แนวทางค้นหา “หุ้น IPO เพชรในตม” ในตลาดหุ้นอเมริกา

Image
คุณกำลังมองหา “หุ้น IPO เพชรในตม” อยู่หรือเปล่า? นี่คือวิธีหาพวกมัน แปลจาก https://www.investors.com/news/finding-profitable-ipo-stocks-and-how-to-handle-them/ การล่าหาหุ้น IPO ที่เป็น “เพชรในตม” คุ้มค่ากับความพยายามอย่างมาก “คุณเคยถามฉันว่าทำไมต้องศึกษาหุ้น IPO” ดอนเนลลี (Kathy Donnelly) กล่าวในพอดแคสต์ Investing with IBD ของ Investor’s Business Daily “พอเราเจอคำตอบ เราก็รู้เลยว่า การตามหา ‘เพชรในตม’ นั้นคุ้มค่าที่จะทำ” ดอนเนลลีเริ่มต้นด้วยการรวบรวมหุ้นเด่น ๆ แล้วบันทึกไว้ในสมุดชาร์ต จากนั้นจัดเรียงตามสัญญาณซื้อหรือขาย โดยดูทั้งกราฟรายวันและรายสัปดาห์ --- จุดยาก: จะ “จับไว้” หรือ “ปล่อยไป” หลัง IPO ความท้าทายสำคัญคือการตัดสินใจว่า จะถือหุ้นต่อหรือขายทำกำไรหลัง IPO เธอยกตัวอย่าง 2 หุ้น “เพชรในตม” ให้ศึกษา เมื่อไหร่ควรขายทำกำไร ดอนเนลลีมองสัญญาณและรูปแบบกราฟ โดยให้ความสำคัญกับกราฟรายสัปดาห์ เพราะกราฟรายวันบางครั้งทำให้นักลงทุนตื่นตกใจและขายเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น CoreWeave (CRWV) หลัง IPO เดือนมีนาคมปีนี้ ดอนเนลลีเริ่มทยอยขายทำกำไรเมื่อราคาปิดของหุ้นขึ้นถึง 50% จากราคาวันเปิด IPO เมื่อว...

คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม

พี่มาร์ค มิเนอร์วินี กล่าวว่า “หากคุณต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม”

การเป็นนักเทรดที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอไม่ได้หมายถึงการชนะทุกครั้งที่คุณเข้าเทรด แต่หมายถึงการมีวิธีการจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเพื่อให้คุณสามารถปกป้องทุนของคุณและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว 

นี่คือการขยายความแนวคิดที่ว่า "การเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม" สำคัญอย่างไร:


eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด"

มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://t.co/YaO0CIQq8J

1. ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด

ในตลาดการเงิน ไม่มีใครสามารถควบคุมผลลัพธ์ของแต่ละการเทรดได้ การเคลื่อนไหวของตลาดขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ หรือพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาด ซึ่งมักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ความสำเร็จจึงไม่ได้มาจากการ "เดาถูก" แต่เป็นการรู้วิธีจัดการความเสี่ยงเมื่อคุณ "เดาผิด"

ตัวอย่าง:  สมมติว่าคุณมีเงินทุน 100,000 บาท หากคุณใช้เงินทั้งหมดในการเทรดครั้งเดียวแล้วเกิดขาดทุน คุณอาจหมดโอกาสในการกลับมาเทรดอีกครั้ง การจัดการความเสี่ยงช่วยให้คุณยังคงอยู่ในเกมแม้จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น


2. การจำกัดการขาดทุน (Cut Loss)

หนึ่งในหัวใจของการจัดการความเสี่ยงคือการรู้ว่าควรหยุดเมื่อไหร่ การตั้งจุด **Stop Loss** ช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูญเสียเงินทุนในระดับที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้ 

กฎง่ายๆ:* 

- เสี่ยงเพียง 1% ของทุนในแต่ละการเทรด  

- หากทุนของคุณคือ 100,000 บาท ให้ขาดทุนได้ไม่เกิน 1,000 บาทต่อการเทรด  

วิธีนี้ทำให้คุณสามารถเทรดได้หลายครั้งโดยไม่เสี่ยงหมดตัวหากมีการขาดทุนต่อเนื่อง


3. การจัดการขนาดของการเทรด (Position Sizing)

การเลือกขนาดการเทรดที่เหมาะสมคือสิ่งสำคัญมาก ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้เงินมากเกินไปในเทรดหนึ่งครั้ง คุณอาจประสบปัญหาเมื่อตลาดเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของคุณ

คำแนะนำ:  คำนวณขนาดการเทรดโดยอิงจากระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ เช่น หากต้องการเสี่ยงเพียง 1% ของพอร์ตการลงทุน คุณต้องเลือกขนาดการเทรดที่ทำให้การขาดทุนสูงสุดไม่เกินจุดนี้


4. การกระจายความเสี่ยง (Diversification)

อย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงอย่างเดียวหรือเพียงตลาดเดียว การกระจายความเสี่ยงช่วยลดโอกาสที่คุณจะเสียเงินจำนวนมากในครั้งเดียว  

ตัวอย่าง: แทนที่จะเทรดเฉพาะหุ้น ลองเพิ่มตราสารอื่น เช่น ทองคำ ค่าเงิน หรือดัชนี เพื่อให้พอร์ตของคุณมีสมดุล


5. การควบคุมอารมณ์

การจัดการความเสี่ยงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการควบคุมจิตใจและอารมณ์ของคุณ หากคุณรู้สึกกลัวหรือโลภเกินไป คุณอาจตัดสินใจผิดพลาดที่ส่งผลเสียต่อการเทรด

เทคนิค: 

- ใช้แผนการเทรดที่ชัดเจนและทำตามอย่างเคร่งครัด  

- หลีกเลี่ยงการ "ไล่ตามตลาด" (Chasing Trades) เมื่อรู้สึกตื่นเต้นหรือผิดหวัง  


6. มองการเทรดในภาพรวมระยะยาว

การเทรดเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น คุณต้องสร้างระบบที่ช่วยให้คุณอยู่ในตลาดได้นานที่สุด การมีกลยุทธ์จัดการความเสี่ยงที่ดีช่วยให้คุณก้าวข้ามช่วงเวลาที่ตลาดไม่เป็นไปตามใจได้


สรุปการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมคือการรู้จักปกป้องเงินทุนของคุณก่อนเสมอ คุณจะไม่มีวันสร้างกำไรอย่างสม่ำเสมอหากคุณปล่อยให้การขาดทุนครั้งเดียวส่งผลกระทบต่อพอร์ตของคุณในระยะยาว เมื่อคุณสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดี ความมั่นใจและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องก็จะตามมาเอง

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

สรุปรายบทในหนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด

สรุปหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่"

ทำไมคุณเทรดมานาน…แต่ผลลัพธ์ยังไม่ต่างจากวันแรก?

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ