เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

Image
เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น พี่มาร์คบอกว่า คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ ๗ เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ.... ๑) (ในยามที่ตลาดยากลำบาก/กลยุทธ์ของคุณไม่เวิร์ค) พัฒนาความสามารถในการควบคุมตนเองให้นั่งเฉย ๆ ไม่เทรด -  บังคับตนเองให้ถือเงินสดเป็นระยะเวลานานได้โดยไม่เทรด และไม่ปล่อยให้ดัชนีกดดันให้คุณบังคับตัวเองให้ต้องเทรดทั้ง ๆ ไม่มีหุ้นที่ตรงตามเกณฑ์การซื้อของคุณ ๒) จำกัดความสูญเสียทั้งหมดให้มีขนาดน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของรางวัล ๓) เมื่อการเทรดของคุณเวิร์ค ให้ขยันเทรดเพื่อให้กำไรทบต้นมากที่สุด ๔) เมื่อการเทรดของคุณไม่เวิร์ค ให้หยุดเทรด หรือเทรดให้น้อยที่สุด เพื่อลดการทบต้นความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ๕) อย่าถัวเฉลี่ยหุ้นที่ขาดทุน ๖) อย่าปล่อยให้กำไรก้อนโตกลายเป็นขาดทุน ๗)  เคารพความเสี่ยงและมีวินัย บังคับตนเองให้ทำตามกฎและแผน-แทนที่จะทำตามอีโก้ให้ได้ตลอดเวลา

หาหุ้น Swing Trade ด้วยหุ้นมีเจ้าที่ หรือ Demand คุ้มครอง

เทคนิค Swing Trade
หาหุ้น Swing Trade ด้วยหุ้นมีเจ้าที่ 
หรือ Demand คุ้มครอง


ช่วงนี้ตลาดหุ้นเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งนะครับ หลังจากที่ลงแรงสร้างความหวาดกลัวให้กับนักเทรดกันทั้งตลาดไทยและเทศ

วันนี้มีโอกาสเฝ้าจอและเริ่มซื้อหุ้นบางตัวที่น่าสนใจ จึงเอาไอเดียมาแชร์กันครับ
เป็นเรื่องของการหาหุ้นที่มีเจ้าที่คุ้มครอง และการสวิงเทรดในช่วงตลาดผันผวนแบบนี้

โดยสไตล์, ผมเป็นขา long นะครับ ชอร์ตไม่เป็น
ก็ยัง buying strength หรือซื้อตอน breakout เหมือนเดิม
บางคนอาจจะรู้สึกเข็ดขยาดกับการซื้อแบบนี้ไปบ้าง ไม่มากก็น้อย
แต่ผมเองก็ยังศรัทธากับมันอยู่ เพราะมันเหมาะกับนิสัยและความชอบของตัวเองครับ
ซึ่งถ้าเราเลือกจุดเข้าดีๆ จุดหนีแคบ ก็เสี่ยงไม่มากครับ
คือผิดพลาดก็มีแหละ แต่เรารีบขายออกไปก่อนให้ไว เป็นใช้ได้

และเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพตลาด ผมยึดแนวทางจากเล่มเขียวเป็นไกด์ แทนเล่มดำนะครับ

เล่มเขียว หน้าตาแบบนี้นะ

ส่วนเล่มดำ แบบนี้วางไว้ก่อน


คือตลาดยังไม่ได้ยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้น อาจจะแค่รีบาวนด์หรือเปล่าเรายังไม่อาจทราบได้
ดังนั้น การ play safe แบบสวิงเทรดจึงเหมาะกับช่วงนี้นะครับ กำไรรอบใหญ่วางไว้ก่อนนะ
เอาสัก 5-20% ก็ยังพอได้อยู่นะครับ ส่วน stop loss ขายที่ 3-5% ไม่ควรเกินนี้
ซึ่งบอกเลยว่า ขายตัดขาดทุนสนุกครับ มาร์เก็ตติ้งท่านน่าจะพอใจเป็นพิเศษ

ส่วนเรื่องการบริหารเงินทุนนั้น แนะให้เก็บเงินสดไว้เยอะหน่อยนะ 50% ได้ยิ่งดี
อย่าถือหุ้นเยอะ เอาสักสองสามตัวพอ เผื่อเกิด panic จะได้ออกทันครับ

คลิป เทคนิค swing trade


แล้วเราจะหาหุ้นที่น่าเล่นยังไง?
ผมมีไอเดียแบบนี้
๑) หาหุ้นที่มีเจ้าที่หรือ Demand คุ้มครอง
ดูได้จากทรงของมันครับ
- ถ้ามันถูกดันราคาขึ้นมาเป็นขาขึ้น แล้วไม่ร่วงตามตลาด(ตอนที่ SET panic)
- หรือร่วงตาม แต่ย่อน้อยกว่า มีการสร้างฐานราคาน่าสนใจ

โดยรอยเท้าของเจ้าที่ เราดูได้จาก demand นั่นเองครับ
ดูยังไง?
ในช่วงที่ผ่านมา SET ร่วงแรง หุ้นส่วนใหญ่ มี supply ออกมามาก
เมื่อ supply ออกมาเยอะ ราคาหุ้นจึงร่วงแรง
ส่วนใหญ่ทำแนวโน้มขาลง ซึ่งพวกนี้ ผมเรียกมันว่า หุ้นไม่มีเจ้าที่
เพราะไม่มีการคุ้มครองอะไรเลย ปล่อยให้ไหลตามกระแส
ราคาร่วงจากยอดจนเสียทรงความเป็นขาขึ้น
ให้ supply เป็นใหญ่ แบบนี้ไม่ดี
เพราะหากต้องการฟื้นตัว demand ต้องใช้แรงมหาศาล
จึงวิ่งขึ้นยาก เพราะต้องเจอคนติดดอยคอยขายใส่ตลอดทาง
มันคือหุ้นผู้แพ้ เพราะอ่อนแอมากเกินไป


ทรงของหุ้นที่มี demand เป็นใหญ่นั้น
มันต้องรักษาความเป็นขาขึ้นได้อยู่
แม้ไม่ใช่ในภาพใหญ่ แต่ระยะ 3-6 เดือน ต้องมี demand แข็งแกร่ง
คล้ายกับรถที่ติดไฟแดง ติดเครื่องรอ
สามารถเหยียบไปต่อได้ทันทีเมื่อเกิดไฟเขียว
คือดีดไว บวกได้ดีกว่า เพราะ demand ยังแข็งแกร่ง

สรุปคือ
เราจะต้องหาหุ้นที่มี demand เป็นใหญ่เท่านั้น เพราะมีโอกาสดีดแรง
แล้วจากนั้น ค่อยหาจังหวะซื้อ

จบภาคทฤษฎี มาดูภาพตัวอย่างกัน
วิธีการดูง่ายๆคือ การวัดระยะที่ demand กับ supply วิ่งได้แล้วเทียบกัน

นี่เป็นทรงที่ demand เป็นใหญ่

ทรงแบบนี้ demand มีความยาวมากกว่า supply อย่างชัดเจน
ตอนที่ SET ร่วงแรง supply ออกมาสั้นมาก ย่อตื้นแบบนี้ แสดงว่ามีเจ้าที่หรือ demand คุ้มครอง
จากนี้ถ้าตลาดหยุดลง หากมันต้องการไปต่อ ก็ทำได้ง่าย
เนื่องจากมีทรงของขาขึ้นยังไม่เสีย

ส่วนนี่เป็นทรง supply เป็นใหญ่

ท่านจะเห็นว่าความยาวของ demand กับ supply สูสีกันเลย
ตอนที่ SET ลงแรง มันก็ลงแบบกลัวน้อยหน้า คนกลัวกันมาก supply ชนะ demand แบบหลุดลอย
คือขึ้นแข็งแรง แต่ลงก็แรงไม่แพ้กัน แบบนี้เหนื่อย
เพราะทรงขาขึ้นโดนทำลายจนแทบหมดรูป
แบบนี้ถือว่าฟื้นยากกว่าเคสบน เพราะร่วงหนักเกิน

สรุปง่ายๆสั้นๆคือ
- หุ้นที่มี demand เป็นใหญ่ เขายังคุมอยู่ มีโอกาสวิ่งขึ้นไปต่อได้ง่าย
- หุ้นที่มี supply เป็นใหญ่ ฟื้นยากกว่า เพราะต้องเจอการต่อต้านตลอดทาง

ชมคลิป Swing Trade



เมื่อเจอทรงหุ้นที่ demand เป็นใหญ่ ทำไงต่อ?
ก็ต้องหาฐานราคาที่น่าเชื่อถือ เพื่อหาจุดเข้า

ฐานราคาแบบนี้นะ
คือมันเป็น basic น่ะครับ ผมก็ดูแค่นี้จริงๆ


แค่จำทรงพวกนี้ได้ ท่านก็เห็นของดีเพียบเลยครับ

ตัวอย่างทรง (นี่เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ ว่ามันเป็นแบบนี้)


๒) หุ้นที่ดีดตามตลาด
คือถ้ามันมีเจ้าที่ หรือ demand ดูแลอยู่ด้วย แถมตลาดบวกเขียว มันบวกตาม พวกนี้น่าสนใจ
เพราะมีเม็ดเงินเข้ามาเล่นแล้ว พร้อมวิ่งเมื่อตลาดดี แสดงว่ามันมีโอกาสวิ่งได้พอสมควร
โดยจุดซื้อก็คือรอจนมัน breakout ฐานราคารูปบนให้ได้ก่อน



๓) หุ้นเข้าใหม่ที่เริ่มกลับตัว
ก็มีบางตัวนะ ลองดูให้ดี พวกนี้เม่ายังติดน้อย เมื่อหุ้นในตลาดมันซึมไปหมด
หาก demand ต้องการเลือกหุ้นเข้าไปสิงสถิต ก็ทำได้ง่าย โดยพื้นฐานต้องไม่ขี้เหร่เกินไปนะ
ชื่อชั้นต้องเรียกแขกได้ ไล่ราคาแล้วมีคนคอยเชียร์เยอะ



หาหุ้นที่มีเจ้าที่ได้ที่ไหน?
พวกนี้คุณสามารถทำการบ้านหาหุ้นเก็บไว้ใน watch list ไว้เลยครับ
ก็หาหุ้นที่มันบวกนั่นแหละ siamchart.com ไล่ดูทีละตัวละตัว
หรือสแกนด้วยก็ได้ ของ bidschart ก็ฟรี


ที่น่าสนใจคือ
- หุ้นที่ MACD ตัด 0 ขึ้น
- หุ้นที่มีวอลุ่มเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ 200% ขึ้นไป
- หุ้นที่มี RSI > 70
ก็ค้นหาไปเรื่อยเปื่อยครับ เหมือนพลิกหินทีละก้อน คนทำการบ้านมากกว่า ก็มีโอกาสเจอช้างเผือกสูง(ลอกมาจากคำพูดของพี่โจ ลูกอีสาน)

หุ้นติด top gainer ก็ได้นะ
ผมเคยเขียนไว้ชื่อ แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

ก็เอามาดูทรงว่ามันสร้างฐานตามทรงเบสิคที่ผมให้ไว้หรือเปล่า ถ้าคลับคล้ายคลับคลา จ่อๆ ก็ลากเว้นดักรอไว้เลยครับ เก็บเข้า watch list เมื่อเห็นทะลุ ก็ซัดไปตามความเสี่ยงที่ยอมได้ตามแผน



แผนการเทรดที่คุณต้องคิดไว้อย่างน้อยๆ
๑) ฉันจะซื้อตรงไหน?
๒) ฉันจะขายตรงไหน ถ้าราคาวิ่งสวนทาง (stop loss)
๓) ถ้าขายเมื่อราคาวิ่งสวนทาง ฉันขาดทุน กี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกิน 5% ให้เลิกล้มความตั้งใจซะ เก็บเงินสดไว้ดีกว่าครับ
๔) ราคาควรวิ่งไปได้สักเท่าไหร่ ท่านสามารถใช้แนวต้านดูได้ครับ หรือถ้าเป็น pattern ที่สามารถวัดเป้าได้ ก็วัดดูคร่าวๆได้ครับ
๕) จำนวนเงินที่เข้าซื้อเท่าไหร่?


แถมการบ้าน
ก็ขอปิดชื่อหุ้นนะครับ เดี๋ยวกลตจะว่าเอา อีกอย่างผมไม่ชอบแจก เพราะตัวเองก็ไม่แม่น เด๊่ยวจะพากันขาดทุนกันเปล่าๆนะ ถ้าคุณหาเองได้ และคิดเองเป็น ก็ถือเป็ยนบุญกุศลแก่ตัวเอง

ปล. พวกนี้มันเป็นการเคลื่อไหวในอดีตนะ สองสามวันที่แล้ว บางตัวอาจวิ่งหรือร่วงแล้วก็ได้








ส่วนการ Take Profit 
ก็แนะนำให้ใช้ selling into strength คือ ขายเมื่อราคาวิ่งขึ้นไปถึงแนวต้าน
หรือวิ่งแรงๆ โดยใช้หลักการ "กำไร 3 เท่าของตัดขาดทุน"
ถ้าตัดขาดทุน 3% ควรเก็บกำไรที่ 10% ขึ้นไป
๑) ถ้าคุณให้ stop loss 3% เมื่อราคาวิ่งเกิน 6% ให้ยกระดับ stop loss ขึ้นไปที่ต้นทุน เพื่อตัดโอกาสการขาดทุน และให้เริ่มทยอยขายทำกำไรไปเรื่อยๆ เพื่อล็อกกำไร
๒) หากราคาวิ่งแรง แท่งเทียนห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น คือ 10 วันมากก็ให้ทยอยขายอีก
๓) อย่าวัดแบบ "ถ้าไม่กำไรก็ขาดทุน" เด็ดขาด คิดอย่างเดียว เล่นแบบกองโจร "เอาแต่ได้ ไม่แลก"

ถ้าทำแบบนี้ได้ ท่านจจะพอมีกำไรติดมือได้บ้างครับ

สรุปคือ เป็นแนวทางเดิมๆนั่นแหละครับ
เพียงแต่ช่วงนี้ เอากำไรน้อยลงหน่อย อย่าเอาเป็นเด้งเลย
ได้ถึง 20% ก็หรูหราแล้วครับ

แถมคลิป เทคนิคสวิงเทรด แบบจุใจ





(แนะนำเพิ่มเติม ของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
เรียนเล่นหุ้น เรียนเทรด forex จิตวิทยาการเทรด มือใหม่เล่นหุ้น
คลิกลิ้งนี้ครับ https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ


เข้าไปชม คลิกที่ลิ้งนี้ https://www.youtube.com/channel/UCTDoP5zRI4hRETT_2SSlPag/videos





www.facebook.com/zyobooks


และ eBook มีขายที่เว็บ https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1
แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า
ebook หนังสือสอนเล่นหุ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน