อีกแนวทางหา Relative Strength

Image
Alternate to Relative Strength Analysis — ฉบับแปลและเล่าเรื่องเข้าใจง่ายสำหรับนักเทรด แปลจาก  https://x.com/TannersTrades/status/1989117914021253218 เวลาที่กลุ่มหุ้นเติบโตหรือหุ้นธีมที่ผมเทรดอยู่เริ่มย่อตัว ผมมักถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วกลับมาโฟกัสกับการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เพื่อมองหาว่ากระแสโมเมนตัมรอบถัดไปอาจเกิดขึ้นตรงไหน ในช่วงที่ตลาดยังไม่นิ่งและทุกอย่างดูคลุมเครือ แนวทางนี้ประกอบด้วยตัวชี้วัด 3 ส่วนสำคัญ: 1. ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด (YTD Return to Highs) 2. เปอร์เซ็นต์การปรับตัวลงจากจุดสูงสุด (% Off Highs) 3. คะแนน Risk Adjusted Leadership Performance Heuristic หรือ RALPH เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมได้จัดทำภาพประกอบแสดงขั้นตอนทั้งหมดของการวิเคราะห์นี้ --- 1) เริ่มจากการดู % ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุด ข้อมูลชุดแรกช่วยให้เห็นว่าแต่ละตัวทำผลงานได้ดีแค่ไหนในช่วงปีที่ผ่านมา 2) จากนั้นดู % การย่อตัวจากจุดสูงสุด ทันทีที่ดูข้อมูลนี้ เราจะเห็น “การจัดลำดับใหม่” ของหุ้นแต่ละตัว ผมมักมองหาหุ้นที่ วิ่งแรงมาก แต่ย่อตัวกลับมาเพียงเล็กน้อย — หุ้นแบบนี้สะท้อนความแข็งแกร่งที่...

เล่นหุ้นเจ๊ง ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นโง่

เล่นหุ้นเจ๊ง

มีประเด็นหนึ่งที่ผมอยากเขียนมาก คือ "เล่นหุ้นเจ๊ง ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นโง่"
เพราะอยากให้กำลังใจท่านที่เล่นหุ้นขาดทุนหนักๆ ว่ามันไม่ใช่วันสิ้นโลก ที่ต้องตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไปฆ่าตัวตาย เพื่อหนีหนี้ เพราะท่านกำลังทำบาปหนักขั้นสุด เนื่องจากท่านผลักภาระไปให้คนรอบข้าง ซึ่งมักจะเป็นคนที่เขารักท่านมากที่สุด ถ้าหากท่านยังอยู่ต่อก็น่าจะช่วยให้เขาใช้ชีวิตได้ดีขึ้น สะดวกสบายขึ้นบ้างแท้ๆ แต่เมื่อท่านจากไป ท่านไม่คิดเลยเหรอว่าพวกเขาเหล่านั้นจะอยู่ยังไง
น่าคิดต่อ ให้ดีๆนะครับ

เล่นหุ้นเจ๊ง ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นโง่
นี่คือสิ่งที่มอยากบอก
เพราะผมเองก็ "โคตรโง่" ขาดทุนหุ้นเป็นล้าน
ท่านไปอ่านหนังสือผมได้เลยว่า ทำอีท่าไหน
ชื่อ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท"

แม้ผมจะขาดทุนเป็นล้าน แต่ก็ไม่ได้คิดตัดช่องน้อยแต่พอตัว
ทำไมผมไม่คิดสั้น?
ก็เพราะว่าผมไปอ่านประวัติของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จหลายคน
ต่างเจ๊งหมดตัวไปอย่างน้อย ๒ ครั้ง!!
แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาสู้และร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีหุ้นได้ในที่สุด

นี่แหละครับที่เชื่อว่า "เล่นหุ้นเจ๊ง ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นโง่"
เพราะถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง เซียนหุ้นเหล่านั้นคงไม่มีทางมีชื่อเสียงโด่งดังแน่นอน

ไม่เชื่อท่านอ่านประวัติของพวกเขาตามลิ้งค์นี้ได้
- มาร์ค มิเนอร์วินี
- แดน แซงเจอร์
- นิโคลาส ดาร์วาส
- เจสซี ลิเวอร์มอร์

ถ้าการเจ๊งหุ้น หมายความว่าคนนั้นโง่
เซียนหุ้นเงินล้านเหล่านี้ก็ต้อง "โคตรโง่" เลย เพราะหมดตัวไปหลายครั้ง
ซึ่งมันไม่จริงเลย เล่นหุ้นเจ๊ง ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นโง่
เพราะว่า "พวกเขาแค่หลงทางเท่านั้นเอง"
"การหลงทางก็คือกระบวนการหาทางออก"
ตามผิดพลาดมันทำให้เรารู้ว่า "สิ่งไหนไม่ควรทำมันอีกเลย"

ประเด็นที่สำคัญกว่าการล้ม ก็คือ "การลุกขึ้น"
ใครก็ตามที่ล้ม แล้วพยายามลุกขึ้นยืนเดินต่อได้ คนนั้นจะแกร่งกว่าทั่วไปเท่าตัว

พี่มาร์ค พี่แดน ทวดดาร์วาส ทวดลิเวอร์มอร์ ต่างเคยล้มคว่ำ ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ
แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขานอนแช่อับอาย
แต่พวกเขาเลือกที่จะลุกขึ้น เดินต่อ สายตาจับไปที่เป้าหมาย
และในใจบอกตัวเองว่า "กรูต้องไม่พลาดเรื่องเดิมให้คนหัวเราะอีก"
นี่แหละครับคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือ "การเรียนรู้จากคามผิดพลาด"

เมื่อขาดทุนหุ้น จงอย่าอายที่จะเรียนรู้จากการขาดทุนนั้น
และอย่าทำพลาดอีก
ท่านทำแค่นี้ แค่นี้เอง พลาดแล้วพลาดไป ครั้งใหม่อย่าให้พลาดแบบเดิมอีก

"คุณจะไม่มีทางเดินถึงเส้นชัยเลย ถ้ายังมัวแต่ทะเลาะกับหมาเห่าข้างทาง"
เสียงหมาเห่าก็เหมือนกับความผิดพลาด ความน่าอายนั่นแหละครับ
ซึ่งมันไม่เคยทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
ตระหนักรู้ว่ามันมีอยู่ แต่อย่าสนใจ
ก้าวไปข้างหน้าอย่าหยุดยั้ง อย่าได้พลังพลาดเรื่องเดิมๆ
ทำได้แค่นี้ รับรองว่าท่านมีโอกาสไปไกลกว่าคนอื่น

เพราะท่านรู้แล้วว่า "สิ่งที่ไม่ควรทำ คืออะไร" แล้วไง
ต่อไปก็แค่ ทำในสิ่งที่ใช่ และทำให้สำเร็จเท่านั้นครับ
สู้ๆครับ ขอเป็นกำลังใจให้ จากคนหัวอกเดียวกัน



ปล. ถ้าอยากรู้ว่าในตลาดหุ้นมีเรื่องใดบ้างที่ควรเลี่ยง อ่านเล่มนี้ครับ


((โฆษณา))

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ทำไม จิตวิทยานักเทรด ถึงโคตรจะสำคัญ