Posts

Showing posts from 2023

การเทรดคือเกมของฮีโร่ นี่คือตัวอย่างเส้นทางของคุณ

Image
  เส้นทางของ "The Hero's Journey" แบ่งออกเป็นสองโลกคือ Known (โลกที่รู้จัก) และ Unknown (โลกที่ไม่รู้จัก) ซึ่งวีรบุรุษจะต้องเดินทางไปในโลกที่ไม่รู้จัก (Unknown) เพื่อพัฒนาตนเอง ผ่านการผจญภัยและการทดสอบต่าง ๆ ก่อนที่จะกลับมายังโลกที่เขารู้จักพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงภายใน 1. Call to Adventure! (การเรียกสู่การผจญภัย)    - จุดเริ่มต้นของเรื่องราวเมื่อ "Hero" ได้รับการกระตุ้นให้เข้าสู่การเดินทางใหม่หรือการผจญภัยที่ไม่คุ้นเคย 2. Supernatural Aid (ความช่วยเหลือเหนือธรรมชาติ)    - Hero ได้รับการช่วยเหลือหรือคำแนะนำจากสิ่งที่อยู่นอกเหนือธรรมชาติ เช่น กำลังภายใน ความสามารถพิเศษ หรือคำแนะนำจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. Threshold Guardian (ผู้เฝ้าประตู)    - ตัวละครหรือสิ่งที่ยืนขวาง Hero ไม่ให้เข้าสู่โลกที่ไม่รู้จัก วีรบุรุษต้องเอาชนะหรือก้าวผ่านเพื่อเดินหน้าต่อ 4. Threshold (ประตูแห่งการเปลี่ยนแปลง)    - จุดที่ Hero ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความไม่แน่นอน จากสิ่งที่เขารู้ไปสู่สิ่งที่เขายังไม่รู้ 5. Challenges (ความท้าทาย)    - Hero เผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ที่ทดสอบทั้งร่างกายแล

แนะนำอีบุ๊กใหม่ "Minervini’s Gold Nuggets: ถ้อยคำล้ำค่าของพี่มาร์ค มิเนอร์วินี"

Image
  ยินดีกับทุกท่านด้วยนะครับ ที่มีโอกาสได้อ่านอีบุ๊กเล่มนี้ เพราะมันเป็นของดี ของล้ำค่าที่ผมทำมาให้อ่านแบบฟรี ๆ เนื่องจากต้องการให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสและปีใหม่กับทุกคนนั่นเองครับ โดยเหตุผลสำคัญที่ผมทำอีบุ๊ก Minervini’s Gold Nuggets  ขึ้นมาก็เพื่อ “บูชาครู” ของผมเองครับ ผมอยากให้มันเป็นเหมือนงานเขียน “กูรูหุ้นพันล้าน” ที่เคยได้อ่านในช่วงแรก ๆ ของการเข้าวงการเทรดแล้วได้แรงบันดาลใจมาก รู้สึกศรัทธาเสี่ยยักษ์มาก ๆ และเมื่อผมอยู่รอดในตลาดหุ้นได้นานพอ(ตอนนี้ก็ครบสิบปีแล้ว) จึงนึกสนุกอยากสร้างผลงานแนวเดียวกันนี้ประดับวงการเทรดบ้านเราไว้บ้าง จะได้มีคนรู้จักพี่มาร์คมากขึ้นและได้นำเสนอข้อมูลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนในวงกว้างมากขึ้นด้วยครับ สำหรับพี่มาร์ค มิเนอร์วินี นั้น ผมรู้จักครั้งแรกจากหนังสือ “เทรดแบบเซียนหุ้น ให้ได้กําไรขั้นเทพ” (ซึ่งเป็นเวอร์ชันแปลไทยแรกของ “เทรดอย่าง พ่อมดตลาดหุ้น” นั่นเองครับ) ยอมรับว่าอ่านแล้วตื่นตาตื่นใจมาก ประทับใจและศรัทธาพี่มาร์คอย่างแรง จากที่เคยมีไอดอลคนเดียว คือเสี่ยยักษ์ ผมก็ได้เพิ่มพี่มาร์ค เข้ามาเป็นไอดอลเบอร์สองทันที แล้วจากนั้นผมก็เข้าขั้นคลั่งไคล้ อะไร

"กฎ 5 ไม่" ที่ช่วยให้พี่มาร์คเปลี่ยนจากเม่า กลายเป็นเซียน

"กฎ 5 ไม่" ที่ช่วยให้พี่มาร์คเปลี่ยนจากนักเทรดห่วยขาดทุนซ้ำซาก 6 ปีติด  - ไปเป็นนักเทรดสุดยอดปั้นพอร์ตร้อยเปอร์เซ็นต์ติดต่อกันในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น 1. #ไม่มีการขาดทุนหนัก - เคารพ Stop loss เพราะมันช่วยให้เขารอด และใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเทรดที่ได้กำไร 2. #ไม่มีการถัวเฉลี่ยขาดทุน - ไม่สนับสนุนหุ้นผู้แพ้ อ่อนแอก็กำจัดทิ้งไป 3. #ไม่มีการไล่ซื้อหุ้นที่ราคาห่างจากจุดซื้อที่เสี่ยงต่ำ - ให้ขนาดของความเสี่ยง(หรือ Stop loss) แคบไว้ก่อนเสมอ + เชื่อในโอกาสที่ตลาดจะมอบให้ในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่ทันก็ไม่เป็นไร รอตัวใหม่ เดี๋ยวมีมาเรื่อย ๆ 4. #ไม่ปล่อยกำไรก้อนงามกลายเป็นขาดทุน - Selling into strength + ยกระดับตัดขาดทุนไปวางที่ต้นทุน 5. #ไม่ได้เปรียบก็ไม่ลงเงินเดิมพัน - จะซื้อก็ต่อเมื่อเห็นชัดว่ามีโอกาสได้กำไรสูง + ได้เงินง่าย Easy dollar)

การเทรดหุ้นถือเป็นการแข่งขันเรื่องวินัย

ตลาดหุ้นไม่สนใจว่าคุณฉลาดแค่ไหน  มันไม่สนใจว่าคุณมีวุฒิการศึกษาจากโรงเรียนที่ดีที่สุดหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้ว การเทรดหุ้นถือเป็นการแข่งขันเรื่องวินัย ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่ทำเงินได้ดีที่สุดคือคนที่สามารถจัดการความสัมพันธ์ Risk/Reward ได้ดีที่สุด (บริหาร Risk/Reward ที่เป็นธุรกิจ) ซึ่งทั้งสองเรื่องอาศัยบางสิ่งที่มากกว่าความฉลาด - มาร์ค มิเนอร์วินี . "อย่ามีอีโก้ อย่าทำตัวเป็นฮีโร่ เมื่อใดที่คุณคิดว่าตนเองเก่ง เมื่อนั้นคุณซวยแน่"  - พอล ทิวดอร์ โจนส์ . “ลืมความภาคภูมิใจและอีโก้ของคุณไปได้เลย  ตลาดไม่สนใจสิ่งที่คุณคิดหรือสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณฉลาดแค่ไหน ตลาดก็ฉลาดกว่าคุณเสมอ” - วิลเลียม เจ. โอนีล . อีโก้ หรืออัตตาของมนุษย์นั้น มีทั้งส่วนดีและส่วนแย่ อีโก้ส่วนดี ผลักดันให้เราพัฒนา เติบโต และขวนขวายให้ได้มากกว่าเดิม อีโก้ส่วนแย่ คือ การไม่ปล่อยวาง ความอหังการ์ ยอมแพ้ไม่เป็น - ซึ่งเป็นตัวฉุดและขัดขวางให้เราสะดุด และอาจถึงขั้นทำลายตนเอง . เมื่อคุณมาเทรด อย่ามีอีโก้กับตลาด -- เด็ดขาด! ยอมให้ตลาดใหญ่กว่าคุณ ยอมรับว่าตลาดถูกเสมอ และคุณผิดเสมอ เมื่อคุณเริ่มต้นที่ชุดความเชื่อนี้

อยากเทรดประสบความสำเร็จ ต้องไม่เครียด

ความเครียดและความเจ็บปวดในการเทรดส่วนใหญ่มาจาก: 1. อยากรวยเร็ว ๆ จึงทุ่มเงินเทรดก้อนโตเกินไป - โลภ 2.ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิดได้และมักจะผิดเสมอ - ต้องการสมบูรณ์แบบ 3. ไม่รีบขายในตอนที่ขาดทุนเสียหายน้อย - ไม่อยากเป็นคนผิด . วิธีแก้...ปรับความเชื่อใหม่ ๑) เริ่มต้นเทรดด้วยเงินก้อนน้อย ๆ ก่อน - ถ้ามันทำตัวดี ให้คุณได้เปรียบจึงเพิ่มเงินเข้าไป...ตั้งความเชื่อใหม่ว่า หุ้นทุกตัวนั้นแย่หมด โดยหุ้นที่ดีคือหุ้นที่วิ่งขึ้นให้คุณกำไรเท่านั้น ๒) มองเกมยาว โฟกัสความสม่ำเสมอ ให้กำไรทบต้นไปเรื่อย ๆ...ตั้งความเชื่อใหม่ว่า คนเก่งคือคนที่รอดและรวยในระยะยาว ไม่ใช่คนรวยไว(เพราะถ้าไม่ขี้โม้...ก็ฟลุก) ๓) มองเกมแบบความน่าจะเป็น...ตั้งความเชื่อใหม่ว่า คุณมีโอกาสคิดผิดได้เสมอ...นักเทรดที่เก่งก็คิดผิดบ่อย..เพียงแต่ว่าเขาไม่ทู่ซี้ทนถือหุ้นที่คิดผิดเอาไว้จนเสียหายหนัก...จะได้คิดต่อไปว่า ถ้าคิดผิดแล้วจะเสียเท่าไหร่ เสียแค่ไหนที่ขายขาดทุนแล้วไม่เจ็บปวด...นี่แหละคือสิ่งที่นักเทรดสำเร็จเขาทำ . จำไว้ว่า คุณจะเทรดตามความเชื่อ...ไม่ใช่ความจริง อยากปรับปรุงตนเอง ให้เริ่มต้นปรับที่ความเชื่อของคุณ

คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผมทำได้! - Mark Minervini

"คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผมทำได้! . เพราะ(สามสิบปีที่แล้ว)ตอนที่ผมเริ่มต้นนั้น แหล่งความรู้เดียวทั้งหมดที่ผมมีคือห้องสมุดท้องถิ่นและหนังสือเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ไม่เคยได้ผลมาก่อน . แต่ตอนนี้ ยุคสมัยนี้ คุณมีอินเตอร์เน็ท มี Google มี YouTube, และโซเชียลมีเดียที่เป็นแหล่งความรู้ ที่พร้อมเสริฟให้คุณเสพทันที(แถมยังย่อยให้พร้อมสรรพอีกต่างหาก) แค่คุณคลิกเข้าไปเรียนรู้! ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเรียนรู้ทุกสิ่ง" - มาร์ค มิเนอร์วินี . ...อย่าหาเวลา แต่จงสร้างเวลา ...อย่าหาข้ออ้าง แต่จงหาโอกาส ผู้แพ้ใช้เวลา 99% ในการหาข้ออ้าง - แม้จะมีโอกาสเต็มไปหมด เขาก็จะหาเหตุผลอ้างว่าทำไมเขาถึงทำไม่ได้  แต่ผู้ชนะจะใช้เวลา 99% ในการพัฒนาตนเองเพื่อให้เป็นผู้ชนะให้ได้ -- แม้มีโอกาสนิดเดียว เขาก็จะใช้โอกาสนั้นให้เป็นประโยชน์และผลักดันตนเองให้ขึ้นจุดสูงสุดได้(พี่มาร์ค พิสูจน์มาแล้วว่าทำได้จริง) . อนาคตของคุณ คือสิ่งที่คุณหมกมุ่นในตอนนี้ อนาคตของคุณ อยู่ที่ Priority ชีวิตของคุณ . อยากประสบความสำเร็จชัวร์ -- ให้ Priority ตั้งเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนสิ่งแรก คือ การบรรลุความฝั

อยากประสบความสำเร็จในการเทรด มือใหม่ ต้องเริ่มต้นเป็นผู้แพ้ที่ดีให้ได้ก่อน

อยากประสบความสำเร็จในการเทรด มือใหม่ ต้องเริ่มต้นเป็นผู้แพ้ที่ดีให้ได้ก่อน . ทำไมคุณต้องเริ่มเป็นผู้แพ้ที่ดี? ขอยกเอาคำพูดของสุดยอดนักเทรดมาอธิบาย... ๑) "เหตุผลง่าย ๆ ว่าทำไมนักเทรดส่วนใหญ่ล้มเหลว คุณจะลงแข่งรถ Formula 1 และคาดหวังที่จะเอาชนะนักแข่งที่เก่งที่สุดในเส้นทางที่ยากที่สุดหรือไม่?  ไม่แน่นอน!  แต่นั่นคือสิ่งที่คุณ(ผู้เป็นมือใหม่)ทำเมื่อคุณเปิดบัญชีเทรด และเทรดโดยมีประสบการณ์หรือการฝึกอบรมเพียงเล็กน้อย" - มาร์ค มิเนอร์วินี . ๒) "จงตระหนักไว้เสมอว่านี่เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก  และเมื่อไรก็ตามที่คุณตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น  คุณกำลังแข่งขันกับผู้คนที่ได้อุทิศส่วนสำคัญในชีวิตของเขาให้กับเรื่องเดียวกันนี้  ในหลาย ๆ ครั้งมืออาชีพพวกนี้จะอยู่ในด้านที่ตรงข้ามกับคุณ และโดยเฉลี่ยแล้วพวกเขาจะชนะคุณได้" - ไมเคิล สตีนฮาร์ท -- พ่อมดวอลสตรีท . ๓) "หากคุณยังไม่มีประสบการณ์เลย คุณต้องขาดทุนก่อน ในชีวิตจริงต้องเป็นอย่างนั้น นักลงทุนมือใหม่ "ขาดทุน" ถือเป็นเรื่องปกติ" - เสี่ยยักษ์ . . คำแนะนำสำหรับนักเทรดมือใหม่ จาก มาร์ค วีนสตีน; พ่อมดวอลสตรีท "

สารบัญ อีบุ๊ก Ego: 14 อันตราย & วิธีสลายสไตล์ยอดนักเทรด

Image
Promotion 7 วันแรก ลดจากราคาปก 20% เหลือ 120 บาท จาก 5 ธค. - 11 ธค. 2566 เท่านั้น  ที่ Mebmarket ที่เดียวครับ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjI3NDU0OTt9 คำนำ ขอบคุณแฟนคลับทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลงานครับ  สำหรับ  “Ego: 14 อันตราย & วิธีสลายสไตล์ยอดนักเทรด” ผมจะชวนท่านให้รู้จัก Ego หรือ “อัตตา” ให้มากขึ้นครับ เพราะอีโก้คือตัวอันตรายสุดสำคัญที่คอยขัดขวางความสำเร็จในเส้นทางการเทรดของพวกเรา อีโก้ทำให้เรามองและตอบสนองการเทรดด้วยอคติเชิงลบ ซึ่งมักส่งผลให้เราตัดสินใจเทรดแบบทำลายตนเอง และได้รับผลการเทรดที่ย่ำแย่ ขาดทุนซ้ำซาก จนต้องหมดใจ กลายเป็นคน 90% ที่ถอดใจ เลิกเทรดไปในที่สุด อีบุ๊กเล่มนี้จะชวนท่านให้รู้จักอีโก้หลากหลายรูปแบบ ที่คุณอาจไม่คิดว่ามันอันตราย ที่หากท่านรู้จักมันแล้วเข้าใจมันดีแล้ว จะช่วยให้ท่านมีความระแวดระวัง ไม่เผลอตัว ไม่หลงผิดทำตาม อคติเหล่านั้นอีก และที่สำคัญ...ในท้ายบทผมจะเพิ่มแนวทางการแก้ไข การสลายอีโก้ที่นักเทรดประสบความสำเร็จเขาทำและให้คำแนะนำกัน อันจะช่วยให้คุณได้แนวทา

ถ้าคุณยอมเป็นนักเรียนของตลาด คุณจะได้ทุกอย่างจากตลาด

การศึกษาในโรงเรียนช่วยให้คุณมีรายได้แค่พอเลี้ยงตัว แต่การศึกษาด้วยตนเองจะช่วยให้คุณมั่งคั่ง - จิม โรห์น . ถ้าคุณต้องการสอนทักษะให้ใครสักคน จงสอนให้เขา(ลงมือทำ)เสี่ยงด้วยตนเองและให้เจอความล้มเหลวกับตัวเอง สิ่งนี้เขาจะไม่มีทางได้เรียนรู้จากโรงเรียน เพราะครู(ผู้ไม่เคยเสี่ยงเลย) สอนคุณไม่ได้ - นาสซิม ทาเลบ . ตลาดเก็งกำไรสอนคุณ ในเรื่องที่โรงเรียนไม่สามารถสอนคุณได้ - การถ่อมตน - การใจเย็นรอคอย - การบริหารความเสี่ยง - การคิดในมุมความน่าจะเป็น - การรับความสูญเสียแล้วปล่อยวาง - การยอมรับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ การมีความหวังกับวันพรุ่งนี้ . . ถ้าคุณเปิดใจ ตั้งใจเป็นนักเรียนของตลาดหุ้น(หรือตลาดเก็งกำไร) คุณจะรู้สึกโชคดีที่ได้มาเทรด และคุณจะได้ทุกอย่างจากตลาด เพราะตลาดชอบคนที่ตั้งใจเรียนรู้ เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว  ตลาดจะคอยแอบมอบโอกาสดี ๆ ให้กับคุณเสมอ เพราะคุณเป็น "ศิษย์โปรดของตลาด" . ตลาดเก็งกำไร เป็นครูสุดโหด เข้มงวด และไร้ความปราณี แรก ๆ คุณอาจรู้สึกว่าไม่สะดวกสบาย มันไม่แฟร์ กดดันมากเกินไป ทำให้ผู้คนจำนวนมาก รับไม่ได้ ถอนตัวออกไป พวกเขาจึงพลาดโอกาสดี ๆ ทักษะสร้างเงินที่ทำซ้ำได้ไม่มีหมดอ

นักเทรดต้องเรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของตนเอง

การเทรด ดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงแล้วโคตรยาก มันจึงควรเป็น “กระบวนการเรียนรู้” ระยะยาว อย่าทำร้ายตนเอง ในวันแย่ ๆ แต่จงเปิดใจมองหาบทเรียนเพื่อเรียนรู้แทน อย่าไปแคร์นักเทรดขี้โม้บนสื่อโซเชียล ที่ชอบอวดว่าตนรู้ทุกอย่าง ทั้งที่แท้จริงแล้ว แม้แต่สุดยอดนักเทรดก็ยังพลาดได้ในธุรกิจนี้ – แมท คารูโซ . มนุษย์ สามารถผิดพลาดได้เสมอ แม้แต่มือโปร ก็ยังตัดสินใจโง่ ๆ โดยขาดสติบางครั้ง เมื่อผิดพลาด... มือใหม่: ทำร้ายตัวเอง/ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ และ ทำความผิดพลาดซ้ำเติม มือโปร: ยอมรับและเข้าใจความผิดพลาดของตนเอง/รักษาทัศนคติเชิงบวกไว้/ตั้งสติและโฟกัสให้ดีขึ้น/รักษาสภาพจิตใจที่มั่นคงเป็นกลางไว้ - เทรดดิ้งคอมโพเชอร์ . ทุกคนล้วนทำความผิดพลาดกันได้ ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากทำร้าย(และโทษตัวเอง)มากเกินไปเมื่อทำผิดพลาด – วอร์เรน บัฟเฟตต์ . บทเรียนสำคัญของการเทรดที่คุณควรรู้: คุณต้องเรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง อย่าเป็นศัตรูกับตัวเอง เพราะคุณมีคู่แข่งเยอะแล้ว ทั้งมือโปร ทั้งตลาด  และพวกขี้โม้ ดังนั้นอย่าเพิ่มคู่แข่งที่อันตรายที่สุดด้วยการ เป็นปฏิปักษ์กับตัวเองอีกเลย

Good trade คืออะไร? ในมุมมองของมือโปร

Image
Good trade คืออะไร? ในมุมมองของมือโปร ที่มาคือ มือใหม่เจอ false breakout แล้วสงสัยว่า เขาทำอะไรผิด? ๑) มาร์ค ริชชี่ ตอบว่า Good trade ไม่ใช่ผลการเทรดหรอก ด้วยความต้องการให้กระจ่างว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร จึงค้นเพิ่มจากความเห็นของมือโปรคนอื่นดู ๒) Trading Composure บอกว่า Good trade คือกระบวนการ ไม่ใช่ผลลัพธ์ ๓) ลุง Peter Brandt บอกว่า Good trade ของเขาคือ การเทรดที่เขาได้กำไร แล้วสามารถยกระดับตัดขาดทุนไปไว้ที่ต้นทุนได้ไวที่สุด - และยังบอกว่า Good trade จะมาหาคุณเอง คุณไม่ต้องมองหามันหรอก เพราะเราไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้เลย ถ้ามันจะ Good ก็ Good เอง - แถมยังแนะนำมือใหม่ว่า อย่าได้โหยหาหมกมุ่นกับผลลัพธ์มากเกินไป  สิ่งที่มือใหม่ควรหมกมุ่นคือ การจัดการการเทรดที่ขาดทุน ให้เสียหายน้อยไว้ก่อน เพราะการจัดการการเทรดที่ขาดทุนจะเป็นส่วนสำคัญของการเทรดที่ได้กำไรในเวลาต่อมา - เพราะแท้จริงแล้ว นักเทรดผู้ชนะคือ "ผู้แพ้ที่ดี" ๔) สรุปตามความเห็นส่วนตัวของผมเอง  Good trade ยังไงซะก็ต้องเกี่ยวกับ "ผลลัพธ์" อยู่ดี แต่ผลลัพธ์ ก็เป็น "แค่ส่วนหนึ่ง" ของ Good trade เพราะ Good tr

แนะนำอีบุ๊ก เล่มใหม่ "Trader's Journey: กว่าจะสำเร็จ...นักเทรดต้องเจออะไรบ้าง"

Image
อีบุ๊ก เล่มใหม่ Trader's Journey: กว่าจะสำเร็จ...นักเทรดต้องเจออะไรบ้าง มีขายที่ Mebmarket เท่านั้นครับ ตามลิ้งค์นี้นะ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjI3MDA0Nzt9 Trader's Journey มี 120 หน้า ราคา 170 บาท Early Bird ลดราคาจากปก 15% ใน 7 วันแรก(8-14 พย. 66)เท่านั้นครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลงานครับ อีบุ๊ก Trader's Journey เหมาะกับใคร? - นักเทรดนักลงทุนมือใหม่ที่สนใจอยากรู้ว่าภาพรวม....เส้นทางชีวิตนักเทรดที่แท้จริง...จากมือใหม่ไปสู่มือโปรที่ทำกำไรสม่ำเสมอ มันเป็นยังไง ต้องเจออะไรบ้าง...คุณจะได้รู้ทุกซอกทุกมุม โดยแทบทุกเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยบอกคุณมาก่อน - นักเทรดนักลงทุนที่อยู่มาพอสมควร แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ กำลังท้อ อยากได้กำลังใจ...คุณจะได้ข้อมูลความจริงที่บอกคุณว่า...คุณไม่ได้เดินเดียวดาย...คุณไม่ได้โชคร้าย...คุณไม่ได้โง่เลย...มีคนที่ชีวิตการเทรดในช่วงแรกของเขานั้นแย่กว่าคุณเยอะ-เขาหมดตัวหลายรอบ-แต่เขาไม่ยอมแพ้-เขามีความเพียรพยายาม-เขาหาทางแก้ไขปรับปรุง-เขาใช้

กฎการเทรด 10 บรรทัด ที่สั้น/กระชับ-ที่คุณจำเป็นต้องมี

Image
กฎการเทรด 10 บรรทัด ที่สั้น/กระชับ-ที่คุณจำเป็นต้องมี 1) อย่าเทรด...ถ้าคุณไม่มีระบบเทรดพิสูจน์แล้วว่าได้เปรียบ 2) จงแบ่ง Position size ให้เหมาะสมกับขนาดความผันผวน  3) รู้จุดขาย(ตัดขาดทุน)ออก ก่อนจะเข้าซื้อ 4) หมั่นบริหาร Risk/Reward ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด 5) เทรดด้วย Position size ที่ไม่ทำให้คุณมีอารมณ์ร่วมรุนแรง 6) เทรดตามที่ตลาดเป็น...อย่าเทรดตามความเห็น/ความคาดหวังอยากให้มันเป็น 7) เทรดตามเส้นทางที่แนวต้านน้อยที่สุด(ตามแนวโน้ม) 8 ) ตัดขาดทุนให้ไว ทนกำไรให้นาน 9) เลี่ยงการทำนายและความเห็น...จงเทรดตาม Price action เท่านั้นพอ 10) ถ้าคุณกระจายความเสี่ยง, บริหารความเสี่ยง และเทรดดามแนวโน้มอย่างมีวินัย...คุณจะทำเงินได้แน่นอน ที่มา https://x.com/SJosephBurns/status/1575546058658447360?s=20

นักเทรดมือโปร กับ นักเทรดมือใหม่ ต่างกันตรงไหนบ้าง?

Image
นักเทรดมือโปร กับ นักเทรดมือใหม่ ต่างกันตรงไหนบ้าง? ๑) นักเทรดมือโปรจะไม่ใช้เลเวอเรจเสี่ยงเกินไป // นักเทรดมือใหม่ใช้เลเวเรจสูงมากเกินความเสี่ยงและทุ่มเงินเทรดในหุ้นตัวเดียวมากเกินไป ๒) นักเทรดมือโปรจะยอมรับการขาดทุนและไม่เทรดแก้แค้นตามอารมณ์ // นักเทรดมือใหม่จะโกรธแค้นเมื่อเจอการขาดทุนจึงจำใจขายด้วยความแค้นแล้วจากนั้นก็เสี่ยงมากกว่าเดิมเพื่อเอาคืนให้ได้ไวที่สุด ๓) นักเทรดมือโปรจะเข้าเทรดเมื่อมีโอกาสที่ตรงเกณฑ์การเข้าเทรดของเขา(มี Edge) // นักเทรดมือใหม่จะเทรดแบบสุ่มไร้กฎเกณฑ์(ไม่มี Edge) แล้วหวังให้การเทรดนั้นได้กำไร(ให้โชคเข้าข้าง) ๔) นักเทรดมือโปรปฏิบัติการเทดรแบบทำธุรกิจที่จริงจัง // นักเทรดมือใหม่เทรดตามอารมณ์แบบนักพนัน ๕) นักเทรดมือโปรมีกลยุทธ์ทำเงินที่ได้เปรียบเฉพาะตัว(มี Edge)และวางแผนการเทรดทุกครั้ง // นักเทรดมือใหม่ไม่เคยมีกลยุทธ์และแผนตายตัว-นึกอยากเทรดก็เทรด หาหุ้นและจุดซื้อได้ตลอดเวลาแต่ไม่เคยได้ประสิทธิภาพที่คุมค่าเลย ๖) นักเทรดมือโปรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ไม่เทรด // นักเทรดมือใหม่จะหยุดเทรดเมื่อเงินในพอร์ตเหลือ 0 เท่านั้น

15 กฎทองแห่งการพัฒนาพอร์ตให้โตสำหรับเทรดเดอร์

Image
บทความนี้ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือ 15 กฎทองแห่งการพัฒนาตนเอง (THE 15 INVALUABLE LAWS OF GROWTH) โดย JOHN C. MAXWELL เห็นว่ามีไอเดียน่าจะเอามาปรับใช้กับการเป็นเทรดเดอร์ได้ ก็เลยลองโม้ดูครับ ๑) กฎแห่งความตั้งใจ มันก็คือการตั้งเป้าหมายนี่เองแหละ จะตั้งใจได้ ก็ต้องมีเป้าหมายก่อน ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า "ทำไมฉันต้องรวยหุ้น?" ถ้าคิดว่าตนเองในปัจจุบันก็รวยที่สุดในสามโลก ก็ไม่ต้องอ่านข้อต่อไปล่ะ หรือคิดเจียมตัวว่าฉันไม่เก่งหัวไม่ดี คงสู้ใครไม่ได้ ก็อย่าอ่านต่อให้เสียเวลา เออ...ถ้าไม่อยากรวยแล้วพี่จะมาเล่นหุ้นทำไม? แก้เหงา หาสังคมเหรอ? ก็เป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 99 น่าจะแอบหวังลึกๆว่า ฉันอยากมีเงินล้านจากการเล่นหุ้น ความอยากเป็นคนรวยเงินล้านจากหุ้นนี่ก็สำคัญนะ ถ้าคุณตั้งใจจะรวยอย่างจริงจัง ไม่ตั้งเป้าไว้อวดหมา ก็ยึดมันได้ครับ ท่องมัทุกวันและ ฉันจะเป็นคนรวยหุ้นให้ได้ในชาตินี้ อยากได้เท่าไหร่ ก็ตั้งไว้เลยครับ คิดได้ก็อย่าลังเล เช่นคิดจะเอาร้อยล้าน ก็อย่าสงสัยว่าจะทำได้หรือเปล่า มันตีกันครับ อยากจะเอาต้องเอาให้ได้ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ลองทำก่อน อย่าเพิ่งก

คำแนะนำของนักเทรดรุ่นลุง ประสบการณ์เทรด 48 ปี แด่นักเทรดรุ่นหนุ่มสาวไฟแรง ถ้าอยากเทรดรอดและรวย จงทำแบบนี้

คำแนะนำของนักเทรดรุ่นลุง ประสบการณ์เทรด 48 ปี แด่นักเทรดรุ่นหนุ่มสาวไฟแรง ถ้าอยากเทรดรอดและรวย จงทำแบบนี้ ปีเตอร์ แบรนด์ท 1) คำแนะนำของฉันสำหรับเทรดเดอร์รุ่นเยาว์ที่ต้องการอาชีพการค้าระยะยาว: หยุดหมกมุ่นอยู่กับการจับจุดสูงสุดและต่ำสุด จงเต็มใจที่จะรับชิ้นใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง หรือเพราะฉันเป็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ลืมสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปซะ . 2) คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์อายุน้อย บางครั้งคุณก็ถูกและผิด มันมาพร้อมกับ territory (แนวความคิด) อย่าถือการซื้อขายเป็นการส่วนตัว ตลาดไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย และตลาดก็ไม่สนใจด้วย อย่าปล่อยให้คนงี่เง่าที่พยายามทำให้คุณอับอาย อยู่กับมันแล้วคุณจะเป็นเจ้าของเงินของพวกเขาสักวันหนึ่ง . 3) คำแนะนำของฉันสำหรับเทรดเดอร์รุ่นเยาว์คือ: การเรียนรู้เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นยอดเยี่ยมมากและคุณต้องทำมัน แต่ความได้เปรียบในการซื้อขายของคุณจะมีผลเพียงเล็กน้อยกับวิธีที่คุณเลือกการซื้อขาย นี่คือสิ่งที่ผู้ขายระบบไม่ต้องการให้คุณรู้ . 4) คำแนะนำสองข้อที่ใหญ่ที่สุดของฉันสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่คือ: 1. รู้ว่า Gain-to-Pain Ratio คืออะไร (และวิธีคำนวณ) 2 ติดตาม Gain-to-Pain Ratio

เขาสอบถามนักเทรดที่สำเร็จ 100 ราย ว่า หลักการเทรดที่สำคัญที่สุดคืออะไร? นี่คือคำตอบที่เหมือนกันที่สุด 7 ข้อ

Image
ฉันถามเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 100 รายว่าหลักการซื้อขายที่สำคัญที่สุดของพวกเขาคืออะไร  นี่คือคำตอบที่พบบ่อยที่สุด 7 ข้อ 1)มีระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพ - อย่าซื้อที่แนวต้าน อย่าขายที่แนวรับ - หยุดมุ่งเน้นไปที่อินดิเคเตอร์ เริ่มโฟกัสไปที่ candlesticks, orders, liquidity ค้นหาความได้เปรียบที่ทรงพลังและดำเนินการจนกว่าผู้คนจะเริ่มเรียกคุณว่าเป็นไอ้คนโชคดี 2)เสพติดการทำซ้ำ 1 ระบบ 1 แผนการที่จะปฏิบัติตาม ลงมือทำตามกระบวนการซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลา 5-10 ปี เทรดเดอร์ที่เสพติดการทำซ้ำคือเทรดเดอร์ที่มีศักยภาพที่จะสำเร็จสูง 3) ตัดขาดทุนอย่างรวดเร็ว - ค้นหาหน้าเทรดที่พิสูจน์ว่าคุณคิดผิดเร็วที่สุด - หากคุณสามารถลดการขาดทุนได้ คุณจะปรับปรุง RRR และความสำเร็จในการซื้อขายของคุณ ไม่สำคัญว่าคุณจะชนะและแพ้กี่ครั้ง แต่สำคัญว่าคุณชนะแล้วได้มากแค่ไหน?และแพ้แล้วเสียน้อยแค่ไหน? 4)ควบคุมความเสี่ยงให้ดีเยี่ยม - การพยายามเพิ่มบัญชีของคุณเป็น 3 เท่าต่อเดือนจะทำให้คุณตายได้ - การพยายามที่จะได้รับ 3/6% ต่อเดือนจะทำให้คุณกลายเป็น 1% อันดับต้น ๆ - หากคุณมีทักษะการบริหารความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม คุณจะไม่มีวันตายในการ

ลักษณะของนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่แย่ที่สุด + ลักษณะของนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ดีที่สุด

Image
 ลักษณะของนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่แย่ที่สุด? • พวกเขาตำหนิ Fed, อัตราดอกเบี้ย, Market Manipulation (การสร้างราคาหลักทรัพย์ หรือการปั่นหุ้น) • พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อราคาวิ่งสวนทางที่เขาอยากให้เป็น • พวกเขาปล่อยให้การขาดทุนดำเนินต่อไปและ "หวัง" ว่าสิ่งต่างๆ จะพลิกกลับมาเท่าทุนและให้เขาได้กำไร • พวกเขาขับเคลื่อนด้วยอัตตาและต้องการที่จะ "ถูกต้อง" ตลอดเวลา • พวกเขาทุ่มซื้อด้วยเงินมหาศาลใน "สิ่งที่แน่นอน(มั่นใจสุดขีด)" • พวกเขาไม่มีความยืดหยุ่นทางจิตใจ และไม่สนใจตรวจสอบตัวเอง •  พวกเขาปฏิบัติต่อตลาดเหมือนเป็นล็อตเตอรี่ • พวกเขาไม่เคยผิด - "ตลาด" นั่นแหละที่ผิดเสมอสำหรับเขา . . ลักษณะของนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ดีที่สุด? • พวกเขายอมรับว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของเกม • พวกเขายอมรับอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาผิด • พวกเขาจริงจังกับการป้องกัน(จำกัด)การสูญเสียเล็กๆ น้อยๆ ไม่ให้กลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ • พวกเขาได้เขียนแผนการซื้อขายที่พวกเขาปฏิบัติตามไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม • พวกเขามีความรับผิดชอบส่วนบุคคลต่อผลลัพธ์ที่พวกเขาได้รับ • พวกเขารักษาความยืด

อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดในการเทรด?

Image
อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดในการเทรด? ในมุมมองของนักเทรดประสบการณ์ 38 ปี จงทุ่มเวลาเรียนรู้ ใครเรียนรู้ได้ก่อน ก็จะเป็นคนส่วนน้อยที่มีโอกาสชนะ Nick Radge : ฉันซื้อขายมาตั้งแต่ปี 1985 ฉันเป็น Trend Follower ฉันแลกเปลี่ยนระบบติดตามแนวโน้มที่แตกต่างกันสามระบบ ฉันทำมาตลอดชีวิต ฉันจะทำมันต่อไปตลอดชีวิต  ประการแรก เรามานิยามการซื้อขายสองแง่มุม: เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณ ปริมาณเป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้ได้ ลองใช้การเปรียบเทียบการขับรถกันดีกว่า อะไรคือส่วนเชิงปริมาณในการขับรถของคุณ? คุณเหยียบคันเร่งเพื่อเดินหน้า หมุนพวงมาลัยซ้ายเพื่อไปทางซ้าย วางเท้าบนเบรกเพื่อหยุด เปลี่ยนเกียร์ถอยหลังเพื่อถอยหลัง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนเชิงปริมาณของการขับรถ . พวกเขาสามารถสอนได้ ตอนนี้ฉันมีคำถามกับคุณ คุณเคยเรียนหลักสูตรหรือการสัมมนาเกี่ยวกับการซื้อขายราคาแพงหรือไม่? บางทีหลักสูตรการซื้อขายราคาแพงสองหรือสามหลักสูตร? ถ้าคุณเรียนจบหลักสูตรเหล่านั้นแล้ว ทำไมคุณถึงอ่านข้อความนี้? คุณรู้วิธีการค้าขายอย่างแน่นอน? เมื่อคุณทำหลักสูตรการซื้อขาย คุณกำลังเรียนรู้ส่วนเชิงปริมาณของการซื้อขาย คุณไม่ได้รับการสอน และฉัน

เขาปั้นพอร์ตจากทุนหลักหมื่นโตเป็นล้านในเวลาสั้นมาก นี่คือเคล็ดลับที่เขาบอกว่า มือใหม่สามารถลอกเลียนได้ทันที

Image
ผู้สัมภาษณ์: คุณเริ่มต้นด้วยบัญชีเล็กๆ และสร้างรายได้เป็นล้านในเวลาอันสั้น คุณคิดว่านี่เป็นความสำเร็จที่เทรดเดอร์หลายคนสามารถเลียนแบบได้หรือไม่ เพราะเหตุใด Zanger: "ฉันเริ่มต้นด้วยบัญชีเล็กๆ เพราะฉันหมดตัวอย่างน้อยสามครั้งก่อนที่จะรู้ตัว(ว่าพลาดเพราะอะไร)  ๑) สิ่งสำคัญคือคุณต้องต้องไม่หมดตัว เพื่อให้คุณสามารถรักษาเงินทุนในการซื้อขายให้ได้มากที่สุด  ๒) จากนั้นเมื่อ คุณเข้าสู่ตลาดกระทิงที่แข็งแกร่ง คุณมีเงินสด มีความสามารถในการอ่านกราฟ และ mentality ที่กล้าเทรดหุ้นเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งที่สุดหนึ่งหรือสองตัวในตลาดและทนรวยให้นาน  ใช่แล้ว มันสามารถทำซ้ำได้ แต่คุณต้องมีเงื่อนไขที่ถูกต้องทั้งหมดจึงจะได้มัน" . จากคำตอบของ Zanger มีข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญหลายประการเกี่ยวกับเส้นทางการค้าขายและปรัชญาของเขา: ๑) ความยืดหยุ่นและการเรียนรู้จากความล้มเหลว: การยอมรับของ Zanger ว่าเขาถูก "พัดออกจากน้ำ" หลายครั้งก่อนที่จะเชี่ยวชาญการซื้อขาย ตอกย้ำถึงความสำคัญของความยืดหยุ่น เทรดเดอร์ทุกคนจะเผชิญกับความล้มเหลว แต่สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากพวกเขาและไม่ถูกขัดขวาง ๒) การรักษาเงินทุน: หนึ่งใ

Mindset + จิตวิทยาการเทรด คือตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง มันคือจิ๊กซอว์ สำคัญ ที่จำเป็นต่อการเทรดที่ประสบความสำเร็จ

Image
0-6 เดือน : คุณคิดว่าการเทรดให้รวยนั้นมันง่ายมาก เพราะเข้ามาด้วยการมองโลกในแง่ดี เชื่อว่าตนเองเก่งกว่าความจริง . 1-3 ปี : คุณคิดถอดใจ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จ เพราะยังคงขาดทุนซ้ำซาก หรือปั้นพอร์ตไม่ได้เลย . ปีที่ 4 : (ถ้าคุณไม่เลิก) คุณเปิดใจเรียนรู้เรื่อง Mindset เพราะไหน ๆ ก็ศึกษาเทคนิคการเทรด/ลงทุนมาทุกศาสตร์แล้ว - แต่ยังทำเงินไม่ได้ จึงเปิดใจลองศึกษาเรื่องจิตวิทยาการเทรดและ Mindset ดู เผื่อจะเห็นอะไรใหม่ ๆ ที่มแงข้ามไป . ปีที่ 5 : (- 10 ปี) ทุกอย่างคลิกลงตัว คุณ #ปั้นพอร์ตได้เติบโตสม่ำเสมอ เพราะคุณได้ความรู้ครบ 360 องศา + คุณสะสมประสบการณ์ที่เพียงพอต่อความสำเร็จได้แล้วนั่นเอง . Mindset + จิตวิทยาการเทรด คือตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง มันคือจิ๊กซอว์ สำคัญ ที่จำเป็นต่อการเทรดที่ประสบความสำเร็จ . Mindset ช่วยให้คุณเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและความผิดพลาด เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อความสำเร็จ จิตวิทยาการเทรด ช่วยให้คุณเข้าใจจุดอ่อนตนเอง เข้าใจความเสี่ยง ทำให้รู้จักบริหารความเสี่ยงและการเทรดได้ดีขึ้น

แนะนำอีบุ๊ก Edge : ความได้เปรียบทางการเทรดสำหรับมือใหม่

Image
  Edge : ความได้เปรียบทางการเทรดสำหรับมือใหม่ Edge : ความได้เปรียบทางการเทรดสำหรับมือใหม่ งานเขียนใหม่ล่าสุดของผม "เพราะการเทรดคือสงคราม คุณจำเป็นต้องมีอาวุธคู่มือ ที่คุณถนัดและไว้ใจที่สุด ที่มือใหม่ล้มเหลว ขาดทุนซ้ำซาก ว้าวุ่นในตลาด เพราะไม่มีอาวุธคู่มือ ไม่มี Edge จึงเข้าร่วมสงครามแบบงงๆ กลายเป็นเหยื่อของมืออาชีพ อยู่ในวงจรขาดทุนซ้ำซาก ไร้พัฒนาการ Edge คือ วิธีแก้ Edge คือสิ่งที่มือใหม่ต้องมี ถ้าอยากรอดและรุ่ง" เล่มนี้จะบอกความสำคัญของ Edge มันดียังไง? ทำไมต้องมี? หายังไง? สร้างยังไง? ตรวจวัดคุณภาพยังไง? และจะรู้ได้ไงว่ามี Edge แล้ว? แม้คุณจะเป็นมือใหม่ แต่ถ้ามี Edge คุณจะมีวินัย มีจิตใจนิ่ง ไม่ว้าวุ่นแบบมือใหม่ 99% ในตลาด แต่ถ้ามี Edge คุณจะเป็นมือใหม่ที่เป็นคนส่วนน้อย 1% ที่จะอยู่รอดและรวยได้ มีเฉพาะรูปแบบอีบุ๊กเท่านั้นครับ และจำหน่ายที่ Mebmarket ที่เดียวครับ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjI2NTQyMzt9 “Edge:ความได้เปรียบ ทางการเทรดสำหรับมือใหม่” เป็นหนึ่งในซีรี่ส์งานเขี

"ความอึด/เพียรพยายาม" เป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุสู่ประสบความสำเร็จในตลาดเก็งกำไร

Image
"ความอึด/เพียรพยายาม" เป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุสู่ประสบความสำเร็จในตลาดเก็งกำไร เทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดหลายคนต้องดิ้นรนเป็นเวลาหลายปี . 6 ปีเป็นกรอบเวลาทั่วไป  ผมเรียกสิ่งนั้นว่าการได้รับปริญญาโทที่ตลาดเก็งกำไร Oliver Kell (แชมป์ U.S. Investing Championship ปี 2020) บอกว่าเขาก็ใช้เวลา 6 ปี เช่นกัน . หากคุณยังใหม่และยังคงดิ้นรน ยังปั้นพอร์ตไม่ได้ - อย่ายอมแพ้! ล้มไปข้างหน้า แพ้ให้ดีที่สุดแล้วเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ . พี่มาร์ค บอกว่า "ความเพียรพยายามสำคัญกว่าความรู้ เพราะทักษะสามารถพัฒนาได้  แต่ผู้ที่เลิกล้มจะไม่มีอะไรเป็นเลิศเลิศ  จงมุ่งมั่นอย่างไม่มีเงื่อนไขในการเรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุดและเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วคุณจะไม่ล้มเหลว  เชื่อมั่นในตัวเองและอย่ายอมแพ้" . หมดตัว ไม่ใช่ต้นตอของความล้มเหลว (เพราะยอดนักเทรดเป็นจำนวนมากก็หมดตัวในช่วงแรกอย่างน้อย 1 ครั้ง) มีแต่หมดใจเท่านั้นที่ทำให้นักเทรด 90% ถอดใจถอนตัว

8 สัญญาณที่ชี้ชัดว่าคุณมีโอกาสสำเร็จในการเทรดอย่างแน่นอน

Image
 8 Trading Signs of Success  เมื่อคุณเป็นเทรดเดอร์ คุณจะเป็นหนึ่งเดียวตลอดไป เมื่อคุณมีความปรารถนาอันบริสุทธิ์และแรงผลักดันที่จะประสบความสำเร็จ จะไม่มีการหันหลังกลับ และคุณต้องไปตามไทม์ไลน์ของคุณเอง และช้าๆ แต่แน่นอน คุณจะทำมันได้ แต่มีสัญญาณบางประการที่คุณจะต้องพิจารณา มันทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ เริ่มจากสัญญาณที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เหล่านี้กันก่อน สัญญาณที่ 1: คุณมีความหลงใหลในการเทรด เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้รับแรงผลักดันจากความหลงใหลในตลาดโดยธรรมชาติ คุณต้องมีความปรารถนาที่จะเข้าใจความซับซ้อนของเศรษฐกิจโลก การเคลื่อนไหวของราคา และความตื่นเต้นในการระบุการซื้อขายที่มีโอกาสสูง การชนะการขาดทุน การสตรีคที่ชนะและแม้แต่การสตรีคที่แพ้ คุณต้องมีความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้นที่เท่าเทียมกันเพื่อเติมพลังให้กับเวลาและความพยายามที่คุณจะต้องทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ ฝึกฝน และขัดเกลากลยุทธ์ของคุณ สัญญาณที่ 2: คุณมีกิจวัตรการเทรด กิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า ช่วงบ่าย หรือตอนกลางคืน กิจวัตรนี้ประกอบด้วยการวิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ การเตรียมการก่อนการวางตลาด และการทบทวนหลังการวางต

25 คำคมจากตำนานนักเทรด ที่อาจจะเปลี่ยนวิธีที่คุณมองตลาดในทางที่ถูกต้องมากขึ้น รอดและได้กำไรมากขึ้น

1. ตลาดหุ้นไม่เคยชัดเจน มันถูกออกแบบมาเพื่อหลอกคนส่วนใหญ่เกือบตลอดเวลา — เจสซี่ลิเวอร์มอร์ 2. ข้อผิดพลาดคือเมื่อคุณไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของคุณ หากคุณไม่มีกฎเกณฑ์ในการซื้อขาย ทุกสิ่งที่คุณทำคือความผิดพลาด — ดร.แวน เค ธาป 3.อย่าโฟกัสไปที่การหาเงิน แต่เน้นปกป้องสิ่งที่คุณมี — พอล ทิวดอร์ โจนส์ 4. หากคุณมีตำแหน่งที่สูญเสียซึ่งทำให้คุณไม่สบายใจ วิธีแก้ปัญหานั้นง่ายมาก: ออกไป เพราะคุณสามารถกลับเข้ามาใหม่ได้ตลอดเวลา — Paul Tudor Jones 5. ความลับประการหนึ่งที่มืออาชีพส่วนใหญ่รู้ก็คือ คุณสามารถเพิ่มโชคลาภในตลาดได้โดยทำถูกให้น้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเวลา ตราบใดที่คุณปล่อยให้ผลกำไรดำเนินไปและลดการสูญเสียของคุณอย่างรวดเร็ว — สแตน ไวน์สไตน์ 6. อย่าซื้อที่จุดต่ำสุด และให้ขายเร็วเกินไปเสมอ — เจสซี่ลิเวอร์มอร์ 7. คุณไม่สามารถเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้นได้ จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ขายที่ดีและเป็นผู้ซื้อที่ดี — วิลเลียม เจ. โอนีล 8. รูปแบบราคาจะยังคงเกิดซ้ำๆ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานับพันปี — เจสซี่ลิเวอร์มอร์ 9. การพยายามซื้อขายระหว่างที่แพ้ติดต่อกันถือเป็นการทำลายล้างทางอารม

กระบวนการ 5 ขั้น เพื่อการสวิงเทรดแบบโมเมนตัมและเบรกเอ้าท์ ที่ให้ประสิทธิภาพ ปั้นพอร์ตได้สูงที่สุด

Image
(นักเทรดที่สำเร็จจะให้ความสำคัญกับกระบวนการ ก่อนผลลัพธ์) ลำดับ 5 ขั้น เพื่อการสวิงเทรดแบบโมเมนตัมที่ให้ประสิทธิภาพปั้นพอร์ตได้สูงที่สุด นี่เป็นวิธีตลกที่ฉันชอบคิดเกี่ยวกับการซื้อขาย: การบริหารความเสี่ยง>สภาวะตลาด>Setup< Breakout <follow-through สิ่งที่เราตามหาในท้ายที่สุดคือ follow-through แต่คุณต้องดำเนินการแต่ละขั้นตอนก่อน ๑) การจัดการความเสี่ยง: นี่คือรากฐานของกลยุทธ์การซื้อขาย มันเกี่ยวข้องกับหน้าเทรด จุดหยุดขาดทุน การกำหนดขนาดตำแหน่ง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่เสี่ยงมากกว่าเปอร์เซ็นต์ของพอร์ตโฟลิโอของคุณในการซื้อขายแต่ละครั้ง การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมสามารถช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงความสูญเสียร้ายแรงและช่วยให้เงินทุนในการซื้อขายมีอายุยืนยาวได้ ๒) สภาวะตลาด(ดัชนี): ก่อนที่จะเข้าสู่การซื้อขายใดๆ การประเมินสภาวะตลาดโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญ เราอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง หรือตลาดไซด์เวย์หรือไม่? สภาวะตลาดที่กว้างขึ้นสามารถมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัวได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในช่วงตลาดกระทิงที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์การฝ่าวงล้อมทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากมีแง่ดีโดยทั่

๑๒ บทเรียนสำคัญจากการเทรดที่หากไม่มีประสบการณ์มากพอจะไม่เข้าใจ

๑๒ บทเรียนสำคัญจากการเทรดที่หากไม่มีประสบการณ์มากพอจะไม่เข้าใจ ๑) การเทรดไม่ใช่เรื่องขาวกับดำ ๒) อีโก้สูง ส่อความไร้ประสบการณ์ ๓) นักเทรดสำเร็จ ไม่ได้คิดอะไรใหม่ แค่ปรับปรุงของคนอื่นให้ดีสำหรับตนเอง ๔) วินัยสำคัญกว่าความฉลาด ๕) นักเทรดที่สำเร็จขั้นสูงให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจตนเองและแรงจูงใจ ๖) แผนการเทรดที่ดีก็ไร้ประโยชน์ถ้าไม่ทำตาม ๗) การวิเคราะห์คือส่วนที่ง่ายที่สุด การลงมือทำต่างหากที่ยากที่สุด ๘) ถ้าคุณไม่พร้อมสูญเสีย คุณจะฟุ้งซ่านกับการเทรด ๙) ปกป้องเงินทุนของคุณ ถ้าไม่มีเงินทุนคุณก็เทรดไม่ได้ ๑๐ เมื่อคุณโฟกัสที่กระบวนการ คุณจะเปลี่ยนความต้องการจาก "ฉันต้องการชนะ" ไปเป็น "ฉันจะหา/เพิ่มความได้เปรียบได้อย่างไร?" ๑๑) โฟกัสที่กระบวนการแทนไม่ใช่ผลลัพธ์ ถ้าคุณทำกระบวนการที่ถูกต้อง เดี๋ยวผลลัพธ์ที่ดีจะตามมาเอง ๑๒) นักเทรดที่สำเร็จคือคนที่มี passion กับการเทรดมาก ๆ ถ้าคุณมาเพราะแค่อยากรวยคุณก็จะไม่มีทางรวย

นักแม่นปืน กับ นักเทรด เหมือนกันตรงไหนบ้าง?

 (ข้อคิดดี ๆ จาก Amrit Sall - Unknown Market Wizards) นักแม่นปืน กับ นักเทรด https://twitter.com/SallAmrit/status/1645849672534179840 . ๑) นักแม่นปืน กับ นักเทรด มีนิสัยเหมือนกันคือความแม่นยำ  นักแม่นปืนต้องมุ่งเป้าไปที่เลเซอร์และอดทนเพื่อรอการยิงที่สมบูรณ์แบบ เทรดเดอร์จะต้องมีวินัยและความอดทนรอคอย รอโอกาสที่เหมาะสมในการโจมตี . ๒) ทั้งคู่จะต้องสามารถปรับให้เข้ากับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้  ไม่ว่าจะเป็นลมและภูมิประเทศสำหรับนักแม่นปืน  หรือความผันผวนของตลาดและเหตุการณ์ข่าวสำหรับนักเทรด . ๓) และเช่นเดียวกับที่นักแม่นปืนต้องสามารถจัดการการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อรักษาเป้าหมายที่มั่นคง  เทรดเดอร์จะต้องสามารถจัดการอารมณ์ของตนเพื่อตัดสินใจอย่างมีเหตุผลท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอน . ๔) โดยพื้นฐานแล้ว  นักแม่นปืนและนักเทรดต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานฝีมือ(masters of their craft) โดยใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญเพื่อเข้าถึงเป้าหมายและบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยความแม่นยำขั้นสูงสุด

อยากเข้มแข็งและกล้าหาญมากขึ้นมั้ย? ลองบอกตัวเองด้วย 17 ประโยคนี้ทุกวัน

Image
ถ้อยคำแห่งกำลังใจสำหรับความกล้าหาญและความแข็งแกร่งเมื่อคุณต้องการ: สิ่งที่ต้องพูดกับตัวเอง Words of Encouragement for Courage & Strength When You Need It: Things to Say to Yourself 1. ฉันไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันได้ แต่ฉันสามารถควบคุมวิธีตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในการตอบสนองของฉันคือพลังของฉัน 2. ฉันเป็นผู้พิทักษ์จิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณของฉัน ฉันป้องกันตัวเองจากการคิดลบ ไม่มีความมืดใดสามารถหรี่แสงของฉันได้ 3. ฉันพยายามทำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ และสิ่งที่ดีที่สุดของฉันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ 4. ฉันใช้ชีวิตไปทีละขั้น ก้าวต่อไปของฉันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ 5. ฉันไม่จำเป็นต้องมีคำตอบทั้งหมด ฉันมีความกล้าที่จะเคารพคำถามก่อนที่คำตอบจะมา 6. ด้วยเวลา ความพยายาม และความทุ่มเทที่เพียงพอ ฉันสามารถเรียนรู้สิ่งที่ต้องการเพื่อประสบความสำเร็จได้ 7. ฉันเข้มแข็งและฉลาดพอที่จะเติบโตจากความเจ็บปวด 8. ฉันสามารถใช้ความคิดเพื่อสร้างความรู้สึกที่ฉันต้องการมากขึ้นได้ 9. ความฝันของฉันเป็นไปได้และฉันสามารถใช้ชีวิตตามนั้นได้ 10. ฉันเป็นมากกว่าความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน ฉันเป็นมากกว่าความกลัวและคว

การเทรดคือ Solopreneur ผู้ประกอบการคนเดียว

Image
 คุณกำลังอยู่ในธุรกิจการเทรดของคุณเอง (การเทรดคือ Solopreneur ผู้ประกอบการคนเดียว) หน้าเทรดของคุณ คือ สินค้าของคุณ การซื้อขายของคุณ คือลูกค้าของคุณ Risk : Reward Ratio ของคุณ คือ ส่วนต่างกำไรของการค้าของคุณ Position Size ของคุณ คือ ขนาดความเสี่ยงของธุรกิจคุณ บันทึกการเทรดของคุณ คือ บัญชีรายรับรายจ่ายของคุณ (สำคัญที่สุดคือ) ตัวคุณเอง คือ สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของธุรกิจคุณ - Tradeciety - Rolf . (ใช่ การเทรดเป็นธุรกิจ...แต่) การเทรดก็ไม่ใช่ธุรกิจที่เปิดร้านแล้วทำเงินได้แน่นอนเหมือนธุรกิจทั่วไป การเทรดเป็นเรื่องของการเก็บเล็กผสมน้อย บางครั้งคุณก็ได้กำไรก้อนโต แต่ส่วนใหญ่คุณจะได้กำไรมาทีละนิดหน่อย ฉะนั้นทุกครั้งที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนเงินสดเป็นหุ้น คุณควรให้แน่ใจว่าโอกาสที่คุณจะได้กำไรสูงกว่าขาดทุน  ถ้าไม่ชัวร์ คุณต้องรู้จักรอคอย เก็บเงินสดไว้ก่อนจะดีกว่า - Mark Minervini

Mindset ผู้ชนะ ของพี่ Mark Minervini

Image
ประเด็นสำคัญจากบทความ How Early Stock Losses Built A Champion Stock Trader . 1) โชคดี(ฟลุก)ของมือใหม่ Beginner's Luck ของ Mark Minervini เริ่มต้นในปี 1983 กับหุ้นของบริษัท Allis-Chalmers ผู้ผลิต forklifts และ tractors นี่เป็นหุ้นตัวแรกที่ Mark Minervini เข้าซื้อที่ราคา $4 ซึ่งอยู่ไกล้ ๆ 52-week low แล้วจากนั้นราคาก็พุ่งทะยานขึ้น ทำให้เขาได้กำไรจากมันมากมาย ทำให้เขาคิดว่า "ว้าว...การลงทุนมันช่างง่ายอะไรอย่างนี้" ก็แค่ซื้อหุ้นที่ราคาต่ำที่สุดให้ได้ แล้วก็ถือ แค่นี้ก็รวยแล้ว . แต่หลังจากการได้กำไรครั้งนั้น ตลาดก็สั่งสอนเขา ทำให้ 6 ปีจากนั้นเขาไม่เคยได้กำไรเลย แถมหมดตัวไปสองครั้ง (ใช่...กำไรจาก Allis-Chalmers เป็นแค่ความฟลุคเท่านั้นเอง) . 2) ผู้ชนะใช้การขาดทุนหนักเป็นแรงบันดาลใจ แต่...ด้วยความที่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นผู้แพ้ในเกมนี้ แทนที่จะใช้การขาดทุนหนัก หมดตัวเป็นเหตุผลในการล้มเลิก Mark Minervini กลับใช้มันเป็นเหตุผลในการสู้ ใช้มันเป็นตัวเปลี่ยนเกม พลิกให้เขากลับไปเป็นผู้ชนะ . 3) ใช้ความผิดพลาดเป็นเบาะแสพัฒนาตนเอง ตั้งแต่ต้นปี 1990 Mark Minervini ใช้เวลาหาคำตอบว่าเขาทำอะ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

5 Holy Grail ที่ใช้ได้ผลจริง ในการเทรด

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo