Posts

Showing posts from May, 2017

สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

ข้อสังเกตจากคนที่เล่นหุ้น Daytrade ล้มเหลว

Image
เดือนนี้ ผมได้กันเงินส่วนหนึ่ง ไปลองเล่นหุ้น แบบ Daytrade ดู ก็พบว่ามันน่าตื่นเต้นแฝงด้วยความน่าหวาดเสียว ซึ่งใจจริงก็ไม่ได้จะเล่นสไตล์นี้เป็นอาชีพหรอกนะ เพียงแต่ว่าสภาพการณ์ของ SET มันไม่ค่อยอำนวย หุ้นที่เราคิดจะฝากผีฝากไข้ไปพักใหญ่ๆก็ไม่ยอมไปต่อ หลุดแนวโน้มที่เราตั้งเอาไว้ ก็ต้องขายออก ซ้ำร้ายตัวใหม่ที่เรามองว่าน่าจะเป็นดาวรุ่งก็กลายร่างเป็นตัวหลอกไปเสียหมด การเล่นจึงต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นเก็งกำไรระยะสั้นไปสักระยะก่อน จนกว่าจะเจอคู่แท้นั่นแหละครับ ถึงจะได้ตั้งหลักปักฐานกันใหม่ ผลของการเล่นหุ้นสั้น(มาก)แบบนี้เป็นยังไงเหรอครับ? ผมพบว่า ได้ไม่คุ้มเสียเลยครับ คือมีบางไม้เราได้จริง แต่ที่เหลือนั้นมันขาดทุนทีละนิดละหน่อยจนไปกร่อนกัดกำไรที่ได้ไปจนหมด แถมยังมีทบดอกให้ตลาดอีกต่างหาก สรุปคือ 1) อาจจะไม่เหมาะกับนิสัยของผมอย่างสิ้นเชิง หรือ 2) ผมยังไม่เจอแนวทางที่ใช่ก็เป็นได้ ด้วยความที่ผมชอบบันทึกการเทรด ก็เลยรวบรวมข้อมูลที่ผมเจอในระหว่างการเก็งกำไรรายวันมาให้อ่าน เผื่อจะได้ไอเดียไปใช้กัน เครื่องมือผู้ช่วยของผมก็เบสิคมากครับ วอลุ่ม แท่งเทียน กับ Dow Theory ครับ สองอย่างแรกก็คงจะร

Stan Weinstein Trade Setup (1)

Image
เคยได้คุยจากเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งว่าอยากให้แปล หนังสือ Stan Weinstein Secrets for profiting in bull and bear markets ของ ปู่ Stan Weinstein ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับพี่มาร์ค มิเนอร์วินี ในเรื่องของ Market Stage ให้คนไทยได้อ่านกันหน่อยก็ดีนะ ซึ่งไอเดียนี้ก็ตรงกับใจของผมพอดี เพราะชอบในประเด็นของการประยุกต์ใช้เส้นค่าเฉลี่ย เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถหรือสมรรถนะในการเทรดได้ดีขึ้นอยู่แล้ว จึงรับปากเอาไว้ และทยอยแปลสะสมไว้เรื่อยๆ ก็ตามสไตล์นะครับ ผมจะไม่ทำทั้งหมดหรอก เอาเฉพาะส่วนที่คิดว่าน่าสนใจและเอาไปประยุกต์ใช้ได้เลย และ ขอแจ้งให้ทราบว่าการจัดทำในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อให้ความรู้กับผู้อ่านเท่านั้น ไม่มีเจตนาแสวงหากำไรหรือทำเพื่อเชิงพาณิชย์ใดๆที่สิ้นครับ และที่สำคัญคือ ถ้าผู้แปลคิดเห็นว่าเนื้อหาที่โพสต์ไปแล้วมีความสุ่มเสี่ยงหรือนำความไม่สบายใจมาให้ ขอลบหรือระงับการเผยแพร่ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าครับ ปรัชญาการซื้อหุ้นของ Stan Weinstein 1. อย่าลงมือซื้อหรือขายหุ้นก่อนเช็คกราฟ 2. อย่าซื้อหุ้นตอนข่าวดีออกมา โดยเฉพาะพบว่าราคาวิ่งขึ้นมาก่อนมีข่าว 3. อย่าซื้อหุ้นเมื่อพ

Reset แล้วเริ่มนับ PPBP ใหม่

Image
เขียนโดย เซียว จับอิดนึ้ง facebook.com/zyoit & เพจ zyo facebook.com/zyo77 จำได้ว่าเคยคุยกับเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง ประมาณว่า เราควรเริ่มนับ Pocket Pivot Buy Point(PPBP) ครั้งแรกเมื่อไหร่ดี เราก็ชวนคิดกันว่า ถ้าเราไม่หลอกตัวเองนะ ก็นับตั้งแต่มันเริ่มเกิดนั่นแหละ หากซื้อทีหลังก็ให้ยึดแท่งเริ่มนั้นเป็นหลัก ไม่ควรนับเอาตอนที่เราซื้อทีหลังนั้น แล้วจุดเริ่มต้นจะหายังไงล่ะ? ก็เอาตอนที่กฎนี้มันถูกละเมิดนั่นแหละครับ ละเมิดกฎเมื่อไหร่เหรอ? ตามหลักก็คือเมื่อแท่งราคาละเมิดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันลงไปอย่างไร้ข้อกังขา ครับ คือหลังจากที่แท่งนำมันหลุดเส้น 50 วันลงไปแล้ว ทั้งเต็มแท่งและทิ้งไส้ ให้เรารอดูแท่งถัดไปให้ดีครับ ถ้ามันลงต่อไปอีก ก็ถือว่าเป็นสัญญาณจบรอบ ขายทันที นี่แหละครับถือว่าเป็นจุดจบ ระบบกลับไป Reset กันใหม่ ดูรูปประกอบกันนะครับ จากกราฟหุ้น MC ในช่วงที่ตลาดลงแบบ panic sell เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ราคาก็ลงไปละเมิดเส้น 50 วัน ถือว่าจบรอบ กราฟได้ Reset เรียบร้อย จากนั้นก็ให้ท่านรอไปอีก 10 วัน เพื่อรอดูแท่งเขียววอลุ่มสูงกว่าในรอบ 10 วัน (หรืออาจจะน้อยกว่า 10 วันก็ได้ หากมันมี

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

Image
ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆสมาชิกมีความสงสัยหรือไม่เคลียร์เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าฐานราคา "Cup with Handle" แบบผมหรือเปล่า ยอมรับออกสื่อเลยว่าผมเป็นคนหนึ่งที่มองไม่ออกว่าแบบไหนที่ใช่ แบบไหนที่เรียกว่าสมบูรณ์ คือผมรู้สึกว่ามันเป็นแพทเทิร์นที่ " อาร์ต " มากครับ งงมาตลอดว่าเซียนเขามองออกได้ไง (แนะนำงานเขียนใหม่ล่าสุด) ๑. เล่มนี้จะเปิดเผยอีกด้านของการเทรดแนวเทคนิคอล จากมุมมองของนักเทรดประสบการณ์ 10-40 ปี มือใหม่ควรอ่านนะครับ จะได้ใช้เทคนิคอลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มือโปรเขามองการวิเคราะห์ทางเทคนิคว่ายังไงบ้าง มีจุดแข็งอยู่ตรงไหน? อะไรคือจุดอ่อนของเทคนิคอล แล้วจะใช้งานมันยังไงเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด? ๒. ทำไมทั้งที่ใช้อินดิเคเตอร์ตัวเดียวกัน หรือใช้ Price Pattern ก็ตัวเดียวกัน ...แต่ทำไมนักเทรดมือโปรได้กำไรสม่ำเสมอ? ...ทว่ามือใหม่กลับเอาตัวไม่รอด...ขาดทุนซ้ำซาก? ปัญหามาจากเทคนิคอล? หรือมาจากส่วนอื่นกันแน่? ๓. นำเสนออีกมุมของเทคนิคอล ที่ไม่มีใครบอกคุณตรง ๆ ว่าแท้จริงแล้วเทคนิคอล ...เทคนิคอลไม่ได้สวยหรู ไม่ได้มหัศจรรย์หรือเป็นสูตรวิเศษอะไรเลย?! ... มือโปรไม่ได้มองแบบที่มือสมัค

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks