หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit

Image
สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven) วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน --- วินัยและระบบอัตโนมัติ การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น ขาย ⅓ ที่ 2R ขายอีก ⅓ ที่ 5R วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว --- หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes) ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA) สรุป: ใช้ระบบขายบ...

3 ทักษะ การเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ ที่มือใหม่ต้องพัฒนา

มีจำหน่ายที่แอพ Meb : https://t.co/6hfYXffLeK

การเทรดที่มีกำไร (Profitable trading) สำหรับมือใหม่ 

สามารถสรุปได้เป็น 3 ข้อหลักที่เป็นรากฐานสำคัญ ได้แก่:

1. การเทรดด้วยกลยุทธ์ที่มี "ความได้เปรียบ" (Trading a strategy that has an edge)

   กลยุทธ์ที่มี "ความได้เปรียบ" หมายถึงการมีระบบการเทรดที่มีโอกาสสำเร็จสูงกว่าความเสี่ยงที่รับได้ในระยะยาว ไม่ใช่แค่พึ่งโชคในการเทรดแต่ละครั้ง กลยุทธ์ที่ดีจะมาพร้อมการวิเคราะห์ตลาดอย่างเป็นระบบ เช่น การใช้ข้อมูลทางสถิติ การวิเคราะห์กราฟราคา การติดตามปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมี "ข้อได้เปรียบ" ในการตัดสินใจที่จะทำให้ผลลัพธ์เป็นบวกในระยะยาว

   ตัวอย่าง: หากคุณมีระบบที่ทำให้คุณชนะ 6 ใน 10 ครั้ง โดยแต่ละครั้งที่ชนะจะได้กำไรสูงกว่าการขาดทุน การเทรดด้วยกลยุทธ์นี้จะมี "ความได้เปรียบ" หรือ "edge" เพราะถึงแม้คุณจะขาดทุนบ้าง แต่กำไรที่ได้มักจะชดเชยและทำให้โดยรวมคุณมีกำไร


2. การจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม (Proper risk management)

   การจัดการความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญของการเทรด เพราะไม่มีใครสามารถชนะได้ทุกครั้ง สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้ความเสี่ยงในแต่ละครั้งถูกควบคุมไม่ให้ทำให้คุณล้มละลายหรือลดทุนมากเกินไป คุณควรกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ก่อนการเทรดทุกครั้ง เช่น การตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดขาดทุน หรือตั้งขนาดของการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง

ตัวอย่าง: หากคุณลงทุนในแต่ละการเทรดแค่ 1-2% ของพอร์ตโดยรวม แม้ว่าคุณจะแพ้หลายครั้งติดต่อกัน แต่ก็ยังคงมีเงินเหลือให้คุณพอที่จะเทรดต่อไปและมีโอกาสกลับมาชนะได้


3. วินัยในการปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 (The discipline to follow #1 and #2)

   วินัยเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำตามกลยุทธ์และการจัดการความเสี่ยงได้อย่างสม่ำเสมอ การมีแผนการที่ดีเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะอารมณ์สามารถมีผลต่อการตัดสินใจได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเจอความผันผวนของตลาด การเทรดตามแผนอย่างมีวินัยจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณทำการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์ เช่น การเพิ่มขนาดของการลงทุนเกินกว่าที่กำหนด หรือละเลย Stop Loss เพราะหวังว่าราคาจะกลับมา

ตัวอย่าง: การปฏิบัติตามกลยุทธ์โดยไม่ให้ความโลภหรือความกลัวเข้ามาเป็นตัวกำหนด จะทำให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว


การเทรดที่มีกำไรไม่ใช่เรื่องของการเดาหรือโชคดี แต่เป็นเรื่องของการใช้กลยุทธ์ที่มีข้อได้เปรียบ การจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบ และการมีวินัยที่จะทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ การนำทั้ง 3 ข้อข้างต้นมาใช้ร่วมกันจะทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสสำเร็จมากขึ้นในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า