การเทรดมี สองส่วนหลัก: ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) + ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน)

Image
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9   สวัสดีนักเทรดทุกคน ผมคือ Cororey Mitch จากเว็บไซต์ tradethatswing.com แปลจาก  https://www.youtube.com/watch?v=TC-KYcTjXRc ในวิดีโอนี้ ผมอยากจะพูดถึงการ “แบ่งหน้าที่ในใจ” ของคุณเวลาเทรด ให้ออกเป็น 2 บทบาท หรือ 2 กรอบความคิดหลักๆ จะเรียกว่าวิธีคิดแบบสองโหมดก็ได้ เพราะผมเห็นคนจำนวนมากพยายาม “ทำทุกอย่างพร้อมกัน” ขณะเทรด และนั่นทำให้เกิดปัญหา เช่น คิดทบทวนกลยุทธ์กลางสนามรบ หรือปรับเปลี่ยนวิธีเล่นไปเรื่อยโดยไม่มีทิศทาง สิ่งที่ผมอยากให้คุณลองคิดก็คือ...การเทรดมี สองส่วนหลัก: 1) ช่วงเวลานอกเวลาซื้อขาย (วางแผน/คิดกลยุทธ์) 2) ช่วงเวลาขณะเทรดจริง (ปฏิบัติตามแผน) 1. ช่วง “นอกเวลาซื้อขาย” – คิดเหมือนผู้บริหาร ให้คุณคิดว่าตัวเองคือ “ผู้จัดการ” หรือ “ฝ่ายบริหารของบริษัทเทรด” ในช่วงนี้ หน้าที่ของคุณคือ วางระบบให้รัดกุม หาวิธีทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด คุณจะต้อง: ตั้งกฎ ศึกษากลยุทธ์ ...

1 Setup ก็เพียงพอแล้วต่อการทำเงินสม่ำเสมอจากตลาดหุ้น

 


A+ setups คือกุญแจสู่ความสำเร็จในโลกการเทรด

การเทรดนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายและความผันผวน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้คุณประสบความสำเร็จ คือการโฟกัสไปที่ A+ setups หรือโอกาสที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนสูงครับ หลายคนอาจจะคิดว่าการเทรดต้องอาศัยการจับทุกจังหวะของตลาดเพื่อทำกำไร แต่ความจริงแล้ว แค่ 1 โอกาสที่ดี ก็เพียงพอให้คุณเป็นผู้ชนะในสนามการเทรดได้ 

https://mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%20%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87&auto_search_id=&exact_keyword=1&page_no=1


เริ่มต้นโฟกัสกับโอกาสที่เสี่ยงน้อยแต่ผลตอบแทนมาก

สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ มองหาโอกาสที่เป็น A+ setups โอกาสเหล่านี้คือจุดที่ความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสในการทำกำไรสูง คุณไม่จำเป็นต้องเทรดทุกครั้งที่เห็นกราฟเคลื่อนไหว หากคุณรอจนเจอโอกาสที่ดีที่สุด มันจะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงิน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากขึ้น


ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณเทรดตามแนวรับ-แนวต้าน คุณไม่จำเป็นต้องรีบเข้าเทรดทุกครั้งที่ราคาขยับเข้าหาแนวรับหรือแนวต้าน คุณควรรอให้มีสัญญาณที่ชัดเจน เช่น price action ที่บ่งบอกว่าแนวรับนั้นแข็งแกร่งก่อน แล้วค่อยตัดสินใจเข้าไป มันจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในจังหวะนั้นมากขึ้นและลดความเสี่ยงไปในตัว


หยุดกังวลว่าคุณจะต้องใช้เวลามากในการหาจังหวะที่ดี

หลายครั้งนักเทรดมือใหม่มักรู้สึกว่าตัวเองต้องเทรดบ่อยๆ เพราะกลัวจะพลาดโอกาส แต่จริง ๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ตลาดมีจังหวะขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา การรอให้เจอโอกาสที่ชัดเจนและเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ เป็นวิธีที่ดีกว่าการพยายามจับทุกการเคลื่อนไหวของตลาด


การเทรดที่ดีไม่ใช่เรื่องของปริมาณ แต่เป็นเรื่องของคุณภาพของโอกาสที่คุณเลือกเข้า คุณไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าจอตลอดเวลา แค่ใช้เวลาส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์และวางแผน พอเจอโอกาสที่เข้ากับกลยุทธ์ที่คุณเตรียมไว้ ก็ลงมือเทรดอย่างมีวินัยครับ


คุณไม่จำเป็นต้องจับทุกการเคลื่อนไหวของตลาด

นักเทรดหลายคนมีความคิดว่า การเทรดที่ประสบความสำเร็จคือการทำกำไรได้ทุกครั้งที่ตลาดขยับ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดครับ การพยายามเทรดทุกการเคลื่อนไหวของตลาดไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำกำไรได้มากขึ้น ในทางกลับกัน การเข้าออกตลาดบ่อยเกินไปอาจจะทำให้คุณเจอกับความผันผวนที่ไม่คาดคิดและเสียเงินได้มากขึ้น


ในความเป็นจริง คุณแค่ต้องมองหา **โอกาสที่เหมาะสม**  เช่น เจอสัญญาณยืนยันจากเครื่องมือเทคนิคของคุณและตรงกับกลยุทธ์ที่คุณวางไว้ก็เพียงพอแล้ว


1 setup ก็เพียงพอแล้ว

คุณไม่จำเป็นต้องมีหลายๆ กลยุทธ์ หรือเทรดทุกการเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อจะประสบความสำเร็จในการเทรดครับ แค่มี setup เดียวที่มั่นใจ ว่าเป็น A+ setup และคุณสามารถบริหารความเสี่ยงได้ดี เท่านั้นก็เพียงพอให้คุณชนะในสนามนี้แล้ว 


โฟกัสไปที่โอกาสที่มีคุณภาพและจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ แล้วคุณจะพบว่าการเทรดเป็นเรื่องที่มีประสิทธิภาพและสนุกขึ้นมากครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่