หุ้นอเมริกาที่ผ่านสูตรสแกนแบบ Peter Lynch

เคยสงสัยไหมว่า นักลงทุนระดับตำนานค้นหาหุ้นชนะตลาดกันอย่างไร? นี่คือหลักพื้นฐานที่ ปีเตอร์ ลินช์ ใช้ในการมองหาบริษัทที่มีศักยภาพสูง! $DBX, $FVRR, $COUR, $AI, $SOUN, $GLBE, $NU, $HIMS, $S, $DUOL, $ROKU, $IOT, $PYPL ที่มา https://x.com/commonsenseplay/status/1994082845305057662 เช็กลิสต์คัดเลือกหุ้นแบบ Peter Lynch 1. ค่า Trailing P/E < 25 2. ค่า Forward P/E < 15 3. การเติบโตของ EPS > 15% 4. อัตราหนี้ต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) < 35% 5. มาร์เก็ตแคป < 5 พันล้านดอลลาร์ 6. ค่า PEG Ratio < 1.2 ทำไมค่า P/E จึงสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการ “ซื้อแพงเกินไป” P/E ต่ำ = ความปลอดภัยในการลงทุนสูงกว่า Forward P/E ต่ำกว่า 15 มักบ่งบอกถึงคาดการณ์กำไรที่แข็งแกร่งในอนาคต ตัวอย่างหุ้นที่มีมุมมองด้านมูลค่าที่น่าสนใจ $DBX (Dropbox) $FVRR (Fiverr) $COUR (Coursera) $PYPL (Paypal) EPS Growth > 15% - การเติบโตของกำไรคือเครื่องยนต์สำคัญของราคาหุ้นในระยะยาว - บริษัทที่แข็งแกร่งมักเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เป็นครั้งคราว ตัวอย่างกลุ่มหุ้นเติบโตสูง กลุ่ม AI: $AI (C3.ai), $SOUN (SoundHound) การชำระเงินดิจิทั...

Do Story : วิธีเล่าเรื่อง ให้ โลกต้องฟัง

โดย เซียว จับอิดนึ้ง : facebook.com/zyoit


เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ บางๆ ผมเห็นซุกอยู่ในมุมของชั้นหนังสือ แต่ที่หาเจอเพราะมีความต้องการหาหนังสือเกี่ยวกับการเขียนอยู่พอดี ทั้งชั้นมีเล่มเดียวจริงๆ
เมื่อดูปก
ภาพรวมของชื่อ ไม่โดนสักเท่าไหร่ แต่คำว่า "วิธีเล่าเรื่อง" ก็น่าจะสนอง need ได้ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

พลิกไปดูปกหลัง
มีการเน้นคำว่า "เรื่องราว" ตัวใหญ่เด่น ก็ตรงกับ need พอดี ซึ่งถ้าใครอยากหาเรื่องแบบนี้ ก็น่าจะมีน้ำหนักให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีก

ช่วงล่าง มีการระบุ "...พื้นฐานของการเล่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณสั่นสะเทือนหัวใจของทุกคน..." ทำให้ว่าที่ลูกค้าสร้างจินตนาการปะติดปะต่อเองไปว่า อย่างน้อยเราน่าจะได้พื้นฐานของการเล่าเรื่องได้ดีขึ้น

ราคา 150 บาท หนังสือมีการซีลพลาสติก จึงไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรอยู่กันแน่

เมื่อเทียบกับความกลางๆ ของการนำเสนอ ก็ถือว่าไม่แพงมาก พอเสี่ยงไหว
ที่บอกว่าเสี่ยง เพราะเราไม่รู้เนื้อในเลย ว่าเราจะได้อะไรบ้างจากเล่มนี้เลย

พอได้เป็นเจ้าของ
พลิกอ่าน
บอกตรงๆว่า เนื้อหาเบาบางไปนิด
แต่ก็ตรงปกนะ บางเท่าปกเลย
มีไม่กี่เรื่องที่เป็นชิ้นเป็นอัน

ประเด็นที่จับต้องได้
อย่างน้อย เขาก็บอก กฎ ๑๐ ข้อของการเล่าเรื่อง
แต่เอาเท่าที่เข้าใจ น่าจะมีแค่ ๖ ข้อ
๑) เล่าให้เหมือนพูดให้เพื่อนฟัง
๒) อธิบายฉาก สถานที่ เวลา ฯลฯ ให้เขาเห็นภาพ
๓) เปรียบเทียบ ความตรงข้าม
๔) นำเสนอความเปราะบาง สิ่งที่คุณสงสัย, สับสน, โกรธ, เศร้า, ความรู้ใหม่, ความเข้าใจผิด/เพิ่ม, เบิกบานใจ, ยินดี, ฯลฯ
๕) ปล่อยออกมาทั้งประสาทสัมผัสทั้งห้า
๖) เล่าเรื่องตัวเอง

ความเปราะบาง คือสิ่งที่เขาเน้นมาก
เพราะมันคือของดี ช่วยให้ผู้ฟังเข้าถึง และอินกับตัวคุณ(ผู้พูด) มากขึ้น
อย่าอายที่จะพูดเรื่องตัวเอง เรื่องความประทับใจ ความกลัว ฯลฯ

มีประโยชน์ กับใคร?
คนที่ต้องการเป็นนักพูดระดมทุน
นักปลุกเร้า ต้องการให้ผู้ฟังทำอะไรสักอย่าง
แต่อย่าคาดหวังเยอะ
เพราะหลังจากอ่านจบ คุณจะไปเว็บamazon, se-ed เพื่อหาหนังสือที่มีเนื้อหาเหมือนกัน
เพื่อเรียนรู้ให้มากขึ้น จะได้กลับมาอ่านนี้แล้วได้ของเพิ่มขึ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน