แนะนำฟรีอีบุ๊ก "สโตอิกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลับ"

Image
  (อ่านฟรี) e-book : สโตอิกสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย https://mebmarket.com/?action=book_details&book_id=327348 สโตอิกช่วยนักศึกษาได้อย่างไรบ้าง สโตอิกเป็นปรัชญาที่ช่วยให้เรารับมือกับความกดดัน ความเครียด และการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องเจออยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การสอบ หรือการปรับตัวกับชีวิตในมหาวิทยาลัย ผมอยากอธิบายว่าทำไมสโตอิกถึงเป็นแนวคิดที่สามารถช่วยคุณได้ครับ หลักสำคัญของสโตอิกคือ การแยกแยะสิ่งที่เราควบคุมได้กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้  การฝึกให้เข้าใจเรื่องนี้จะช่วยลดความเครียดได้มาก ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณกังวลเกี่ยวกับการสอบ สิ่งที่คุณควบคุมได้คือการเตรียมตัวให้ดี อ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียน แต่ผลการสอบหรือความคิดเห็นของอาจารย์ เป็นสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ การโฟกัสเฉพาะสิ่งที่คุณทำได้จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเครียดกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุมครับ นอกจากนี้ สโตอิกยังสอนเรื่อง การควบคุมอารมณ์  และ การมองโลกอย่างเป็นกลาง  ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อคุณเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น หากคุณเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ผลสอบไม่เป็นไปตา

สรุปหนังสือ รวยหุ้นด้วยเลข 3 (หุ้นพลิกฟื้น) (How to Find Turnaround Stocks)


แนวการเล่นหุ้นพลิกฟื้น ด้วยการดู 3 ส่วนหลักๆ คือ
1. มี Story การทำกำไรในอนาคตที่น่าสนใจ
2. มีราคาไม่แพง โดยดูจาก PBV และ PE
3. มีพื้นฐานดี
ทั้สามส่วนนี้จะต้องสมดุลกัน คือครบทุกหัวข้อ ในการวิเคราะห์หุ้น โดยการมองอนาคตว่าจะดีกว่าเดิม

ผมขอเรียบเรียงวิธีการตามความสะดวกในการหาข้อมูลออนไลน์นะ
๑) เริ่มต้นหาหุ้นราคาถูกก่อน
แบบไหนถึงเรียกว่าถูก?

ให้ดู PBV ต้องต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม หากอยู่ประมาณ 1 หรือต่ำกว่า 1 ได้ยิ่งดี ถือว่าราคาถูกมาก
หุ้นพลิกฟื้น เป็นช่วงของการเริ่มชีวิตใหม่ จากการขาดทุนสะสมเป็นเวลานาน กิจการถือว่าอยู่ในอาการเจ็บหนัก PE จึงไม่สามารถเมามาคำนวนได้ เราจึงใช้มูลค่าทางบัญชีมาเป็นตัวกำหนดราคาหุ้นที่เหมาะสม

(วิธีการหาหุ้นที่ PBV แบบง่ายๆ ก็ไปที่เว็บ siamchart ไปคลิกที่แถบ P/BV ระบบก็จะเรียงให้จากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก ตามที่เราต้องการ)

๒) จากนั้นเป็นการเช็คพื้นฐาน
เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัทเหล่านั้นทำอะไร
ให้ไปที่เว็บ www.set.or.th/set/factsheet ใส่ชื่อย่อหุ้นลงไปก็จะเห็นรายละเอียดโดยย่อของบริษัทที่เราสนใจ ว่ามันทำกิจการอะไรบ้าง

แล้วกิจการแบบไหนน่าสนใจล่ะ?
อยากให้เน้นธุรกิจที่คุณเข้าใจมันดีก่อน ถ้าคลุกคลีกับมันได้ ยิ่งดี เพราะคุณจะมีความมั่นใจและเห็นแนวโน้มมันดี เรียกว่าอยู่ในความจริง ไม่มโน

ผมเห็นคนที่ซื้อหุ้นเหล็กทั้งที่ไม่รู้ว่ามันมีแนวโน้มเป็นยังไง จะฟื้นได้เมื่อไหร่ อะไรเป็นจุดเปลี่ยน บริษัทจะกำไรยังไง คิดว่าราคาน่าจะต่ำสุดแล้ว ก็เข้าไปซื้อ ที่ไหนได้ ราคายังถูกได้อีก สุดท้ายติดดอยสูงลิ่ว
ดังนั้น ถ้ารู้ไม่จริง อย่าเล่นเลยดีกว่า เพราะหุ้นวัฎจักรเวลามันลง มันลงเอาตาย จนคุณเข็ดขยาด จนถึงกับออกจากตลาดได้เลย

ในหนังสือเขาบอกให้ดูกิจการใหม่ที่จะไปทำเป็นแบบผูกขาด เช่นโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล หรือกิจการที่จะเป็นเทรนด์ในอนาคต ที่เรียกว่า Mega trend เช่น เกี่ยวกับออนไลน์ สุขภาพยารักษาโรค ผู้สูงอายุ สังคมเมือง mega project ค้าปลีก เกี่ยวข้องกับรากหญ้า การให้บริการ ความงาม ฯลฯ
ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกตัวจะประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่ว่าคุณไกล้ชิดติดตามกิจการต่อเนื่องและลึกซึ้งแค่ไหน ถ้าประเมินมูลค่าหุ้นได้ มองอนาคตออก และมีประสบการณ์ มันจะช่วยคุณให้ลดความผิดพลาดได้เยอะ

๓) ดูสตอรี่
Story ที่น่าสนใจเป็นยังไง?
ต้องมีโครงการขยายการลงทุนอยู่ในมือ  มีโครงการต่อเนื่องอีกหลายโครงการในอนาคต ควรเป็นธุรกิจที่ลงทุนครั้งเดียวแล้วสามารถนอนกินต่อเนื่องไปได้หลายๆปี ผู้บริหารออกข่าวว่าจะมีกำไรเพิ่มในอนาคต ถ้าเขามาออก oppday ด้วยจะยิ่งดีใหญ่ เพราะเราจะได้เห็นโหงวเฮ้ง วิธีการสื่อสารของผู้บริหาร ว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน

ความน่าเชื่อถือของผู้บริหาร คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการก้าวหน้าของกิจการ ทุกวันเราจะเห็นข่าวของบริษัทในตลาดหุ้นออกแทบทุกชั่วโมง การกรองข่าวที่มีศักยภาพจึงจำเป็นมาก


ตัวอย่างสตอรี่น่าสนใจ ที่จะมาผลักดันราคาหุ้นให้วิ่งขึ้นสูงในอนาคต
- มีกำไรจากกิจการอืนที่ร่วมลงทุนไว้ในอนาคตอันไกล้ (๖ เดือน - ๑ ปี)
- มีกำไรเติบโตในอนาคตอย่างเห็นได้ชัดจากการผลิตที่มากขึ้น
- ปรับปรุงการบริหารภายในเพื่อจ่ายปันผลได้ในอนาคตเมื่อกิจการมีกำไร เช่นนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสม ลดทุนล้างขาดทุนสะสม
- ราคาถูก เช่น PE ต่ากว่า ๑๐ เท่า และในอนาคตจะมีกำไรจากกิจการอย่างมาก เช่นมากกว่าปีที่ผ่านมา และต่อเนื่อง หรืออาจจะมี PE สูงๆเนื่องจากกิจการขาดทุน แต่จะฟื้นตัวเร็วๆนี้
- ปรับปรุงการบริหารายในให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขยายการลงทุนกับกิจการใหม่
- ในอนาคตอันไกล้จะมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น
- มีปัจจัยภายนอกสนับสนุน เช่นราคาโภคภัณฑ์จะมีราคาสูงขึ้นอย่างมากจากความต้องการที่มากขึ้น
- เกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่จำเป็นต้องใช้สินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นน้ำท่วม ไฟไหม้โรงงานคู่แข่ง ฯลฯ
- รับงานเพิ่มขึ้นจากจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น ทำให้ยอดขายโตขึ้นแบบก้าวกระโดด

จุดเข้าซื้อที่ถูกต้อง
สำคัญมาก เพราะคนส่วนใหญ่ชอบซื้อตั้งแต่ได้หุ้นเลย เรียกว่ามั่นใจมากมีเท่าไรไล่ซื้อไม่อั้น ต่อมาราคาดันลงต่อ  แทนที่จะได้หุ้นวิ่งทำกำไรให้ทันทีกลับต้องนั่งรอให้มันกลับตัว เสียอารมณ์แทนที่จะได้ของถูกกว่าเดิมกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นการที่เรามีความรู้ทางเทคนิคอลจะช่วยเราได้เยอะ

ผมแนะนำให้รอให้ปราฟเกิดgolden cross ก่อนค่อยเข้าก็ได้ คือซื้อแพงไปหน่อยแต่มันไปต่อกำไรทันที ดีกว่าเสียสุขภาพจิต ที่ว่าแบบนี้เพราะผมมองว่า ราคาหุ้นคือความเห็น มันจะขึ้นก็ต่อเมื่อตลาดมีมุมมองบวกต่อหุ้นตัวนั้น ซึ่งก็คือการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น จากประสบการณ์พบว่าถ้าหุ้นมันเป็นขาขึ้นแล้ว แม้ตลาดจะร่วงหนักแค่ไหนราคาก็ยังมีแนวโน้มวิ่งต่อ ยิ่งอนาคตจะมีกำไรแน่ๆ รายใหญ่มองบวก มันต้อวิ่ง





7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo