สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

กฎการเทรด 13 ข้อ หากทำตามแล้วชีวิตดีขึ้น (Inside a Trader's Mind)

กฎการเทรด 13 ข้อ หากทำตามแล้วชีวิตดีขึ้น


ค้นเว็บเพลินๆ ไปเจอบทความสั้นๆ ชื่อ Inside a Trader's Mind เป็นเรื่องเกี่ยวกับ จิตวิทยาการเทรด
เห็นสารบัญแจงหัวข้อได้น่าสนใจเลยพยายามแปลมาให้อ่านกันครับ

เขาระบุกฎการเทรดที่เราต้องให้ความสำคัญ 13 ข้อ ถ้าหากอยากมีสุขภาพจิตที่ดี
ซึ่งผมเห็นด้วยนะ เพราะอาชีพเทรดนั้นโคตรเครียดเลย ยิ่งถ้าหากเราออกนอกลู่นอกทางแล้ว จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายและต่อเนื่อง

ถ้าหากเราอยากเครียดน้อยลงและมีชีวิตการเทรดที่ราบรื่น ต้องหาวิธีการและสร้างกฎขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบทางความคิดให้เราอยู่ในร่องในรอยตามครรลองของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จเขาทำกันครับ
ซึ่งกฎที่ว่านั้น มีดังนี้....



กฎข้อ 1 คุณต้องมีแผนการเทรด และทำตามมันอย่างจริงจัง
- คุณต้องระบุตัวเองให้ได้ว่าเป็นนักเทรดแบบไหน?
Day trader, Swing trader, หรือ ลงทุนระยะยาว
เมื่อระบุได้ คุณจะรู้ว่าตัวเองต้องทำยังไง จะให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด
มันจะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์การเทรดของคุณ

- ระบุตลาดที่คุณอยากเทรด
หุ้น, FOREX, FUTURE, DW, สินค้าโภคภันฑ์, ทอง ฯลฯ
ซึ่งสินทรัพย์แต่ละอย่างล้วนมีลักษณะเฉพาะที่ต่างกัน
เมื่อระบุและโฟกัสได้ ท่านก็สามารถลงรายละเอียดศึกษาอย่างลึกซึ้งได้
"รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"

- กลยุทธ์การเทรดของคุณคืออะไร?
ทำให้มันง่ายเข้าไว้ครับ เอาแบบว่าแม้คุณจะเปิดมือถือเทรด ก็ทำได้ ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เปิดกราฟดูก็ได้ คือไม่ต้องมีอินดิเเตอร์เฉพาะที่ต้องซื้อมาติดตั้งทุกเครื่องหรอก เอาแบบเบสิคง่ายๆ เปิดดูจากเว็บฟรีได้ยิ่งดีใหญ่
นอกจากนี้ ความง่ายวัดได้จากการเขียนบรรยายกฎของตัวเองลงในกระดาษจดโน๊ต ถ้าคุณสรุปให้สั้นและเข้าใจได้ แสดงว่าง่ายจริง



- แนวทางบริหารความเสี่ยง และเงินทุน
เรื่องนี้สำคัญที่สุด และเป็นเรื่องแรกที่คุณต้องให้ความสำคัญ ซึ่งมันสวนทางกับนวคิดของนักเทรดหน้าใหม่ทุกคน ที่พวกเขามุ่งเน้นไปที่การทำเงินก่อนที่จะปกป้องเงินต้นของตัวเอง
คุณต้องรู้ว่าจะใช้เงินเทรดมากแค่ไหนต่อการเทรดหนึ่งครั้งโดยที่ไม่เสี่ยงเกินลิมิต

- กลยุทธ์การขายหรือออกจากการเทรด
มีอยู่ ๒ ประเด็นซ่อนอยู่ในข้อนี้ คือ
๑) การออกเมื่อขาดทุน เพื่อปกป้องเงินทุน คุณต้องระบุ stop loss ให้ได้ก่อนเข้าเทรด ว่าถ้าขาดทุนคุณจะยอมเสียหายกี่เปอร์เซ็นต์ ที่ระดับราคาเท่าไหร่
๒) การออกเมื่อมีกำไร คุณควรระบุจุดขายทำกำไรออกมาเป็นหลักอย่างน้อยๆ เช่น ถ้าราคาวิ่งขึ้นมาเป็นสองเท่าของความเสี่ยง(เปอร์เซ็นต์ stop loss) คุณต้องยกจุดตัดขาดทุนขึ้นมาไว้ที่จุดเข้าซื้อของตัวเอง เพื่อป้องกันการขาดทุน และจากนั้นถ้าราคาวิ่งต่อคุณต้องยุกจุดล็อกกำไรตามไปเรื่อยๆ

- ระบุช่วงที่คุณไม่ควรเข้าเทรด
ข้อนี้ทำยากสำหรับมือใหม่ เพราะไม่เคยโดนตลาดเล่นหนักๆ ส่วนใหญ่อยากเทรดทุกวัน แต่ถ้าเขารู้กาละเทศะ ก็จะไม่เสียเงินให้ตลาดไปแบบง่ายๆ
ฝรั่งเขาบอกว่า ช่วงที่ Fed ประกาศนโยบายดอกเบี้ย จะไม่เล่น, ช่วงประกาศงบก็ไม่เล่น เพราะช่วงเหล่านี้ราคาหุ้นจะผันผวนมาก โอกาสขาดทุนสูง



- คุณต้องบันทึกผลการเทรดของตัวเอง
คุณต้องทำตารางกรอกข้อมูลเอาไว้ อย่างนี้ก็เรื่องดังนี้
๑) วันที่
๒) ชื่อตลาด หรือหุ้น
๓) ราคาเข้าซื้อ
๔) ความเสี่ยง
๕) วันที่ขาย
๖) ราคาขาย
๗) ขาดทุน หรือกำไร เท่าไหร่
๘) ข้อสังเกต

- หมั่นศึกษาและพัฒนากลยุทธ์การเทรดให้เสี่ยงต่ำกว่าเดิม
นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นอีกอย่าง คือคุณต้องหาทางทำให้ตัวเองเก่งขึ้น โดยเริ่มจากทำยังไงก็ได้ให้เสี่ยงต่ำลง คือเราขาดทุนแน่ แต่ทำยังไงให้ขาดทุนน้อยลง ดูสภาพตลาดมั้ย, ศึกษาเรื่องอารมณ์ตลาด, แท่งเทียน อินดิเคเตอร์ ฯลฯ


กฎข้อ 2 ควบคุมอารมณ์ของคุณให้ได้ตลอดเวลา
90% ของการเทรดคือจิตใจ ถ้าคุณอยากเป็นมือโปรต้องมีจิตวิทยาการเทรดที่ถูกต้อง ตรงนี้แหละที่แยกระหว่างคนสำเร็จกับเทรดเดอร์ทั่วไป บางคนจิตไม่นิ่งแม้จะฟลุคทำเงินได้มากมายแต่เงินก็จะอยู่ได้ไม่นานเดี๋ยวก็ขาดทุนกลับไปหมดเนื่องจากให้อารมณ์เข้ามาเป็นนายของการเทรด
คุณต้องเรียนรู้ทีจะเทรดด้วยความมั่นใจ โดยเทรดตามการเคลื่อนไหวของตลาดเท่านั้น ท่านต้องทำการบ้านและเตรียมตัวสำหรับการเทรดล่วงหน้าไว้ทุกวัน การเตรียมตัวและวางแผนที่รัดกุมจะช่วยให้ท่านลดการใช้อารมณ์มาร่วมการเทรดได้
อารมณ์มีทั้งด้านดีและเสีย ท่านไม่ควรกดมัน แต่จงเรียนรู้และใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วย



กฎข้อ 3 มีวินัยและมองภาพใหญ่(เป้าหมายหลัก)
วิธีการป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเบี้ยล่างของอารมณ์คือ "ต้องมีวินัย" อย่างที่เรารู้กันว่าการเทรดนั้นจิตวิทยามีความสำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์ ดังนั้นท่านต้องควบคุมมันด้วยการมีวินัยและมองภาพใหญ่คือเป้าหมายเป็นหลัก

การเทรดก็เหมือนการใช้ชีวิตนั่นแหละครับ หากต้องการประสบความสำเร็จคุณต้องมีวินัย ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ทำการบ้านและเตรียมตัวทุกวัน กล้าลงมือเมื่อจังหวะมันตรงตามแผนไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน ซึ่งเหล่านี้มันต้องอาศัยวินัยครับ

การระลึกถึงเป้าหมายของตัวเองทุกครั้งที่เกิดปัญหา หรือเจอทางแยกของความคิด จะช่วยให็ท่านกลับมาสู่เกมได้ครับ เพราะตลาดหุ้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ท่านมีความสุขและกำไรหรอก มันเหมือนรถไฟเหาะทำให้ท่านรู้สึกหวั่นไหวอยู่ตลอด ถ้าท่านอยากอยู่รอดและร่ำรวย ต้องมองภาพใหญ่เอาไว้ ไม่หวั่นไหวต่อปัญหาเล็กๆน้อย ถ้าคุณมีวินัยและทำตามแผนก็จะสามารถเคลียร์ปัญหาเล้กๆน้อยนั้นได้ไม่ให้มันบานปลายจนทำให้แผนใหญ่เสียครับ



กฎข้อที่ 4 อย่าเทรดเพราะไม่มีอะไรทำ
นี่เป็นบทเรียนที่สำคัญมากๆที่นักเทรดต้องเรียนรู้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณควรเทรดเมื่อทุกอย่างมันตรงกับแผนของท่านเท่านั้น อย่าเทรดเพราะคันไม้คันมือหรืออยากหาอะไรทำ เพราะอะไรก็ตามที่มันไม่เคลียร์ ท่านไม่ละเอียด แทนที่มันจะทำให้ท่านได้เงินก็จะทำให้ท่านขาดทุนแทน เสียเงินที่กำไรไปให้ตลาดโดยใช่เหตุ



กฎข้อที่ 5 อย่าได้คิดแต่จะทำเงินอย่างเดียว
ถ้าคุณโฟกัสไปที่การพยายามทำให้ได้เงินคุณจะเสียเงิน เพราะอารมณ์จะเข้ามาเป็นนายของคุณ อันจะทำให้การตัดสินใจของคุณผิดเพี้ยน ไม่เป็นไปตามวินัย และผิดแผน
แน่นอนว่าเราเทรดเพราะต้องการเงิน แต่การโฟกัสที่กำไรเป็นนสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะหน้าที่ให้กำไรกับเราเป็นของตลาด เรามีหน้าที่เดียวคือทำตามแผนและปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ฉะนั้นแทนที่จะไปโฟกัสในสิ่งทีคุณคุมไม่ได้ ก็ให้ดูแลตัวเองคือทำตามแผน คิอถึงเป้าหมายใหญ่ กำไรจะมาจากการที่คุณทำถูกต้องตามแผน
เหมือนนักวิ่งแข่งชิงเหรียญทอง พวกเขาไม่ได้คิดถึงเหรียญหรอก คิดแต่เพียงว่าทำยังไงให้วิ่งดีที่สุด ทำตามที่ซ้อมได้สมบูรณ์ที่สุด ถ้าทำได้ดีที่สุด ก็ต้องมีเหรียญติดมือ


กฎข้อที่ 6 เทรดชนะเยอะไม่ช่วยอะไรมาก
จอร์จ โซรอส บอกว่า “สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าคุณถูกหรือผิด แต่สิ่งสำคัญก็คือ คุณกำไรเท่าไรเมื่อคุณถูก และคุณขาดทุนเท่าไรเมื่อคุณผิด” หมายความว่าไม่สำคัญว่าคุณจะเทรดชนะมากกว่าเทรดแพ้เท่าไหร่ แม้คุณเทรดชนะไม่ถึง 50% ก็ยังรวยได้ถ้ารู้จักตัดขาดทุนไวเมื่อผิดทาง และรู้จักปล่อยให้หุ้นกำไรเติบโตไปให้มากที่สุดเมท่าที่จะเป็นได้
พูดง่ายๆคือ ขาดทุนก็ให้เสียหายน้อย แต่ถ้ากำไรขอกินคำโตๆ ก็เป็นพอ


กฎข้อที่ 7 รู้จักขาดทุนแบบมืออาชีพ
กุญแจดอกสำคัญของการเป็นผู้ชนะคือคุณต้องเรียนรู้วิธีการขาดทุนแบบมืออาชีพ นั่นคือให้ความสำคัญกับการควบคุมความเสี่ยงตลอดเวลา
- ตัดขาดทุนไว ให้เสียหายน้อยที่สุด
- ใช้และเคารพ stop loss อย่างเคร่งครัด
- ถ้าแพ้ก็รีบยอมรับให้ไว ไม่เถียงตลาด
- ยอมรับการขาดทุนและดึงเงินสดมาเก็บไว้เพื่อรอโอกาสครั้งต่อไป
- ลืมจำนวนเงินที่ขาดทุนให้ไว มุ่งความสนใจไปที่โอกาสใหม่
- ยอมรับว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด

การเทรดคือการทำธุรกิจ ถ้าคุณอยากทำธุรกิจให้ยั่งยืนยาวนาน คุณต้องขาดทุนให้น้อยที่สุด รักษาเงินต้นเอาไว้ลงกับโอกาสใหม่ซึ่งมันจะมีมารอให้ท่ากับท่านเรื่อยๆครับ

ให้มองการตัดขาดทุนเป็นเรื่องดี เพราะมันเป็นตัวชี้วัดความเคร่งครัดต่อแผนและวินัยของตัวเอง คุณทำได้ดีแล้ว นี่เป็นสิ่งที่มืออาชีเขาทำ คุณเริ่มเป็นมืออาชีพบ้่างแล้ว วิธีคิดของคุณมาถูกทางแล้ว ต่อไปก็แค่รอโอกาสดีๆที่ตลาดจะมอบให้ ขอแค่ท่านมีเงินสดรอไว้เท่านั้น เมื่อทุกอย่างมันใช่ นั่นแหละครับโอกาสรวยแบบพลิกพอร์ตมาหาท่านแล้ว



กฎข้อที่ 8 ปล่อยให้หุ้นกำไรวิ่งต่อให้ไกลที่สุด
ในการทำธุรกิจนั้นมีหลักการง่ายๆครับ คือผลประกอบการต้องเป็นบวก คือกำไรต้องมากกว่าขาดทุน หลังจากที่ท่านตัดขาดทุนเป็นแบบมืออาชีพได้แล้ว ต่อไปก็แค่ทนรวยกับหุ้นผู้ชนะให้นานที่สุด เพื่อให้ได้กำไรมามากกว่าส่วนที่ขาดทุน เพื่อให้ถัวกันกลายเป็นบวก
วิธีการรันกำไรให้โต ทำได้ด้วยการยกระดับล็อกกำไรตามราคาขึ้นไป หรือ trailing stop หรือบางท่านก็ใช้หลักการทยอยขายเมื่อได้กำไรมากกว่าความเสี่ยง ทำให้มีกำไรติดมือแน่ๆ


กฎข้อที่ 9 การมีเงินสดในมือคือการลงทุนที่ดี
Cash is King จะน่าเชื่อถือมากเมื่อตลาดหุ้นเป็นขาลงครับ ถ้าหากท่านติดหุ้นไม่มีเงินสดหลือติดมือเลย ท่านจะรู้ซึ้งถึงคำนี้เลยครับ  ดังนั้นการถือเงินสดไว้ถ้าไม่เจอทรงหุ้นที่ใช่ถือเป็นเรื่องดีมากครับ เพราะโอกาสจะมาหาท่านเรื่อยๆ ของแค่ท่านมีเงินสดเก็บไว้ในมือเพื่อรอเข้าโอกาสนั้น อย่าติดหุ้นถ้าไม่จำเป็น เพราะมันจะทำให้ท่านขาดกระสุนในการทำเงิน การเทรดมั่วซั่ว พยายามทำตัวให้ยุ่งเหมือนมีอะไรทำบ้าง ไม่ช่วยทำเงินหรอกครับ เก็บเงินไว้รอจังหวะสวยๆดีกว่า คนฉลาดเขาทำแบบนั้นกันครับ


กฎข้อที่ 10 ตามกระแสตลาด อย่าสวนกระแสเด็ดขาด
อย่าเทรดสวนเทรนด์! เพราะได้เงินยากแต่เสียหายง่าย อย่าพยายามเถียงตลาด ตลาดก็เหมือนกระแสน้ำ ท่านต้องพายเรือตามน้ำ อย่าได้สวนกระแสเพราะยิ่งสู้ยิ่งเหนื่อย เสียแรงโดยใช่เหตุ อย่าพยายามซื้อที่ราคาต่ำสุด หรือขายที่จุดสูงสุด เพราะท่านกำลังพยายามเทรดสวนเทรนด์ ให้รอการยืนยันก่อน แม้จะไม่ได้ซื้อของถูกที่สุดหรือขายแพงที่สุกแต่อย่างน้ยมันก็ได้ยืนยันการเปลี่ยนกระแสน้ำแน่ๆครับ



กฎข้อที่  11 หมั่นทำการบ้านและเรียนรู้
นักเทรดที่มีวินัยจะมีการเตรียมตัวที่ดีเพื่อให้การเทรดอยู่ในการควบคุมของตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยพวกเขาจะทำการบ้านทุกวัน วางแผนล่วงหน้าเอาไว้ทุกวัน ถ้าเกิดเหตุ 1-2-3 เขาจะทำยังไงต่อ เมื่อวางแผนดักไว้หมด เวลาเกิดอะไรขึ้นก็สามารถลงมือได้อย่างง่ายๆ ไม่ตกใจทำตามอารมณ์ครับ



กฎข้อที่  12 พึงระลึกเสมอว่าท่านเทรดเพื่ออะไร
หา Big Why ของท่านให้เจอครับ ว่าทำไมท่านถึงได้มาเป็นนักเทรด
อะไรเป็นแรงผลักดันให้ท่านเข้ามาในสาขาอาชีพนี้ เพราะว่าตลาดหุ้นไม่ได้มีแต่วันดีๆสำหรับท่าน มันเต็มไปด้วยอุปสรรค ดังนั้นท่านต้องมีสักวันที่จิตตก และหุนหันใช้อามรมณ์มาเทรดแทน แต่ถ้าหากท่านมี big why ที่น่าเชื่อถือและมั่นคง ท่านจะมีจุดยึดให้กลับมาสู่เกมได้ครับ



กฎข้อที่  13 โฟกัสในสิ่งทีท่านสามารถควบคุมได้เท่านั้น
สิ่งที่ท่านสามารถควบคุมได้แน่ๆคือ
- ความเสี่ยง
- อารมณ์
- การลงมือทำ
จงเคารพอำนาจนี้ไว้ให้ดี และใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องมีวินัย มีแผนการเทรด เพราะมันจะเป็นตัวช่วยให้ท่านลงมือทำในสิ่งที่ท่านควบคุมได้อย่างง่ายดายขึ้นไงครับ

ที่มา pinoyfxclub.com/wp-content/uploads/2017/01/INSIDE_A_TRADERS__MIND.pdf


(แนะนำเพิ่มเติม ความรู้การเทรดหุ้นของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
เรียนเล่นหุ้น เรียนเทรด forex จิตวิทยาการเทรด มือใหม่เล่นหุ้น
คลิกลิ้งนี้ครับ https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บ zyo71.com นี้แหละครับ


ส่วนนี่เป็น ช่องยูทูป ของผมเอง ดูฟรีเช่นกันครับ
เข้าไปชม คลิกที่ลิ้งนี้ www.youtube.com/channel/UCTDoP5zRI4hRETT_2SSlPag/videos


และนี่เป็นหนังสือเล่มของผมเองครับ



www.facebook.com/zyobooks


และ eBook มีขายที่เว็บ https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1
แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า
ebook หนังสือสอนเล่นหุ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks