คิดและเทรด ให้รอดและรวย ด้วยแนวคิด โทกุงาวะ อิเอยาสึ "ยอมแพ้แต่ไม่ศิโรราบ"

Image
คำกล่าวที่ว่า โทกุงาวะ อิเอยาสึ "ยอมแพ้แต่ไม่ศิโรราบ" สะท้อนถึงกลยุทธ์หัวใจสำคัญที่ทำให้เขาเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายในยุคเซ็นโกกุ นั่นคือ "การอดทนรอคอยและการยอมก้มหัวเพื่อรักษาตัวรอด"  ดังตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญต่อไปนี้: ยอมเป็นตัวประกันแต่เด็ก: เขาต้องไปเป็นตัวประกันของตระกูลอิมะงาวะนานหลายปี แทนที่จะขัดขืนจนถูกฆ่า เขาเลือกเรียนรู้ศิลปวิทยาการและสร้างเครือข่ายรอเวลาที่ตระกูลเดิมจะล่มสลาย  ยอมทำตามคำสั่งที่โหดร้ายของโนบุนางะ: เมื่อครั้งเป็นพันธมิตรกับ โอดะ โนบุนางะ เขาถูกสั่งให้ประหารชีวิตภรรยาและให้ลูกชายคนโตทำเซ็ปปูกุ (คว้านท้อง) เนื่องจากถูกสงสัยว่าเป็นกบฏ อิเอยาสึยอมทำตามเพื่อรักษาตระกูลโทกุงาวะไว้ ไม่ยอมหักด้ามพร้าด้วยเข่าในขณะที่กำลังยังไม่พอ ยอมสวามิภักดิ์ต่อฮิเดโยชิ: หลังจากโนบุนางะตาย เขาเคยรบกับ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ในยุทธการโคมากิและนากากุเตะ แม้จะไม่แพ้ในสนามรบ แต่เขามองเห็นว่าฮิเดโยชิมีอำนาจเหนือกว่ามาก จึงยอมรับใช้ฮิเดโยชิและยอมย้ายฐานที่มั่นไปยังเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) ตามคำสั่ง เพื่อสะสมกำลังไฟอย่างเงียบเชียบ  สรุป: การยอมแพ้ของอิเอยาสึไม่ใช่ความพ่ายแพ้ถาวร...

Position Sizing กับ Progressive Exposure คือจุดเปลี่ยนของยอดนักเทรด ผู้ปั้นพอร์ตโต 800% ในปีเดียว


2 กระบวนที่สำคัญมากที่คุณ Goverdhan Gajjala ยอดนักเทรดผู้ปั้นพอร์ตโต 800% ในปีเดียวใช้เพื่อให้บรรลุการจัดการความเสี่ยงอย่างปลอดภัย 

คือ Position Sizing กับ Progressive Exposure(ปรับขนาดตามโอกาสความเสี่ยง)

.

๑) ทุกครั้งที่คุณ Goverdhan Gajjala เข้าเทรดครั้งใหม่ เขาจะเริ่มต้นซื้อด้วยเงินที่เขาจะยอมเสียได้เท่านั้น(ซึ่งเป็นเงินก้อนเล็กมาก)

๒) จากนั้นเขาจะค่อยๆ เพิ่มหรือลดความเสี่ยงของบัญชีต่อการเทรด ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของหุ้นตัวนั้น

.

๓) เขาจึงเริ่มเทรดไม้แรกด้วยเงินเพียงเล็กน้อย โดยเสี่ยง 0.25% ของบัญชีทั้งหมดของเขาต่อการเทรด 

๔) หากการเทรดนั้นมันไปได้ดีและมีผลตอบแทนเป็นบวก เขาจะค่อยๆ เพิ่มขนาดและ % ความเสี่ยงต่อการเทรด

๖) แต่ถ้าหากการเทรดนั้นมันไม่ดีและขาดทุน เขาจะค่อยๆ ลดความเสี่ยงต่อการเทรดลง

(นี่คือหลักการ Progressive Exposure)

.

๗) แสดงว่าเขาจะเพิ่มเงินลงทุนให้ขนาดใหญ่ขึ้นในหุ้นผู้ชนะ และลงเงินให้น้อยที่สุดเมื่อการเทรดนั้นแย่ที่สุด (นี่คือหลักการ Progressive Exposure)

.

๘) การมีกระบวนการแบบนี้เอง ที่มันเพิ่มผลตอบแทนให้เขาแบบทวีคูณในเดือนที่ได้ผู้ชนะรอบใหญ่(Easy Dollars) และลดการสูญเสียของลงอย่างมากในเดือนที่ขาดทุนติดต่อกัน(Hard Penny)


๙) นี่คือวิธีคำนวณ Position Sizing ของคุณอย่างง่ายๆ:

สมมติว่าขนาดบัญชีของผมคือ $100,000: 

หุ้นที่ผมต้องการเทรดอยู่ที่ $37.43 และผมต้องการเสี่ยง 0.5% ของบัญชีของฉัน (เสียเงิน $500 ถ้ามันลงถึงจุดหยุดขาดทุนที่ $34.58) 

ผมจะรู้ว่า Position Size ของผมต้องเท่ากับ 175 หุ้น หรือ $6,566

.

๑๐) เครื่องคิดเลขจะดูแลคณิตศาสตร์ให้กับคุณ

เพียงปรับตามยอดคงเหลือ ราคาหุ้น ราคา SL และ %ความเสี่ยงต่อการเทรด

.

๑๑) ผมมักจะเทรดโดยรู้ว่าจะต้องเสี่ยงมากแค่ไหน และเพราะเหตุใด

.

๑๒) การเรียนรู้เกี่ยวกับ Position Sizing กับ Progressive Exposure เป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพการเทรดของผม และเป็นส่วนสำคัญของผลตอบแทน(ปั้นพอร์ตโต 800%)ของผมในปีที่แล้ว

- - Goverdhan Gajjala

.

.

ปล. ผมเห็นด้วยครับ Position Sizing กับ Progressive Exposure คือจุดเปลี่ยนของผมเช่นกัน



7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?