เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?

Image
เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?  Dr. Van K. Tharp พูดเสมอว่า “นักเทรดไม่เทรดตามที่ตลาดเป็นหรอก  แต่พวกเขาเทรดตามความเชื่อของพวกเขา”   เรื่องนี้ผมเห็นด้วยอย่างสมบูรณ์   ความเชื่อของผมมีดังนี้:  1) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลไกการซื้อ/ขายที่สมเหตุสมผลและช่วยให้เขาลงมือตามสัญญาณได้ทันที   2) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีแนวทางที่สมเหตุสมผลในการกำหนด Position Size ของเขาอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยลดความน่าจะเป็นที่จะถูกทำลาย   3) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ช่วยลด Drawdown ของ Equity Curve เพื่อทำให้เขาเครียดน้อยลง   4) ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเสมอ มันจะขึ้น, ลง, และไซด์เวย์ 5) การลอกกลยุทธ์คนอื่นมาใช้ทั้งดุ้น มักจะไม่เวิร์ค  การสร้างกลยุทธ์หรือพัฒนากลยุทธ์ที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณคือแนวทางที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า 6) ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในการเทรด   7) ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ - Tom Basso จากหนังสือ The All-Weather Trader

วิธีใช้ประโยชน์จากบทวิเคราะห์ - เคสกลุ่มยานยนต์ (AUTO)

เห็นโพสต์วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยานยนต์ของ Phillip Capital แล้วคิดว่าน่าสนใจเอามาเขียนบทความต่อยอด
รายละเอียดเขาว่ามาแบบนี้ครับ

ใจความคือ รายได้ของอุตสาหกรรมนี้กระเตื้องขึ้น มีการเติบโต
โดยให้ราคาพื้นฐานหุ้นในอุตสาหกรรมที่มี 3 ตัว ดังนี้
AH ซื้อ ราคาเหมาะสม 37.75
SAT ซื้อ ราคาเหมาะสม 27.75
STANLY ซื้อ ราคาเหมาะสม 311.00
สรุปคือซื้อทั้งสามตัวเลย แต่ถ้าให้เลือกตัวที่ชอบ เขาเลือก SAT

นี่เป็นข้อมูลที่สำนักอีไฟแนนซ์ทำไว้
บ้านเราส่งออกสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์มูลค่ามากที่สุด
คือปริมาณอาจจะไม่มากสุด แต่ราคาขายได้สูงที่สุด


ผมถามคุณว่า ถ้าเห็นข้อมูลจาก 2 รูปนี้ คุณจะซื้อทันทีเลยมั้ย?
มือใหม่ มือสั่น หน้าแดง ใจเต้นระรัว อยากซื้อใจจะขาด รอตลาดเปิด

แต่ผมบอกไว้เลยว่า ถ้าคิดแบบ 1+1 = 2 นะ ท่านมีโอกาสขาดทุนหนัก
เพราะมันเป็นวิธีคิดที่ง่ายเกินไป
คนที่เชื่อแบบนี้ง่ายๆ มักตกเป็นเหยื่อเสมอ

ผมเคยเป็นแบบนี้แหละ
พอเห็นใครทำข้อมูลเอามาเชื่อมโยงกันน่าเชื่อถือ
คลิกขวาซื้อทันที ไม่ดูอะไรต่อ
ผลก็คือ ขาดทุนเละเทะอย่างที่บอก
ในหนังสือ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท"


ดังนั้น แนะนำเลยว่าแค่เห็นการเชื่อมโยงแบบนี้ก็อย่าเพิ่งเชื่อ
อย่าคิดขายบ้านขายรถมาซื้อนะครับ
คนคิดแบบนี้เจ๊งหุ้นหมดตัวมานับไม่ถ้วนแล้ว
เพราะราคาเหมาะสมไม่ใช่สัญญาณซื้อ 
แม้โบรกเกอร์จะบอกให้ Buy ก็ตาม
ราคาจากโบรกเกอร์ไม่แม่นอะไรทั้งสิ้น 
พวกเขาแค่หาเรื่องให้คุณซื้อๆขายๆ
เพราะเขาได้กำไรจากการซื้อขายของคุณไง ค่าคอมมิชชั่นน่ะ

เพราะถ้ามันแม่นจริงนะ
นักเล่นหุ้นในตลาดคงไม่มีใครขาดทุนเกลื่อนแบบนี้หรอก

เขาไม่ได้การันตีว่าราคาต้องวิ่งขึ้นไปถึงราคาเหมาะสมหรอก
เขาแค่ให้ข้อมูลเราเฉยๆ
ดังนั้นเราต้องมองมันว่าเป็นแค่ข้อมูลเช่นกัน

อะไรที่คนทั้งตลาดรู้กันหมด ย่อมไม่มีความหมาย
นักวิเคราะห์เป็นแค่ลูกจ้าง เขาแค่จินตนาการไปเองเรื่อยเปื่อย
หยิบข้อมูลมาเขียนให้ได้ทุกวัน เพื่อให้ได้งาน

เราต้องมองราคาเหมาะสม และการแนะนำให้ซื้อ
เป็นแค่ข้อมูลดิบเท่านั้น
แล้วจากนั้นให้เอาไปเข้ากระบวนการอีกขั้น
เพื่อหาเบาะแสที่สำคัญที่สุด

จำไว้นะครับ
โบรกเกอร์แค่ให้ราคาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง
ซึ่งมันจะไม่มีค่าอะไร ถ้ารายใหญ่เค้าไม่เอาด้วย
เจ้ามือหรือรายใหญ่จะทำให้ราคานั้นเป็นจริง

ดังนั้นคนที่จะทำให้ราคาวิ่ง คือ "เจ้ามือ"
โดยท่านสามารถหาร่องรอยของเจ้ามือจากกราฟได้ครับ


เอาข้อมูลมาดูกราฟประกอบ
ขั้นต่อไปคือ ให้ดูต่อไปว่า กราฟมันไปกับราคาหรือเปล่า
ถ้าสอดคล้องกัน คือราคาวิ่งขึ้น ค่อยน่าเชื่อถือ
แล้วจึงหาจังหวะเข้าที่ท่านถนัด

เรามาดูกราฟประกอบ

AH แม้ว่าจะวิ่งอยู่ในโซนก้น แต่ก็แสดงออกว่ามีการเคลื่อนไหวขึ้นไปแล้วครับ
ตัวนี้มีการยืนยันขาขึ้น หนึ่งขยักเรียบร้อยแล้ว
ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่าทรง SET จะเป็นยังไงเท่านั้นแหละ
เพราะดูทรง AH ดีดตาม SET เลยครับ แทบจะก็อปปี้ทรงของดัชนีเป็นเงาเลยทีเดียว
ถ้าเปรียบเป็นรถ ก็เข้าเกียร์สองแล้วครับ อาจจะอืดหน่อย เครื่องยังไม่ร้อน
หรือเร่งไม่ขึ้นเลย ดับกลางทางก็เป็นได้

นี่ครับกราฟ SET

เห็นด้วยมั้ยว่า AH ทรงเดียวกันเลย
ดังนั้น ตัวนี้เป็นตัวตาม SET ครับ จึงต้องระวังให้ดี



SAT แข็งแกร่งกว่าใครเพื่อนเลยครับ
แข็งกว่า SET อีกแน่ะ แบบนี้น่าสนใจ
ซึ่งตอนนี้มันก็พักตัวอยู่ด้วย
สามารถไปต่อเป็น bullish flag ได้เลย (อย่าเชื่อผมมากนะ นี่เป็นการเดาล้วนๆ)
เปรียบเสมือนรถติดไฟแดงอยู่ครับ รอแค่ตัวเลขเปลี่ยนไปเป็นเขียวเท่านั้น

หรือบางทีมันก็แค่ดีดขึ้นมาแล้วอั้นที่ 18 บาทแค่นั้นก็ได้นะ
เพราะซึมไม่สนตลาดเลย ตลาดบวกมันเฉย แบบนี้ก็คิดได้เช่นกัน
ดังนั้น อย่าผลีผลาม วางแผนดักเอาไว้ให้ดี
จะซื้อตรงไหน เพราะอะไร
จะหนีตรงไหน เพราะอะไร
ตอบตัวเองให้ได้หมดก่อนซื้อ



ส่วน STANLY ยังจมอยู่ในกองตมครับ
แบบนี้อย่าเพิ่งไปสน (จากมุมมองของนักเก็งกำไร สายโมเมนตัมนะครับ)
เพราะราคายังไม่แสดงออกเลยว่า อยากวิ่ง
เหมือนรถที่จอดทิ้งไว้ คนขับไม่รู้หายไปไหน


ราคาเหมาะสม การแนะนำซื้อ เป็นแค่ข้อมูลดิบ
สำหรับไอเดียการซื้อหุ้นด้วยการดูบทวิเคราะห์ราคาเหมาะสมนั้น
ผมไม่อยากให้ท่านเชื่อราคาเหมาะสมแม้แต่นิดเดียวเลยครับ
ให้มันมันเป็นเหมือนตัวเลขลอยๆ ที่เกิดจากการคำนวน ยกเมฆ
เพราะนักวิเคราะห์ไม่ได้เป็นเจ้ามือ เป็นแค่ลูกจ้างเท่านั้น
บางคนก็เอาราคาสูงสุดที่เคยวิ่งไปได้นั่นแหละเป็นราคาเป้าหมายแบบดื้อๆ

แนะให้ดูเป็นข้อมูลชนิดนึงเท่านั้น
เอาไปประกอบกราฟ และสไตล์ของท่าน
ถ้ามันมีน้ำหนักพอที่จะดึงดูดให้ตลาดเล่นราคาวิ่งขึ้น ค่อยตามครับ


กำไรแล้วอย่าลืมขายล็อกกำไร
และที่สำคัญ อยากเน้นนักหนาคือ
"อย่าไปเชื่อและปักใจราคาเหมาะสมมาก ว่าต้องถึงเท่านั้นจึงค่อยขาย"
ถ้าคิดแบบนี้นะ ท่านมีโอกาสไม่ได้ขายสูงมาก เพราะราคามักจะไปไม่ถึงหรอก

พอราคาไปไม่ถึงก็ขอรอดู เผื่อเด้ง แต่มันเสือกกลับตัวแรง ลงมาอยู่ที่เดิม
ท่านก็โกรธแค้นนักวิเคราะห์ ไปโพสต์ด่าเสียเป็นวรรคเป็นเวร

แหม...ก็ตอนราคาวิ่งขึ้นมีกำไร ทำไมมรึงไม่ขาย?
ไม่ได้ว่าใครทั้งนั้นนะ ด่าตัวเองล้วนๆ


ขอจบด้วยโฆษณางานเขียน
งานใหม่ล่าสุด คือ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท" ครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ศาสตร์และศิลปะของการปั้นพอร์ต ให้เติบโตสม่ำเสมอ Art & Science of Trading