แนะนำอีบุ๊ค "Kaizen Trader" พัฒนาแค่วันละ 1% แต่ปั้นพอร์ตให้เติบโตได้ตลอดชีวิต

Image
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM3MzIxNzt9 Kaizen Trader พัฒนาแค่วันละ 1% แต่ปั้นพอร์ตให้เติบโตได้ตลอดชีวิต --- เพราะการเทรดคือเส้นทางของการเติบโต “ไม่มีใครเริ่มต้นเทรดแล้วรวยทันที แค่ดีขึ้นกว่าเมื่อวานนิดเดียว... ก็เพียงพอแล้วสำหรับความมั่งคั่งในระยะยาว” นี่คือแนวคิดเบื้องหลัง Kaizen Trader – eBook เล่มใหม่ล่าสุด ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณเกี่ยวกับการเทรดไปตลอดกาล --- ทำไมนักเทรดส่วนใหญ่ “ไปไม่รอด”? เพราะพวกเขา... พยายามหาวิธีรวยเร็ว เปลี่ยนระบบทุกสัปดาห์ ตัดสินตัวเองจากกำไรขาดทุนแบบวันต่อวัน และที่แย่ที่สุด: หมดกำลังใจเมื่อเจอวันพอร์ตแดง ในขณะที่ “นักเทรดที่อยู่รอดและเติบโตจริง” กลับมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ... "พวกเขาไม่หยุดพัฒนา แม้เพียงเล็กน้อยในทุก ๆ วัน" --- แล้ว “ไคเซ็น” คืออะไร? ไคเซ็น (Kaizen) คือแนวคิดญี่ปุ่นที่แปลว่า การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ใช่การก้าวกระโดด แต่คือ การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ทำ ซ้ำ อย่างมีวินัย ในโลกการเทรด ไคเซ็นคือ... ...

"ไม่คัทเพราะกลัวขาดทุนหนัก สุดท้ายขาดทุนหนักกว่าเดิม" เกิดจากอะไร? มาดูกันครับ

อาการ "ไม่คัทเพราะกลัวขาดทุนหนัก สุดท้ายหนักกว่าเดิม" เป็นพฤติกรรมที่พบนักเล่นหุ้นมือใหม่หลายๆ คน และสามารถอธิบายได้ผ่านหลายเหตุผลทางจิตวิทยา ประสบการณ์ และธรรมชาติของมนุษย์ ดังนี้:

1. Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)

มนุษย์มักจะกลัวการสูญเสียมากกว่าที่จะได้รับกำไรในจำนวนเดียวกัน ความกลัวการสูญเสียทำให้ผู้คนยอมเสี่ยงที่จะขาดทุนมากขึ้นเพื่อไม่ให้เห็นการขาดทุนจริง ๆ ในปัจจุบัน


2. Confirmation Bias (อคติต่อการยืนยัน)

นักลงทุนมักจะมองหาข้อมูลที่สนับสนุนความเชื่อหรือการตัดสินใจของตนเอง และมองข้ามหรือไม่ยอมรับข้อมูลที่ขัดแย้งกับความเชื่อเหล่านั้น การไม่ยอมคัทขาดทุนอาจเกิดจากการเชื่อว่าหุ้นจะกลับมาฟื้นตัว


3. Overconfidence (ความมั่นใจเกินไป)

นักลงทุนมือใหม่อาจมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากเกินไป ทำให้เชื่อว่าตนเองจะสามารถทนรอจนกว่าหุ้นจะฟื้นตัวกลับมาได้


4. Sunk Cost Fallacy (ความผิดพลาดในการคิดคำนวณต้นทุนที่จม)

มนุษย์มักจะยึดติดกับการลงทุนที่เคยทำมาแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันไม่คุ้มค่าอีกต่อไป การไม่คัทขาดทุนเป็นการยึดติดกับต้นทุนที่จมไปแล้ว หวังว่าจะไม่สูญเสียไปมากกว่านี้


5. Emotional Attachment (การผูกพันทางอารมณ์)

นักลงทุนบางคนอาจผูกพันกับหุ้นบางตัวมากเกินไป เช่น เป็นหุ้นที่ซื้อมานาน หรือมีความรู้สึกส่วนตัวต่อบริษัทนั้น ๆ ทำให้ยากที่จะยอมรับการขาดทุน


6. Lack of Experience (ขาดประสบการณ์)

นักลงทุนมือใหม่อาจไม่มีประสบการณ์ในการรับมือกับการขาดทุน และไม่ทราบว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน ความไม่รู้ทำให้เกิดความกลัวและการตัดสินใจที่ผิดพลาด


7. Herd Mentality (พฤติกรรมตามกลุ่ม)

บางครั้งนักลงทุนอาจตัดสินใจโดยยึดตามพฤติกรรมของคนอื่น ๆ ในตลาด เมื่อเห็นคนอื่นไม่คัทขาดทุนก็อาจคิดว่าตนเองควรทำตาม


การเข้าใจเหตุผลเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถพัฒนากลยุทธ์ในการรับมือกับการขาดทุนได้ดียิ่งขึ้น การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับจิตวิทยาการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงจะช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ