กำไรก้อนใหญ่ไม่ได้มาจาก “จุดเข้า(entry)” อย่างเดียว แต่มาจากการscale out

Image
กำไรก้อนใหญ่ไม่ได้มาจาก “จุดเข้า” อย่างเดียว แต่มาจาก “การจัดการ” หลังจากเข้าไปแล้วต่างหาก  แปลจาก  https://x.com/BlogJulianKomar/status/1967566327830192513 นี่คือกระบวนการที่ผมใช้ในการ Scale Out  1. Partial Profits (ขายบางส่วน): เมื่อหุ้นวิ่งได้กำไร +10% ผมจะทยอยขายออก 10–20% โดยเฉพาะหุ้นโมเมนตัม มันช่วยล็อกกำไร และลดความกดดันทางอารมณ์ 2. Cushion Effect (สร้างกันชน): เมื่อราคาวิ่งไป +20% ผมจะขยับจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ขึ้นมาไว้ที่จุดคุ้มทุน เพื่อปกป้องเงินต้น โดยไม่ต้องขายเร็วเกินไป 3. Trailing with EMAs (ตามรอยเส้นค่าเฉลี่ย): ถ้าราคายืนเหนือ EMA8 และ EMA21 ได้นานเกิน 7 สัปดาห์ ผมจะไล่ตามด้วย EMA8 เพราะโครงสร้างราคาเป็นตัวบอก ไม่ใช่อารมณ์ 4. Parabolic Moves (การขึ้นแบบพาราโบลา): ถ้าราคาขึ้นพุ่งแรงแบบ “แทงทะลุฟ้า” ผมจะทยอยขายใส่แรงซื้อทันที เพราะจุดสูงสุดชัดเจนก็ตอน “มองย้อนกลับไป” และพาราโบลาไม่เคยยั่งยืน 5. Earnings Protection (ปกป้องก่อนงบ): ถ้าเข้าใกล้วันประกาศงบ แต่ยังไม่มีกำไรเป็นกันชน ผมจะเลือก “ลด” หรือ “ออก” เพราะการถือข้ามงบโดยไม่ป้องกัน ไม่ใช่กลยุทธ์ แต่มันคื...

สูตรเทรดแล้วรวย ที่อมตะและใช้ได้ทั่วโลก ของพี่ Mark Minervini


ความสำเร็จทางการเงินของผมในทุกๆ เรื่อง 

รวมถึงการเทรดหุ้น

สรุปได้ในประโยคเดียว...

"ผมจะลงเงินของผมให้กับการลงทุนที่มี Upside สูง และจัดการ Downside ของมันให้เหลือเพียงเล็กน้อย

ถ้าคุณจำกัด Downside ได้ดี(ให้เสียน้อย)

Upside ก็จะดูแลตัวเอง(ให้คุณได้เยอะเอง)

นี่คือสูตรเทรดแล้วรวย ที่อมตะและใช้ได้ทั่วโลก"

- มาร์ค มิเนอร์วินี

.

คำพูดของพี่มาร์คแสดงถึงหลักการพื้นฐานของการลงทุนที่เวิร์คตลอดมาและใช้ได้ในวงกว้างเสมอ

นั่นคือจัดการ(เพื่อจำกัดและกำจัด)ความเสี่ยงให้ต่ำ และให้โอกาสทำกำไรสูง เขาพูดถึงการลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง (X upside potential) แต่ในขณะเดียวกันก็ควบคุมความเสี่ยงหรือการสูญเสีย (Y downside) ให้อยู่ในระดับที่ต่ำมาก

.

.

ทำไมการจำกัด downside จึงสำคัญและต้องทำก่อน?

การจำกัด downside หรือความเสี่ยงของการสูญเสียเป็นกุญแจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลหลายประการ:

.

การปกป้องทุน: หากคุณสามารถจำกัดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนของคุณได้ จะทำให้คุณสามารถอยู่รอดและมีโอกาสในการลงทุนต่อไปในอนาคตได้ การสูญเสียที่มากเกินไปอาจทำให้ทุนของคุณลดลงอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อการลงทุนในอนาคต

.

รักษาความมั่นใจ: การมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่ดีช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยไม่ถูกอารมณ์ควบคุม

.

การจัดการการขาดทุน: การตั้งจุดหยุดขาดทุน (stop-loss) ช่วยให้คุณสามารถตัดขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเมื่อการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ความเสียหายขยายตัวออกไป

.

การเพิ่มโอกาสในการทำกำไร: โดยการจำกัด downside คุณสามารถใช้ทุนที่เหลือไปลงทุนในโอกาสที่มีศักยภาพสูงกว่า ทำให้มีโอกาสทำกำไรที่ดีขึ้น

.

การควบคุมความเสี่ยงในระยะยาว: การจำกัด downside ช่วยให้คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ในระยะยาวและรักษาความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้

.

การรักษาสภาพคล่อง: การควบคุมความเสี่ยงช่วยให้คุณรักษาสภาพคล่องของเงินทุนได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือโอกาสในการลงทุนที่ดี

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

แนะนำ คอร์ส US Stock Masterclass by Zyo