3 จังหวะสำคัญที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้ ก่อนกดซื้อหุ้น

Image
  หนังสือแนะนำ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" มีขายที่ https://www.facebook.com/zyobooks หลายคนเริ่มต้นเทรดด้วยความ “อยากเข้าเร็ว” แต่กลับ “ออกไว” เพราะใจไม่แข็งพอ บางคนซื้อแบบเดาสุ่ม บางคนดูกราฟแต่ไม่เข้าใจจุดเข้าออกจริง ๆ วันนี้ขอแชร์ให้ฟังว่า นักเทรดสาย “สวิงเทรด” เขามองจุดซื้อขายยังไง... ✅ 1. ซื้อเมื่อเกิด Breakout เมื่อราคาวิ่งทะลุแนวต้าน พร้อมปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น ถือเป็นสัญญาณบอกว่า “แรงซื้อกำลังมา” แต่ต้องแน่ใจว่ามันไม่ใช่ "หลอก breakout" (false breakout) ด้วยนะ ✅ 2. ซื้อเมื่อเปิด Gap ขาขึ้น หากวันใหม่ราคาเปิดกระโดดเหนือกรอบเดิม และมีปริมาณมาก นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “รายใหญ่เริ่มเก็บของ” นักเทรดสายไหวพริบจะไม่มองข้าม gap เลย ✅ 3. ซื้อเมื่อย่อตัวพักฐาน หุ้นที่ขึ้นมาแรง มักต้องพักบ้าง ถ้าราคาย่อลงอย่างสงบ (ไม่รุนแรง) และยังอยู่เหนือเส้นแนวรับหรือ EMA นี่คือจังหวะที่นักเทรดใจเย็นรอซื้อมากที่สุด ใครที่อยากฝึกมองจังหวะให้เฉียบคมขึ้น ลองฝึกดูจากกราฟย้อนหลัง  หรือศึกษาจากประสบการณ์เทรดของคนที่เคย “พลาด” และ “พลิกเกม” ได้แล้ว หนังสือแนะนำ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" มีขาย...

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผลการเทรดดีขึ้น คือเทรดให้เหมือนทำธุรกิจ


จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมมีผลประกอบการทางการเทรดดีขึ้น ไม่ใช่ความรู้ทางเทคนิคอลเพียงอย่างเดียว มันยังมี mindset อีกอย่างที่ผมจงใจใส่ไว้ในหนังสือ บทที่ 11 Stop loss ครับ

ต้องออกตัวก่อนเลยว่าตอนนี้พอร์ตหุ้นโดยรวมของผมยังอยู่ในภาวะขาดทุนอยู่เพราะ เงินต้น หายไปจากการขาดทุนหุ้นมากกว่า 50% ครับ โดย 4 ปี ก่อนหน้านี้ ผมประสบกับการขาดทุนมาโดยตลอด
กระทั่งปีที่แล้วนี่เองที่ผลสรุปยอดทั้งปีของผม กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 ปี ผมสามารถกู้ความเสียหายของพอร์ตกบับมาได้แล้วร่วมๆ 30%

โดยส่วนหนึ่งก็ต้องยกผลประโยชน์ให้กับหนังสือเล่มนี้ที่มันเป็นเหมือนบันทึกสรุปแนวทางการเทรดที่ใช่สำหรับตัวเอง รวมถึงวิธีคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเทรดด้วย ซึ่งผมจงใจใส่มันไว้ในบทที่ว่านี้
มันเป็นคำคม ประโยคสั้นๆของเทรดเดอร์ หลายท่าน อาทิ

มาร์ตี้ ชวาทซ์ บอกว่า "แนวทางพลิกพอร์ตจากการเป็นเทรดเดอร์ที่ขาดทุน พอร์ตไม่โต จวนเจียนจะหมดตัว ไปเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ คือเปลี่ยนทัศนคติ จากที่เคย #ปรารถนาอยากเป็นผู้ชนะ เปลี่ยนมาเป็น #ปรารถนาที่จะเป็นฝ่ายถูก แทน" สองคำนี้ คนส่วนใหญ่ถ้าอ่านเผินๆ คงไม่ได้ใจความอะไร แต่สำหรับผมแล้ว มันโดนมากไป ครับ เพราะอะไร?

สาเหตุที่ผม ไม่กล้า stop loss หรือ cut loss หุ้นที่ขาดทุน ออกไปเสียที ปล่อยให้ความเสียหายลูกลามใหญ่โต ซ้ำร้ายยังหน้ามึน ซื้อถัวเฉลี่ยขาลงกับหุ้นตัวนั้นอีก แสดงว่าผม มีความปรารถนาที่จะเป็นฝ่ายถูก ตลาดผิด การไม่เชื่อการตัดสินของตลาด ผลก็คือยิ่งนานไปผมยิ่งขาดทุนมากขึ้น จนทนไม่ไหว ขายขาดทุนในตอนที่ราคาลงหนักมาก ในที่สุด แทนที่จะเสียเงินน้อยๆ กลายเป็นเสียยากไปซะนี่

ในทางกลับกัน ถ้าหากผม ปรารถนาที่จะเป็นผู้ชนะ ในเกม ซึ่งเป้าหมายก็คือ #เป็นคนรวยจากการเล่นหุ้น สิ่งที่ต้องทำคือ ให้ผลประกอบการเป็นบวก เทรดให้ได้กำไรมากกว่าขาดทุน ให้กำไรทบต้น จนเติบโตไปเรื่อยๆ นี่คือหัวใจและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการเป็นเทรดเดอร์ คำว่าเทรดเดอร์ คือ "นักซื้อมาขายไป" เราต้องการกำไรเพื่อความอยู่รอด ซึ่งวิธีการง่ายๆคือ เทรดให้ได้มากกว่าเสียแล้วทบต้นกำไรเท่านั้น ไม่มีหนทางอื่นที่สะดวกกว่านี้อีกแล้ว

ซึ่งหากเราต้องการจะอยู่รอด ก็ต้อง คิดให้มันเป็นเหมือนการทำธุรกิจ ให้ได้เท่านั้น

เสี่ยยักษ์ ท่านกล่าวไว้ว่า "ถ้าคุณคิดผิด(คือซื้อหุ้นแล้วขาดทุน)แล้วไม่กล้า cut loss แสดงว่าคุณไม่ใช่มืออาชีพ แต่ถ้ามานั่งเล่นหุ้นเป็นอาชีพ แสดงว่าวิธีคิดผิดแล้ว"

ผมจึงได้คิดว่า ผมจะไม่ยอมให้ผลประกอบการโดยสรุปของตัวเองต้อวขาดทุนอีก ซึ่งวิธีการง่ายๆก็คือ ตัดขาดทุนให้ไว




สนใจ เข้าไปซื้อได้ตามลิ้งค์นี้ครับ bit.ly/zyoebook3

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?