แต่ก็ยังมีอีกแบบที่เปิดตลาดมาโดนกระหน่ำขายไปสองสามวัน จากนั้นก็ดีดแรงทำ All time high และวิ่งขึ้นทำนิวไฮได้อย่างต่อเนื่องกระทั่งวันนี้ เช่น TACC กับ FSMART ที่หน้าตาเหมือนกันมาก
พื้นฐาน
1) ถ้าดูงบจะเห็นว่ามีกำไรเพิ่ม เติบโตขึ้นเรื่อยๆ บางบริษัทก็ก้าวกระโดดทำ all time high เลยก็มี
2) เป็นผู้เชี่ยวชาญฉพาะด้าน niche market สินค้าขายให้รายย่อยโดยตรง
เอาเป็นว่า ให้ดูที่งบกำไรเป็นหลัก ถ้ากำไรโตชัดเจน แต่ราคาไม่ยอมไปก็ให้รอจังหวะที่มีการ breakout ข้ามกรอบค่อยเข้าก็ได้
แนะนำคลิปเสริมความรู้
Class C ท่าดีทีเหลว
พวกนี้ถือเป็น "ตัวหลอก" ของ Class A เพราะช่วงแรกก็เขียวดีไล่ราคาขึ้นไปเร็วและแรงรวดเดียว ทำเป็นขาขึ้นที่แข็งแรงมากๆ แต่จากนั้นก็ถล่มขายซะ อารมณ์เหมือนไล่ราคาขึ้นไปเชือด จากนั้นก็ sideway เหมือนรอข่าวดีซึ่งไม่รู้จะมาเมื่อไหร่
พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่ขาย IPO ราคาแพงๆเกิน 10 บาท ปั่นยากถ้าไม่มีข่าวดีแบบ surprise จริงๆ
ซึ่งจะตรงกับข้อเขียนของ Mark Minervini ไว้เลยว่า "หุ้นที่เข้าใหม่มักจะวิ่งแรงตั้งแต่วันเริ่มเสนอขายและอาจวิ่งต่ออีกหลายอาทิตย์หรือหลายเดือนด้วยซ้ำ ต่อมาอาจโดนขายทำกำไรจนหุ้นปรับลง เพราะมีบางคนอยากได้เงินง่ายๆเร็วๆ"
นิสัยถาวรของมันคือสวิงแรงมากๆ ทำราคาไม่เป็นระบบเหมือน 2 Class แรก
ถ้าสนใจก็รอให้มีการสะสมและยกกรอบแบบ SCN ก่อนก็ได้ ถ้างบออกมาดีก็มีโอกาสเป็น Class B ได้เช่นกัน
ผมชอบวิธีของพี่ Mark Minervini จากนังสือ "เทรดแบบเซียนหุ้นให้ได้กำไรขั้นเทพ" ที่ให้แนวคิดในการลงทุนหุ้น IPO ว่า
"ผมจะสนใจหุ้นใหม่เข้าตลาดก็ต่อเมื่อราคาหุ้นยืนแข็งได้อย่างน้อย 2-3 เดือนหลังจากเข้าเทรดในตลาด โดยประเมินจากการ "สร้างฐานเบื้องต้น" ในช่วงปรับฐานอย่างน้อย 3 สัปดาห์ และต่อมาพุ่งขึ้นทำนิวไฮ หรือปรับฐานแบบสร้างสรรค์ไกล้ all time high" ถ้าเราดูหุ้น Class A กับ B เราจะเห็นการทำตัวของหุ้นที่สนับสนุนแนวคิดนี้อย่างชัดเจน
คือหุ้นตัวไหนที่เข้าตลาดแล้ววิ่งแรงเลย ให้ระวังปรับฐานแรงเพราะคนดันขึ้นไปเพื่อปล่อยของ
ให้สนใจตัวที่ขึ้นไป(หรือลงก็ได้) แล้วมีการปรับฐานหรือ sideway หรือจะเรียกว่า VCP หรือ cup and handle ก็แล้วแต่ เพราะมันเป็นความตั้งใจของคนทำราคาที่ไม่หักหาญ และมีเจตนาในการทำราคาแบบคนมองการณ์ไกล (ดูรูปประกอบ)
หรือ breakway gap ก็น่าสนใจ ผมเคยได้กำไรจากหุ้นอย่าง MEGA กับ KOOL มาด้วยทรงนี้แล้ว
การเทรดยังคงเป็นเรื่องยาก หากยังไม่เข้าใจแนวคิด 3 ข้อนี้ Trading Was Hard Until I Understood These 3 Concepts Three concepts to understand to make trading easier: “การซื้อขาย” และ “ยาก” เป็นคำที่เทรดเดอร์มือใหม่หลายคนมักมีความหมายเหมือนกัน ตัวเลข แผนภูมิ และอารมณ์ที่สลับซับซ้อนสามารถเต้นได้อย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนในการซื้อขายเริ่มง่ายขึ้นสำหรับฉันเมื่อฉันเจาะลึกเข้าไปในแนวคิดสำคัญสามประการ ในบทความนี้ เราจะเดินทางผ่านข้อมูลเชิงลึกที่เปลี่ยนแปลงได้ซึ่งเปลี่ยนมุมมองของฉันจากการมองว่าการซื้อขายเป็นความท้าทายที่น่าหงุดหงิด มาเป็นการมองว่ามันเป็นความพยายามที่มีโครงสร้างและจัดการได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือต้องการปรับปรุงแนวทางการซื้อขายของคุณ หลักการเหล่านี้อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่คุณกำลังมองหา เส้นทางสู่ความสำเร็จในการซื้อขายนั้นเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดและความท้าทาย ฉันก็ไม่มีข้อยกเว้น เส้นทางการค้าขายของฉันเต็มไปด้วยความผิดพลาด ความสูญเสีย และความหงุดหงิดจนกระทั่งฉันเข้าใจแนวคิดพื้นฐานสามประการที่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แนวคิด 3 ข้อ อยู่ที่นี่: 1. Establishing Good Risk Reward Ratios