ซื้อ ราคาเหมาะสม 37.75 SAT ซื้อ ราคาเหมาะสม 27.75 STANLY ซื้อ ราคาเหมาะสม 311.00 สรุปคือซื้อทั้งสามตัวเลย แต่ถ้าให้เลือกตัวที่ชอบ เขาเลือก SAT นี่เป็นข้อมูลที่สำนักอีไฟแนนซ์ทำไว้ บ้านเราส่งออกสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์มูลค่ามากที่สุด คือปริมาณอาจจะไม่มากสุด แต่ราคาขายได้สูงที่สุด ผมถามคุณว่า ถ้าเห็นข้อมูลจาก 2 รูปนี้ คุณจะซื้อทันทีเลยมั้ย? มือใหม่ มือสั่น หน้าแดง ใจเต้นระรัว อยากซื้อใจจะขาด รอตลาดเปิด แต่ผมบอกไว้เลยว่า ถ้าคิดแบบ 1+1 = 2 นะ ท่านมีโอกาสขาดทุนหนัก เพราะมันเป็นวิธีคิดที่ง่ายเกินไป คนที่เชื่อแบบนี้ง่ายๆ มักตกเป็นเหยื่อเสมอ ผมเคยเป็นแบบนี้แหละ พอเห็นใครทำข้อมูลเอามาเชื่อมโยงกันน่าเชื่อถือ คลิกขวาซื้อทันที ไม่ดูอะไรต่อ ผลก็คือ ขาดทุนเละเทะอย่างที่บอก ในหนังสือ " ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท " ดังนั้น

สรุปหนังสือ Market Wizards - พ่อมดก็เคยเจ๊งหุ้นมาก่อน

Image
.Market Wizards พ่อมดแห่งวอลสตรีท" มีขายที่   https://www.investing.in.th/product/27106/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%97 มีโอกาสพลิกอ่านหนังสือ  Market Wizards อีกรอบ หลังจากที่ดองเอาไว้นาน คราวนี้ใช้กลยุทธ์อ่านแบบเจาะเฉพาะประเด็นที่สนใจเป็นหลัก ก็ได้รายละเอียดที่น่าสนใจไม่น้อย จึงอยากเอามาแชร์ จึงตั้งใจจะทำเป็นสรุปหนังสือ แบ่งเป็นหลายส่วน เฉพาะธีมเดียวกัน จะได้เห็นภาพเป็นกลุ่มก้อนกันง่ายขึ้น นี่เป็นข้อเสียของหนังสือเล่มหนาๆ ยิ่งเป็นงานสัมภาษณ์ด้วย ยิ่งจับฉ่าย ถ้าจับประเด็นไม่ได้ หรือไม่มีจุดโฟกัสอยากรู้ ก็จะทำให้น่าเบื่อได้ง่าย ทั้งๆที่ด้านในเล่ม มีของดี ขุมทรัพย์ที่รอให้เราค้นพบอีกมากมาย ยังยืนยันและแนะนำให้ท่านหยิบหนังสือเก่าที่เคยอ่านจบแล้ว หรืออ่านได้นิดหน่อย เพราะหนาจัด ท้อแท้ จับประเด็นไม่ได้ มาอ่านอีกรอบครับ ผมมั่นใจเลยว่าเมื่อประสบการณ์และมุมมอง รวมถึงสิ่งที่ท่านโฟกัสเปลี่ยน ใจความที่ท่านได้จากหนังสือเล่มเดียวกัน จะเปลี่ยนไปด้วย

หนังสือหุ้น ที่นักเล่นหุ้นควรซื้อมาอ่าน

Image
ในบ้านเรา หนึ่งปี จะมีหนังสือหุ้นให้อ่านประมาณ 100 เล่ม โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นหนังสือ..... ๑) รวมสูตรรวยหุ้น ๑.๑) รวยหุ้นแบบวีไอ คือมีนักลงทุนวีไอชื่อดัง เขียนแนวทางการรวยหุ้นแบบต่างๆ เช่น กลยุทธ์รวยหุ้น, วิธีประเมินมูลค่าหุ้น, งานของวอเรน บัฟเฟตต์, จอห์น เนฟ หนังสือพวกนี้น่าอ่านครับ เพราะเขาตกผลึกมาแล้ว แต่อย่าไปคาดหวังว่าตัวเองจะต้องเก่งแบบเขา เพราะกว่าที่เขาจะเก่งได้ถึงขนาดนั้น เป็น สิบๆ ปีนะครับ อ่านเอาแรงบันดาลใจก็พอ ๑.๒) รวมสูตรทางเทคนิคอล ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนที่เราไม่รู้จัก และก็มักจะตั้งชื่อแบบ รวยแรงๆเร็วๆ แบบนี้ผมว่า มือใหม่อ่านได้ครับ แต่ก็อย่าไปจริงจัง เลียนแบบแล้วทำตามเลย เพราะเคสที่เขายกมาให้ดูในหนังสือ มันเป็นเคสที่ตรงสูตรแบบเป๊ะๆ ซึ่งในความจริง มันไม่มีแบบนั้นเยอะหรอก ผมบอกเลย เพราะผมก็เขียนหนังสือแบบนี้มาก่อน ผลงานของผมคือ หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ bit.ly/zyoebook1 หุ้นซิ่ง สวิงเทรด bit.ly/zyoebook2 ๒) รวมสูตรเจ๊งหุ้น แบบนี้แหละครับที่ผมแนะนำให้อ่าน เพราะผมบอกเลยว่า นักเล่นหุ้นมากกว่า 80% ขาดทุนครับ มีทั้งขาดทุนจนเจ๊ง และขาดทุนซ้ำซาก ไม่สามารถปั้

BDMS กับเคสราคานำข่าว - รู้วิธีดูกราฟไว้ แล้วคุณจะได้เปรียบชาวบ้าน

Image
ถ้าใครเป็นขาประจำห้องสินธร น่าจะเห็นกระทู้ประเภทที่ว่า " หุ้น XX เกิดอะไรขึ้นครับ ขึ้น/ลง แรงจัง? " ถ้าเป็นหุ้นดัง อยู่ในกระแสก็จะมีคนมาช่วยตอบ แต่ถ้าตัวไหนไม่มีคนเล่น ก็เหมือนโดยก้อนหินลงทะเลสาบ ไม่มีเสียงตอบรับจากสายที่ท่านเรียก อย่ากระนั้นเลย ผมมีคำแนะนำสำหรับมือใหม่ทุกท่าน ถ้าท่านไม่รู้อะไรเลย ให้พยายามศึกษากราฟเอาไว้ เพราะโดยปกติของตลาดหุ้น ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใหนของโลก " ราคา-นำ-ข่าว" เสมอ ขนาดทฤษฎีดาว หรือ Dow Theory ต้นกำเนิดของเทนคนิคอล ยังบอกเลยว่า  " The Market Discounts Everything " แปลเป็นไทยว่า ราคา(ปิด) สะท้อนทุกอย่างของหุ้นตัวนั้นไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะความเชื่อของคนในตลาด ถ้ามองในมุมบวก ราคาจะปิดสูงกว่าราคาเปิด ถ้ามองในมุมลบ ราคาปิดจะต่ำกว่าราคาเปิด (โฆษณา : หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้) คลิกลิ้งนี้ครับ  https://www.zyo71.com/p/index.html  เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ BDMS กับเคสราคานำข่าว นึกภาพไม่ออก ผมขอนำเสนอเคส BDMS ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ที่เราน่าจะรู้กันแทบทุกคน พาดหัวข่าวคือ &

หุ้นจ่อเบรค @21/1/2019 น่าทำการบ้านต่อ

Image
เอาการบ้านมาฝากกันอีกครับ ที่มาของกราฟพวกนี้ผมใช้การสแกน  ๑) RSI>=60 ๒) MACD > Signal & MACD > 0 แล้วก็คัดเอาทรงที่ยังไม่เบรคนะ ท่านเอาไปใช้เองก็ได้ แต่ต้องบอกกันก่อนนะ อย่าลอกหุ้น ท่านต้องเอาไปวางแผนต่อว่าจะเข้าหรือหนีตรงไหนเอง เพราะราคาหุ้นมันไม่วิ่งทุกตัวหรอก  ถ้าซื้อไม่คิด พอร์ตพังเอาง่ายๆนะ ไม่มีใครช่วยท่านได้นอกจากตัวท่านเอง และผมไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น (( โฆษณา )) ผลงานของผมเองครับ มีขายในรูปแบบ eBook แล้วครับ ที่  mebmarket.com " ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท " ดูรายละเอียดโดยตรงที่  bit.ly/zyoebook3 " หุ้นซิ่ง สวิงเทรด " ดูรายละเอียดโดยตรงที่  bit.ly/zyoebook2 " หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ " ดูรายละเอียดโดยตรงที่  bit.ly/zyoebook1

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

5 Holy Grail ที่ใช้ได้ผลจริง ในการเทรด

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo