จังหวะพักตัว: พื้นที่แห่งโอกาสของนักสวิงเทรด

"จังหวะพักตัว: พื้นที่แห่งโอกาสของนักสวิงเทรด" สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 ในโลกของการเทรด การเคลื่อนไหวของตลาดไม่ได้มีแต่เส้นทางที่ราบรื่น หลังจากราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง (leg up) ตลาดมักจะเข้าสู่ช่วงพักตัว (pullback) หรือการแกว่งตัวแบบไร้ทิศทางชัดเจน (chop and slop) ซึ่งแม้ว่าจะดูเหมือนช่วงเวลาที่ตลาดไม่มีความแน่นอน แต่นี่คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับนักเทรดสายสวิงที่มีสายตาแหลมคม จังหวะพักตัวคือช่วงเวลาที่ตลาดปรับสมดุล ทดสอบแรงสนับสนุนและแรงต้าน การสังเกตจังหวะนี้อย่างใกล้ชิดช่วยให้นักเทรดมองเห็นรูปแบบที่สามารถนำไปสู่โอกาสการเทรดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อราคาหุ้นหรือสินทรัพย์เคลื่อนไหวสอดคล้องกับดัชนี (index) และอาจนำหน้าดัชนีในบางจุด เคล็ดลับจากยอดนักสวิงเทรดการมองรอบราคาตลาด 1. ดูรอบของดัชนีตลาด (Price Cycle): การทำความเข้าใจว่าดัชนีอยู่ในช่วงไหนของวัฏจักรราคา เช่น ช่วงขาขึ้น ช่วงพักตั...

แนวทางคัดกรองหุ้นจาก 100 ตัว ให้ได้ตัวที่ดีที่สุด 1-3 ตัว

 


ภาพนี้แสดงให้เห็นกระบวนการคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสมสำหรับการเทรด โดยแบ่งเป็นลำดับขั้นตอนจากจำนวนหุ้นที่เยอะมากไปจนถึงการเลือกหุ้นเพียงไม่กี่ตัวเพื่อเข้าเทรดจริง กระบวนการนี้เปรียบเสมือนกรวยที่ช่วยกรองหุ้นจากหลายร้อยตัวให้เหลือแค่ไม่กี่ตัวที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุด

1. ขั้นแรก: คัดกรองหุ้น (100 ตัว)
ที่ด้านบนของกรวย เราเริ่มต้นด้วยการพิจารณาหุ้นจำนวนมาก (ประมาณ 100 ตัว) โดยพิจารณาปัจจัยสำคัญต่างๆ เช่น:
- Momentum: หุ้นที่มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง
- Volatility: หุ้นที่มีความผันผวนพอเหมาะที่ทำให้มีโอกาสทำกำไร
- Liquidity: หุ้นที่มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้โดยไม่ทำให้ราคาขยับมาก
- Linearity: หุ้นที่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางที่ต่อเนื่องและไม่สะเปะสะปะ
- Trend: หุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน
- Fundamentals: พื้นฐานของบริษัท เช่น รายได้และกำไรที่เติบโต
- News: ข่าวที่ส่งผลต่อราคาหุ้น เช่น ข่าวการประกาศผลประกอบการ

เป้าหมายของขั้นตอนนี้คือการเลือกหุ้นที่มีความต้องการสูงและมีเหตุผลที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง

e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook

ขั้นที่สอง: การตั้งค่าและบริบท (20 ตัว)
ในขั้นตอนนี้ เราคัดกรองหุ้นให้เหลือประมาณ 20 ตัว โดยพิจารณาการตั้งค่าทางเทคนิคและบริบทของตลาด เช่น:
- ADXpress และ ADXcellence: การวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของแนวโน้มด้วยตัวชี้วัดทางเทคนิค ADX (Average Directional Index)
- Market Situational Awareness: การทำความเข้าใจสถานการณ์ของตลาดในขณะนั้น เช่น แนวโน้มตลาดโดยรวม หรือสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อการเทรด

นักเทรดต้องมีความตระหนักรู้ในสถานการณ์ของตลาดเพื่อปรับการเทรดให้เหมาะสม และเลือกหุ้นที่มีการตั้งค่าทางเทคนิคที่เอื้อต่อการเทรด

---

ขั้นที่สาม: การขยายตัวของราคาและปริมาณ (5 ตัว)
ในขั้นตอนนี้ เราจะคัดเลือกหุ้นให้เหลือประมาณ 5 ตัว โดยดูจากการขยายตัวของราคาและปริมาณการซื้อขาย (Price/Volume Breakout) ซึ่งหมายถึง:
- Price/Volume Expansion: หุ้นที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาและปริมาณการซื้อขายจากบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวแบบแคบ (contraction area)
- การขยายตัวนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหุ้นอาจกำลังเริ่มแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

---

ขั้นสุดท้าย: การเข้าเทรด (1-3 ตัว)
สุดท้าย เราจะเลือกหุ้นเพียง 1-3 ตัวสำหรับการเข้าเทรดจริง ขั้นตอนนี้เน้นการคัดหุ้นที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุดและสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดี การเลือกหุ้นจำนวนน้อยช่วยให้นักเทรดสามารถโฟกัสกับการจัดการการเทรดและติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สรุปความสำคัญของกระบวนการนี้
- กระบวนการนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพสูงสุดจากจำนวนมาก โดยใช้ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคเพื่อให้แน่ใจว่าหุ้นที่เลือกมีโอกาสทำกำไรในระยะสั้นและระยะยาว
- การลดจำนวนหุ้นจาก 100 ตัวเหลือเพียง 1-3 ตัวช่วยลดความซับซ้อนและความเสี่ยงในการบริหารพอร์ตโฟลิโอ
- การรอจังหวะที่เหมาะสมและการเทรดอย่างมีวินัยเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเทรด


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)