หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit

Image
สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven) วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน --- วินัยและระบบอัตโนมัติ การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น ขาย ⅓ ที่ 2R ขายอีก ⅓ ที่ 5R วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว --- หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes) ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA) สรุป: ใช้ระบบขายบ...

ศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของนักเทรดคือตัวคุณเอง


อัพเดทอีบุ๊กใหม่ขึ้นห้องสมุดครับ

https://mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%20%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87&auto_search_id=&exact_keyword=1&page_no=1

นักเทรดมือใหม่หลายคนอาจคิดว่า ปัญหาหลักของการเทรด คือการปั่นตลาด (market manipulation), การหลุดราคา (slippage) หรือข่าวเศรษฐกิจที่ทำให้ตลาดผันผวน

แต่ความจริงแล้ว ศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของคุณคือตัวคุณเอง
หรือมุมมองที่คุณมีต่อสิ่งเหล่านี้
.
ลองคิดดูนะครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ slippage หรือราคาขยับผิดไปจากที่คุณคาด คุณอาจจะรู้สึกหงุดหงิด คิดว่า "ตลาดมันไม่ยุติธรรม"
.
แต่แทนที่จะโทษตลาด ลองกลับมามองที่ "มุมมองของตัวคุณเอง"
ว่าคุณคิดอย่างไรกับเหตุการณ์นั้น
และ "สิ่งที่คุณเลือกจะทำหลังจากนั้น"
.
มุมมองที่สร้างจากประสบการณ์ในอดีต
สิ่งที่ทำให้เรามองตลาดไปในทางลบก็มาจาก "ประสบการณ์ในอดีตและความเชื่อจำกัด" ที่เรามีอยู่
.
ลองนึกภาพดูครับ ถ้าคุณเคยขาดทุนจากเหตุการณ์หนึ่ง "คุณอาจจะเริ่มเชื่อว่าตลาดมันเล่นไม่ซื่อ" หรือเทรดยังไงก็ไม่รอด
ความเชื่อนี้จะกลายเป็นกับดักที่ทำให้คุณมองทุกอย่างในแง่ลบ
.
แต่ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนมุมมองได้ มองว่าตลาดมันมีทั้งจังหวะที่ดีและไม่ดี คุณจะเริ่มปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ในการรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
.
ฉะนั้น แทนที่จะมองว่า "ตลาดเล่นงานคุณ" ลองมองว่าเป็น "บทเรียน" ที่คุณจะได้เรียนรู้ และเติบโตจากมันครับ
.
ระดับความรับผิดชอบที่คุณถือในผลการเทรดของตัวเอง
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ "ความรับผิดชอบ" ที่คุณมีต่อผลลัพธ์ของการเทรดของตัวเอง
.
บางครั้งเราอาจจะชอบโทษตลาด หรือปัจจัยภายนอก
แต่ความจริงคือ "เราเท่านั้นที่ควบคุมผลการเทรดของเราเองได้"
ถ้าคุณสามารถยอมรับความผิดพลาด และเรียนรู้จากมัน
นั่นคือก้าวแรกของการพัฒนาตัวเองให้เป็นนักเทรดที่ดียิ่งขึ้น
.
การรับผิดชอบไม่ใช่แค่เรื่องของการยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
แต่ยังหมายถึงการวางแผน การเตรียมตัว และการปฏิบัติตามแผนอย่างมีวินัยด้วย
เมื่อคุณสามารถควบคุมตัวเองได้ดี
คุณก็จะควบคุมการเทรดของคุณได้ดีขึ้นเช่นกันครับ
.
สรุปง่าย ๆ ก็คือ ศัตรูที่ใหญ่ที่สุดในการเทรดไม่ใช่ตลาดหรือข่าวเศรษฐกิจ แต่คือ "มุมมองและความรับผิดชอบของคุณที่มีต่อมันเอง"
ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนมุมมองและรับผิดชอบผลลัพธ์ของตัวเอง
คุณจะเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

แนวทาง Swing Trading หุ้นนิวเคลียร์