ทำไมเทรดเดอร์มืออาชีพ หลายคน เทรดหุ้นแค่ไม่กี่ตัว — บางคนโฟกัส แค่หุ้นเดียวด้วยซ้ำ?

Image
"Oliver ทำไมคุณถึงเทรดหุ้น Apple เกือบตลอดเวลา?" Oliver ผมสังเกตมาสักพักแล้วว่าคุณเทรดหุ้น Apple บ่อยมาก เรียกได้ว่า 85-90% ของเวลาทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ผมเลยสงสัยว่า ทำไมคุณถึงเลือกเทรดแค่หุ้น Apple ทั้งที่ในแต่ละวันก็มีหุ้นดีๆ อีกมากมายที่น่าจะทำกำไรได้ไม่แพ้กัน? คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันเปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายสิ่งที่ผมมักพูดคุยกับเทรดเดอร์ของผมบ่อยๆ ก่อนอื่นเลย ผมเชื่ออย่างแรงกล้าว่า “เทรดเดอร์มืออาชีพ” ที่ประสบความสำเร็จจริงๆ มักจะเป็น “ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน” มากกว่า “นักลองของทั่วไป” ซึ่งความสำเร็จของพวกเขาส่วนใหญ่มาจากการ โฟกัส และ เชี่ยวชาญในสิ่งที่ตัวเองรู้ลึกจริงๆ แล้วการเป็นผู้เชี่ยวชาญมันหมายความว่าอะไร? มันหมายความว่า “โลกการเทรดของเขาเล็กมาก” เล็กจนถึงขนาดที่เทรดเดอร์มืออาชีพหลายคน เทรดหุ้นแค่ไม่กี่ตัว — บางคนโฟกัสแค่หุ้นเดียวด้วยซ้ำ ลองคิดดูสิครับ “Specialist” ในตลาด NYSE (ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก) ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่ในโลกการเทรด พวกเขาแทบไม่เคยขาดทุนเลย และมีความสม่ำเสมอสูงมาก พวกเขามีความได้เปรียบที่เหนือกว่าเทรดเดอร์ทั่วไปแบบแทบจะไม่ยุติธรรมด...

การจะทำกำไรจากหุ้นได้นั้น คุณต้องตัดสินใจให้ถูก 3 ข้อ


การจะทำกำไรจากหุ้นได้นั้น คุณต้องตัดสินใจให้ถูก 3 ข้อ นั่นคือ ซื้ออะไร , ซื้อเมื่อไหร่ และ ขายเมื่อไหร่ แม้การตัดสินใจของคุณไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่ก็จะทำให้คุณเฉลียวฉลาดขึ้น

ประโยคที่กล่าวว่า "การจะทำกำไรจากหุ้นได้นั้น คุณต้องตัดสินใจให้ถูก 3 ข้อ นั่นคือ ซื้ออะไร , ซื้อเมื่อไหร่ และ ขายเมื่อไหร่ แม้การตัดสินใจของคุณไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่ก็จะทำให้คุณเฉลียวฉลาดขึ้น" สามารถขยายความและเปรียบเทียบให้เข้าใจได้ดังนี้:


### ขยายความ

1. **ซื้ออะไร**:

   - **การเลือกสินทรัพย์ (What to buy)**: หมายถึง การตัดสินใจเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์และวิจัยเพื่อหาหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตหรือมีมูลค่าที่ดี

   - การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เช่น กำไรสุทธิ, ยอดขาย, การบริหารงาน, ภาวะเศรษฐกิจ, และแนวโน้มอุตสาหกรรม


2. **ซื้อเมื่อไหร่**:

   - **การเลือกเวลาซื้อ (When to buy)**: หมายถึง การตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสมในการซื้อหุ้น การจับจังหวะที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าหรือมีโอกาสที่จะขึ้นในอนาคต

   - การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน, ดัชนีชี้นำ, และกราฟราคาหุ้น


3. **ขายเมื่อไหร่**:

   - **การเลือกเวลาขาย (When to sell)**: หมายถึง การตัดสินใจในการขายหุ้นเมื่อราคาขึ้นไปถึงเป้าหมายหรือเมื่อมีสัญญาณว่าราคาจะลดลง

   - การประเมินว่าควรถือครองหุ้นต่อไปหรือขายเพื่อทำกำไรเมื่อหุ้นมีแนวโน้มลดลง


### ประโยชน์ของการตัดสินใจที่ถูกต้องใน 3 ข้อ

1. **การซื้ออะไร**:

   - การเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีแนวโน้มเติบโตจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

   - ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่มีศักยภาพ


2. **การซื้อเมื่อไหร่**:

   - การซื้อในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ราคาที่ดีและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในอนาคต

   - ช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อในช่วงที่ราคาสูงสุดหรือใกล้จะตกลง


3. **การขายเมื่อไหร่**:

   - การขายในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยล็อกกำไรและหลีกเลี่ยงการขาดทุนเมื่อราคาหุ้นเริ่มลดลง

   - การขายเมื่อถึงเป้าหมายจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน


### แม้การตัดสินใจของคุณไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่ก็จะทำให้คุณเฉลียวฉลาดขึ้น

- **การเรียนรู้จากความผิดพลาด**: การตัดสินใจในการลงทุนไม่ได้ถูกต้องเสมอไป แต่การที่เราตัดสินใจและลงมือทำจะช่วยให้เราเรียนรู้และปรับปรุงทักษะการลงทุนของเรา

- **การพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์**: ทุกครั้งที่เราตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น เราจะได้ฝึกฝนการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยให้เรามีความเฉลียวฉลาดและมีประสบการณ์มากขึ้นในระยะยาว

- **การเพิ่มประสบการณ์**: การทำซ้ำๆ การตัดสินใจหลายครั้งช่วยเพิ่มประสบการณ์ ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นในอนาคต


### เปรียบเทียบให้ชัดเจน

**การลงทุนที่ไม่มีการวางแผน (ไม่คำนึงถึง 3 ข้อนี้)**:

- นักลงทุนที่ไม่มีการวางแผนหรือไม่คำนึงถึง 3 ข้อนี้ อาจทำการซื้อหุ้นโดยไม่มีการวิเคราะห์หรือวิจัย

- การซื้อหุ้นตามกระแสหรือข่าวลือโดยไม่มีการวิเคราะห์พื้นฐานอาจนำไปสู่การขาดทุน

- การไม่คำนึงถึงเวลาซื้อขายที่เหมาะสม อาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรหรือประสบกับการขาดทุน


**การลงทุนที่คำนึงถึง 3 ข้อนี้**:

- นักลงทุนที่คำนึงถึงการเลือกหุ้นที่ดี (ซื้ออะไร) จะมีโอกาสในการเลือกหุ้นที่มีศักยภาพและลดความเสี่ยง

- การซื้อในเวลาที่เหมาะสม (ซื้อเมื่อไหร่) จะช่วยให้ได้รับราคาที่ดีและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

- การขายในเวลาที่เหมาะสม (ขายเมื่อไหร่) จะช่วยล็อกกำไรและหลีกเลี่ยงการขาดทุนจากราคาที่ลดลง


การปฏิบัติตามหลักการทั้ง 3 ข้อนี้จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่มีพื้นฐานที่ดีในการลงทุน เพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน และพัฒนาทักษะการตัดสินใจและการวิเคราะห์ที่จำเป็นในการลงทุนในระยะยาวครับ

***แนะนำแหล่งความรู้ฟรี ๆ สำหรับมือใหม่

*** คลังความรู้การเทรดออนไลน์ ชมฟรี 1000++ คลิป เหมาะสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่มากที่สุดครับ

https://www.zyo71.com/p/index-of-zyo.html

*** (อ่านฟรี!) คลังความรู้เรียนเทรดหุ้น 600 ++ บทความ

https://www.zyo71.com/p/index.html

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่