ถ้าคุณต้องการรู้จักนิสัยของตลาดให้มากที่สุด ให้เดินไปที่ชายหาด ก้าวลงไปในน้ำทะล

Image
ถ้าคุณต้องการรู้จักนิสัยของตลาดให้มากที่สุด ให้เดินไปที่ชายหาด ก้าวลงไปในน้ำทะล แล้วลองผลักน้ำจากฝั่ง ทำคลื่นดันกลับเข้าไปหาทะเล สร้างคลื่น สู้กับทะเล ลองทำดู ทั้งคลื่นลูกเล็ก และคลื่นลูกใหญ่ คุณจะพบว่า ไม่ว่าคุณจะสร้างคลื่นดันกลับไปในรูปแบบไหน คุณจะไม่มีทางชนะคลื่นจากทะเลได้เลย  ไม่มีทาง ความจริงที่คุณได้จากเรื่องนี้คือ "ตลาดจะถูกเสมอ" . Market Wizards ยอมรับตรงกันว่า "ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ" พวกเขาไม่เคยหัวเสียกับตลาด(เพราะเคยทำมาแล้วในตอนเป็นมือใหม่) พวกเขาไม่เคยโทษตลาด(เพราะเคยทำมาแล้วในตอนเป็นมือใหม่) . พวกเขาแค่ยอมรับว่าตลาดจะทำในสิ่งที่มันจะทำ พวกเขาแค่ยอมรับว่าเขาไม่สามารถเอาชนะตลาดได้ จากนั้นสิ่งที่พวกเขาทำก็คือ ๑) อ่านตลาด ๒) แยกแยะความเสี่ยงกับโอกาสให้ได้ ๓) หาโอกาสทำเงินเมื่อตลาดให้โอกาส และอยู่เฉย ๆ ถือเงินสดเมื่อตลาดเป็นความเสี่ยง ๔) คิดก่อนเสมอว่า "ถ้าตลาดไม่ให้เงิน(เทรดขาดทุน) ฉันจะยอมเสียกี่บาท" การเอาตัวรอด คือเป้าหมายแรกของยอดนักเทรด เพราะคิดแบบนี้...ไม่ว่าตลาดจะร้ายแค่ไหน ยอดนักเทรดก็จะรอดเสมอ #จิตวิทยาการเทรด #ปั้นพอร์ต #วินัยนัก

พื้นฐานแนวทางการขายหุ้นออก 10 ข้อ (Exit Trading 101)

หลายวันก่อน มีสมาชิกกระแซะมาว่า ผมมักแชร์แต่เรื่องซื้อ แต่ไม่มีแนวทางการขายบ้างเลย ทำให้ท่านไม่รู้จุดขาย จนปล่อยให้ร่วงแล้ว stop loss แทน



ก็ไม่แน่ใจว่าท่านอ่านหนังสือที่ผมเขียนบ้างหรือยังนะ? ในนั้นผมเขียนถึงแนวทางการขายหุ้นหลากหลายมาก ถ้าท่านเอาสักไอเดียไปใช้ ก็น่าจะไม่มีปัญหาแบบนี้
สองเล่มที่ว่ามานั้น หน้าตาเป็นแบบรูปล่างนะ



แต่ผมก็เข้าใจท่านนะ จากประสบการณ์ส่วนตัวเองก็เจอมาก่อน 
คือที่ว่า "การซื้อมันยาก" แล้ว "การขายหุ้นออกยิ่งยากกว่า"

เพราะตอนซื้อท่านสู้กับการเคลื่อนไหวตลาดอย่างเดียว
แต่ตอนขายนั้น นอกจากการเคลื่อนไหวราคา ท่านต้องสู้กับศัตรูตัวร้ายที่สุด นั่นคือ "ตัวของคุณเอง"

คือส่วนใหญ่ "กลัวขายหมู" อยากได้มากขึ้นอีก พอราคาร่วงก็เกิด bias ต่อราคาอยากให้กลับไปราคาเดิมก่อนค่อยขาย เลยกลายเป็นยักแย่ยักยัน จะขายก็ไม่กล้าขาย กลัวโดนหลอก
กว่าจะได้ตัดใจ ก็โน่น stop loss เพราะมันถึงจุดวิกฤติแล้วนั่นเอง

แทนที่การขายหุ้นจะเป็นเรื่องง่าย ก็กลายเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนไปเสียฉิบ

ดังนั้น ผมเลยมีไอเดียอีกประเด็นที่อยากทำให้ท่านอ่าน คือ "เทคนิคขายหุ้น"
เรียกว่าขอจัดเต็มต่อเนื่องให้ท่านได้แนวทางไปใช้ให้มากที่สุด
ท่านจะได้ไม่มาบ่นอีกว่า "ไม่รู้จะขายยังไง ขายตอนไหน"

แต่อย่างไรก็ตามนะ นี่เป็นแค่ method(แนวทาง) เท่านั้น ท่านจะเอาไปใช้ไม่ได้สนิทใจหรอก ถ้าไม่ได้ปรับ mind (จิตใจ-การรับรู้ที่เกิดจากหัวใจ) ของท่านเสียก่อน

พูดง่ายๆคือแค่ "รู้" อย่างเดียวไม่ได้ ต้อง "ลองทำ" ด้วย

ดังนั้น ท่านต้องฝึกขายครับ โดยเฉพาะ ขายทำกำไร ทำให้ชิน อย่าเพิ่งหวังผลเลิศ ทำให้เป็น แล้วจากนั้นค่อยๆปรับให้มันดีขึ้น ค่อยๆปกปิดจุดอ่อนไป เดี๋ยวก็คล่องเอง

วันนี้จึงขอเริ่มต้นด้วยการนำเสนอไอเดียของฝรั่ง บทความชื่อ 10 Ways To Exit A Trade แปลเป็นไทยว่า 10 แนวทางการขายหุ้น หลังจากไปอ่านแล้วพบว่าน่าสนใจเลยแปลมาแชร์ให้อ่านกันครับ


#1 – Fixed-risk stop-loss : ขายเพื่อรักษาเงินทุนของตัวเอง
จะตตั้งเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของท่าน 10%, 7%, 5% แล้วแต่
บางคนก็แนะนำให้สู้ ไม่ตัดขาดทุนให้เสียเงิน ก็แล้วแต่สไตล์ใคร สไตล์มันนะ
ปัญหาของแนวทางนี้คือ เขาว่ามันไม่เอื้อไปตามสภาพตลาด จึงมักจะโดนเขย่าให้ออกก่อนกำหนด ซึ่งผมคิดว่าความเชื่อนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่เจอกันมา แต่จากตัวผมเองพบว่า ยิ่งต่อราคา ยิ่งกลัวโดนหลอก ก็ยิ่งเจ็บ


#2 – Reverse entry rule : ซื้อด้วยอะไร ก็ขายด้วยตัวนั้น
เช่น ถ้าท่านซื้อเพราะราคาทำจจุดสูงสุดในรอบ 50 วัน ก็ควรขายออก เมื่อราคาลงไปต่ำกว่า 50 วัน (น่ากลัวชิบเป๋ง)
หรือเคยอ่านเจอมาเหมือนกันว่า ซื้อเพราะเส้นค่าเฉลี่ยตัดขึ้น ก็ต้องขายเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยตัดลง ซื้อด้วย RSI oversold ก็ขายเพราะ RSI overbought อะไรประมาณนี้




#3 – Price action stops
พูดง่ายคือใช้การละเมิด trend line นั่นแหละ
ส่งให้ท่านดูรูปดีกว่า ง่ายดี

คือลากเส้นจากจุดต่ำสุดดักรอไว้เลย ถ้าหลุด ก็ขาย

แถมคลิปให้ดูด้วยเลย




#4 – Trailing stop
เป็นการใช้อินดิเคเตอร์มาช่วยครับ ซึ่งคุณสามารถตั้งได้
ดูคลิปนี้รู้เลย





#5 – Chandelier stop
นี่ก็เป็นอินดิเคเตอร์เช่นกัน
ไม่ขออธิบายนะ ดูคลิปไปเลย




#6 – Profit target
วัดเป้าจาก price pattern หรือ Fibonacci projection หรือไม่ก็เป็นแนวต้านใหญ่ หรือไม่ก็ตัวเลขกลมๆ






#7 – Fair value
นี่เป็นเครื่องมือของนักลงทุนสายวีไอครับ ท่านต้องคำนวนราคาที่เหมาะสมออกมาให้ได้
ถ้าไม่รู้แนวทาง ดูคลิปนี้








#8 – Time-based exit
ใช้เวลาที่เหมาะสมเป็นตัวช่วย
ตัวอย่างง่ายๆ คือ ซื้อที่ข่าวร้าย ขายเมื่อมีข่าวดี
ซื้อเพื่อรอขายตอนประกาศงบที่ออกมาดีเกินคาด
พวกนี้เป็นไอเดียการขายของนักลงทุนวีไอครับ


#9 – Top slicing
ข้อนี้ไม่เข้าใจ เขาว่าไว้อย่างนี้
UK small cap expert Simon Thompson is known for making value plays and he often advocates a technique known as top slicing. Top slicing is where you have a nice winning position in a stock but have spotted a new opportunity elsewhere.
The technique involves closing two-thirds of the trade and attaching a 10% trailing stop to the rest. This ensures you have some money left in play, in case the stock keeps going higher, but it also liquidates some capital which you can put into a new investment.
น่าจะเป็นการ "ทยอยแบ่งขาย" หรือเปล่าไม่แน่ใจ


#10 – Never
กอดไว้จนตายก็ไม่ขาย ส่งต่อให้ทายาทถือ แล้วกลับชาติมาถือต่อ เจ้าของไอเดียคือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ศาสดาของวีไอนั่นเองครับ โดยเงื่อนไขก็คือหุ้นนั้นต้องเป็นสุดยอดกิจการเท่านั้นนะ

ก็ลองเอาไปต่อยอดกันดูครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ