Posts

Showing posts from October, 2022

แนะนำอีบุ๊กเล่มใหม่ "สโตอิกศาสตร์ สำหรับนักเทรด: เก็บเกี่ยวกำไร เย็นใจ ในเกมที่ไม่แน่นอน"

Image
(ลดราคา 20% จากราคาปก)  อีบุ๊ก สโตอิกศาสตร์ สำหรับนักเทรด : เก็บเกี่ยวกำไร เย็นใจ ในเกมที่ไม่แน่นอน จำหน่ายแล้วที่ https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=319842   "สโตอิกศาสตร์ สำหรับนักเทรด: เก็บเกี่ยวกำไร เย็นใจ ในเกมที่ไม่แน่นอน"   หนังสือเล่มนี้จะนำคุณเข้าสู่โลกของปรัชญาสโตอิก ผสานกับการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูง สอนให้คุณรู้จักควบคุมอารมณ์และมีวินัยในทุกการตัดสินใจ ยืนหยัดอยู่ในเกมที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ด้วยหลักคิดที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง คุณจะได้เรียนรู้วิธีสร้างกำไรอย่างยั่งยืน พร้อมกับรักษาความสงบเยือกเย็นในทุกสภาวะตลาด เปลี่ยนการเทรดให้เป็นศาสตร์ของจิตใจที่แข็งแกร่งและมั่นคง อีบุ๊ก - สโตอิกศาสตร์ สำหรับนักเทรด: เก็บเกี่ยวกำไร เย็นใจ ในเกมที่ไม่แน่นอน เหมาะกับใคร? อีบุ๊กเล่มนี้เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นในตลาดการเงิน หรือเป็นนักเทรดมืออาชีพที่มีประสบการณ์มาหลายปี หากคุณเคยรู้สึกว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการเทรดไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคหรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่คือการควบคุมอารมณ์ ความกลัว และความกดดันในการตัดสินใจ อี

วิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ "จิตวิทยาการเทรด" คือ สร้างความเชื่อมั่นในระบบเทรด

Image
วิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ "จิตวิทยาการเทรด" คือ สร้างความเชื่อมั่นในระบบเทรด 1. ระบบเทรดที่ให้ positive expectancy ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เป็นระบบที่มี win rate 40-50% ก็ทำเงินได้แล้ว หมายความว่า ใน 10 ครั้ง ต้องตัดขาดทุน 5-6 ครั้งเลยทีเดียว 2. คุณต้องมีศรัทธาในระบบว่าทำเงินแน่ แม้จะต้องเจอการขาดทุนติดต่อกัน 3. การขาดทุนและตัดขาดทุนจะไม่ทำให้จิตใจของคุณหวั่นไหวถ้าคุณมีศรัทธาในระบบ 4. และเมื่อคุณรู้ชัดและเชื่อว่ายังไงซะการเทรดของคุณจะต้องเจอการตัดขาดทุน มันจะทำให้คุณเปิดใจรับกับมันและมีกระบวนการบริหารความเสี่ยงอย่างดีที่สุด 5. มันจะทำให้คุณให้ความสำคัญกับ position sizing มากขึ้น เพื่อลดขนาดของความเสียหายเมื่อคุณคิดผิด 6. เมื่อคุณจำกัดขนาดความเสียหายให้อยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ "สภาพจิตใจ" ของคุณก็จะมีความเป็นกลาง ไม่หวั่นไหวต่อการขาดทุน ส่งผลให้คุณมีความมั่นใจในการทำตามแผนมากขึ้น (เพิ่มเติมจากหนังสือ "จิตวิทยาการเทรด")

เคล็ดในการเอาความรู้การเทรดฝรั่งไปใช้งาน

Image
1. บอกตัวเองไว้ก่อนเลยว่า มันไม่ได้แม่นยำทุกครั้ง (แม้แต่เมืองฝรั่งเองก็ไม่แม่น) แม่นสัก 50% ก็ทำเงินได้แล้ว (ถ้าไม่เชื่อข้อนี้ เลิกไปเลยดีกว่า) 2. กราฟมันไม่เลือกตลาดหุ้น/ตลาดเก็งกำไรเฉพาะหรอก มันเกิดได้ทุกที่ เพราะมันสะท้อนอารมณ์ความโลภ/ความกลัวของมนุษย์ ที่ไม่ว่าชาติไหน/ประเทศไหนก็เป็นมนุษย์ มีโลภ มีกลัว มีความกลัวสูญเสียเหมือนกัน 3. เลือกเอาสัก 1-2 แบบไปใช้ก็พอ 4. เอาไปใช้ร่วมกับ - การบริหารความเสี่ยง ยอมเสี่ยงเท่าไหร่ก่อน - Risk Reward ที่เป็นธุรกิจ - Position sizing ที่เป็นธุรกิจ (การเทรดเป็นธุรกิจสุดซีเรียส ไม่ใช่ซื้อหวยที่กะเอาแม่นอย่างเดียว คุณต้องรู้จักบริหารการเทรดให้เป็นด้วย) 5. จำไว้เสมอว่าการเทรดด้วยกราฟ ไม่ใช่แค่การจำกราฟแล้วฝากความหวังกับมัน แต่ต้องมีการบริหารการเทรดด้วย นี่จึงเป็นการยืนยันว่า การเทรดที่สำเร็จนั้นต้องประกอบด้วย Psychology 60% Money management 30% Methods 10% 6. อย่าได้ฝากชีวิต/ความหวังไว้กับ 10% มองโลกให้กว้าง รู้จักบริหารความเสี่ยง ผ่านการเข้าใจชีวิตจริง แล้วคุณจะเทรดอย่างมีความสุขและรอดได้

อย่าได้เทรดเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพไปวันๆ อย่าให้การขาดทุนทำให้คุณดูโง่

Image
อย่าได้เทรดเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพไปวันๆ อย่าให้การขาดทุนทำให้คุณดูโง่ ๑. อย่าได้เทรดเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพไปวันๆ - อย่าเฝ้าจอ เฝ้าการสวิงของกราฟขึ้นลง เพราะมันจะทำให้คุณร้อนรน เทรดสั้นเพราะกลัว และหวั่นไหวตั้งคำถามกับกลยุทธ์ - หางานอดิเรกทำระหว่างเวลาเทรด ๒. จงมองการเทรดว่าเป็น "สงครามทางจิต" ไม่มีใครเอาปืนมาจี้คุณให้ซื้อขายหุ้นเลย คุณตัดสินใจเองทั้งสิ้น - คุณต้องวางแผน และทำตามมันเท่านั้น - บริหารความเสี่ยง เงินทุนให้ดีที่สุดก่อน ๓. อย่าให้เงินทำให้คุณดูโง่ - กลัวขาดทุน ไม่อยากเสียเงิน - เสี่ยงมากเกินเพราะหน้ามืด - ไม่รู้จุดออก - ไม่สนใจการปกป้องเงินทุน วิธีแก้คือ วางแผนให้ครอบคลุม

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่