10 หุ้นเติบโตของอเมริกาที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว

Image
10 หุ้นเติบโตของอเมริกาที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ที่มา https://x.com/InvestmentGuru_/status/1992587877595631667 $IONQ — ผู้นำระดับโลกด้านควอนตัมคอมพิวติ้ง เทคโนโลยีที่อาจสร้างการปฏิวัติด้านพลังประมวลผล และเร่งการพัฒนา AI รวมถึงงานวิทยาศาสตร์ในอนาคต $IREN — บริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่กำลังโตเร็วมาก กำลังเร่งเพิ่มกำลังประมวลผล HPC เพื่อตอบรับดีมานด์ AI ที่พุ่งแรงทั่วโลก $SOFI — ฟินเทครุ่นใหม่ที่กำลังเปลี่ยนโฉมการทำธนาคาร การปล่อยกู้ และการลงทุน ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่ขยายต่อเนื่อง $RKLB — ผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมปล่อยจรวดและดาวเทียม สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ภาคเอกชนเข้าถึงอวกาศได้จริง $HIMS — แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลที่เติบโตเร็วและมีกำไรแล้ว เปลี่ยนรูปแบบการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล เทเลเมดิซีน และเวชภัณฑ์แนวใหม่ $QS — พัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตรุ่นถัดไปสำหรับรถ EV มุ่งเป้าความปลอดภัยสูงกว่า ชาร์จเร็วกว่า พร้อมพันธมิตรระดับโลกหลายราย $BULL — Webull แพลตฟอร์มเทรดที่ขยายตัวทั่วโลก มุ่งให้พลังนักลงทุนรายย่อยรุ่นใหม่ และผลักดันเทคโนโลยีการเงินให้เข้าถึงง่าย $GLXY — บริษัท...

Position Sizing กับ Progressive Exposure คือจุดเปลี่ยนของยอดนักเทรด ผู้ปั้นพอร์ตโต 800% ในปีเดียว


2 กระบวนที่สำคัญมากที่คุณ Goverdhan Gajjala ยอดนักเทรดผู้ปั้นพอร์ตโต 800% ในปีเดียวใช้เพื่อให้บรรลุการจัดการความเสี่ยงอย่างปลอดภัย 

คือ Position Sizing กับ Progressive Exposure(ปรับขนาดตามโอกาสความเสี่ยง)

.

๑) ทุกครั้งที่คุณ Goverdhan Gajjala เข้าเทรดครั้งใหม่ เขาจะเริ่มต้นซื้อด้วยเงินที่เขาจะยอมเสียได้เท่านั้น(ซึ่งเป็นเงินก้อนเล็กมาก)

๒) จากนั้นเขาจะค่อยๆ เพิ่มหรือลดความเสี่ยงของบัญชีต่อการเทรด ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของหุ้นตัวนั้น

.

๓) เขาจึงเริ่มเทรดไม้แรกด้วยเงินเพียงเล็กน้อย โดยเสี่ยง 0.25% ของบัญชีทั้งหมดของเขาต่อการเทรด 

๔) หากการเทรดนั้นมันไปได้ดีและมีผลตอบแทนเป็นบวก เขาจะค่อยๆ เพิ่มขนาดและ % ความเสี่ยงต่อการเทรด

๖) แต่ถ้าหากการเทรดนั้นมันไม่ดีและขาดทุน เขาจะค่อยๆ ลดความเสี่ยงต่อการเทรดลง

(นี่คือหลักการ Progressive Exposure)

.

๗) แสดงว่าเขาจะเพิ่มเงินลงทุนให้ขนาดใหญ่ขึ้นในหุ้นผู้ชนะ และลงเงินให้น้อยที่สุดเมื่อการเทรดนั้นแย่ที่สุด (นี่คือหลักการ Progressive Exposure)

.

๘) การมีกระบวนการแบบนี้เอง ที่มันเพิ่มผลตอบแทนให้เขาแบบทวีคูณในเดือนที่ได้ผู้ชนะรอบใหญ่(Easy Dollars) และลดการสูญเสียของลงอย่างมากในเดือนที่ขาดทุนติดต่อกัน(Hard Penny)


๙) นี่คือวิธีคำนวณ Position Sizing ของคุณอย่างง่ายๆ:

สมมติว่าขนาดบัญชีของผมคือ $100,000: 

หุ้นที่ผมต้องการเทรดอยู่ที่ $37.43 และผมต้องการเสี่ยง 0.5% ของบัญชีของฉัน (เสียเงิน $500 ถ้ามันลงถึงจุดหยุดขาดทุนที่ $34.58) 

ผมจะรู้ว่า Position Size ของผมต้องเท่ากับ 175 หุ้น หรือ $6,566

.

๑๐) เครื่องคิดเลขจะดูแลคณิตศาสตร์ให้กับคุณ

เพียงปรับตามยอดคงเหลือ ราคาหุ้น ราคา SL และ %ความเสี่ยงต่อการเทรด

.

๑๑) ผมมักจะเทรดโดยรู้ว่าจะต้องเสี่ยงมากแค่ไหน และเพราะเหตุใด

.

๑๒) การเรียนรู้เกี่ยวกับ Position Sizing กับ Progressive Exposure เป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพการเทรดของผม และเป็นส่วนสำคัญของผลตอบแทน(ปั้นพอร์ตโต 800%)ของผมในปีที่แล้ว

- - Goverdhan Gajjala

.

.

ปล. ผมเห็นด้วยครับ Position Sizing กับ Progressive Exposure คือจุดเปลี่ยนของผมเช่นกัน



7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า