7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) สำหรับนักเทรด

Image
7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) จากหนังสือของ Stephen R. Covey ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเทรดได้เป็นอย่างดีครับ 1. เป็นฝ่ายรุก (Be Proactive) 🔹 แนวคิด: จงมุ่งเน้นไปที่ สิ่งที่คุณควบคุมได้ (Circle of Influence) แทนที่จะกังวลกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม 🔹 สำหรับนักเทรด: - ตลาดจะเคลื่อนที่อย่างที่มันเป็น เราควบคุมตลาดไม่ได้ แต่เราควบคุมวิธีตอบสนองของเราได้ - แทนที่จะโทษตลาด โบรกเกอร์ หรือข่าว จงพัฒนาทักษะของตัวเอง บริหารความเสี่ยงให้ดี และมีแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ - ฝึกฝนวินัยและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวครอบงำ . 2. เริ่มต้นโดยมีเป้าหมายในใจ (Begin with the End in Mind) 🔹 แนวคิด: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วาดภาพความสำเร็จของตัวเอง 🔹 สำหรับนักเทรด: - ถามตัวเองว่า "ฉันอยากเป็นเทรดเดอร์แบบไหน?" - กำหนดเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม เช่น "ฉันต้องการกำไร 10% ต่อเดือนโดยมี Drawdown ต่ำกว่า 5%" - เขียนแผนการเทรด ให้ชัดเจน และยึดมั่นในแผนของคุณ . 3. ทำสิ่งที่สำคัญก่อน (First Things First...

ทำไมทั้ง ๆ ที่ "การเทรดเป็นระบบ" เป็นเรื่องที่ดีต่อ "ความสำเร็จในการเทรด" แต่นักเทรด 90% ทำตามไม่ได้

"ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่" : Ebook ลดราคา 20% ครับ ที่แอพ MEB https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNDk4Njt9


การเทรดเป็นระบบ (Systematic Trading) เป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จในการเทรด เนื่องจากมันช่วยลดความไม่แน่นอนและอารมณ์ที่มักส่งผลเสียต่อการตัดสินใจ แต่ในความเป็นจริง นักเทรดจำนวนมากไม่สามารถทำตามระบบได้ หรือบางคนไม่มีระบบเลย สาเหตุของปัญหานี้และเหตุผลที่การเทรดเป็นระบบสำคัญ สามารถอธิบายได้ดังนี้:



ทำไมการเทรดเป็นระบบจึงดีต่อความสำเร็จ

1. ลดอารมณ์ในการตัดสินใจ  

   ระบบเทรดที่ดีจะมีกฎชัดเจนเกี่ยวกับการเข้า-ออกออเดอร์ การจัดการความเสี่ยง และการทำกำไร สิ่งนี้ช่วยลดความโลภและความกลัว ซึ่งเป็นอารมณ์ที่ทำลายการเทรด


2. สร้างความสม่ำเสมอ  

   การมีระบบทำให้คุณตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและแผนที่วางไว้ แทนที่จะเปลี่ยนวิธีการเทรดทุกครั้งที่ตลาดเปลี่ยนแปลง


3. สามารถวัดผลและปรับปรุงได้  

   ระบบช่วยให้คุณสามารถบันทึกและวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อพัฒนาการเทรดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ


4. บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น

   ระบบมักรวมถึงการกำหนด Stop Loss และ Take Profit ชัดเจน ซึ่งช่วยควบคุมการขาดทุนและปกป้องกำไร


5. เพิ่มโอกาสทำกำไรระยะยาว 

   แม้จะมีการขาดทุนบ้าง แต่การเทรดตามระบบที่ได้รับการทดสอบแล้วช่วยให้คุณมีกำไรที่มั่นคงในระยะยาว


ทำไมนักเทรด 90% ทำตามระบบไม่ได้

1. ขาดวินัย  

   การทำตามระบบต้องใช้วินัยอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นักเทรดมักจะละเมิดกฎ เช่น ปรับ Stop Loss หรือออกจากออเดอร์ก่อนเวลาเพราะความกังวล


2. ไม่มีความเชื่อมั่นในระบบ  

   หลายคนสร้างระบบขึ้นมาแต่ไม่ได้ทดสอบ หรือฝึกฝนเพียงพอ จึงไม่มั่นใจว่าระบบจะทำงานได้จริงในสถานการณ์ที่ตลาดเปลี่ยนแปลง


3. อารมณ์มีบทบาทสำคัญเกินไป  

   เมื่อเผชิญกับการขาดทุนต่อเนื่องหรือกำไรที่ยังไม่ถึงเป้าหมาย นักเทรดมักปล่อยให้อารมณ์เข้ามาควบคุม เช่น การเพิ่มขนาดออเดอร์เพื่อ "เอาคืน" หรือหยุดเทรดเพราะความกลัว


4. ขาดการจัดการความเสี่ยง  

   นักเทรดบางคนไม่รวมเรื่องการบริหารเงิน เข้าไว้ในระบบ เช่น การกำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อออเดอร์ ทำให้เมื่อเกิดการขาดทุน พอร์ตได้รับผลกระทบรุนแรงจนพวกเขาหยุดทำตามระบบ


5. คาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป  

   นักเทรดส่วนใหญ่อยากเห็นกำไรทันที แต่ระบบเทรดมักต้องใช้เวลาในการแสดงผลในระยะยาว เมื่อไม่ได้ผลลัพธ์ทันใจ พวกเขามักจะละทิ้งระบบ


6. เปลี่ยนแปลงระบบบ่อยเกินไป  

   ความไม่อดทนทำให้นักเทรดเปลี่ยนระบบหลังจากเผชิญกับการขาดทุนเล็กน้อย ทั้งที่ในความจริง ระบบที่ดีต้องเผชิญกับการขาดทุนเป็นเรื่องปกติ


ตัวอย่างสถานการณ์: ทำไมระบบถูกละเลย

สถานการณ์: คุณสร้างระบบที่ให้สัญญาณซื้อขายชัดเจน แต่หลังจากการขาดทุน 3 ครั้งติดกัน คุณเริ่มสงสัยในระบบ และครั้งถัดมา เลือกไม่ทำตามสัญญาณระบบ ผลปรากฏว่าตลาดเคลื่อนไหวตามระบบที่คุณไม่ทำตาม และคุณเสียโอกาสทำกำไรใหญ่


นี่คือผลของการขาดวินัยและความเชื่อมั่นในระบบ ที่เกิดจากการไม่เข้าใจธรรมชาติของการขาดทุนในระบบที่ดี


วิธีแก้ไข: ทำให้การเทรดตามระบบเป็นนิสัย

1. ทดสอบระบบให้มั่นใจ  

   ใช้การ Backtest และ Forward Test เพื่อดูว่าสมรรถภาพของระบบในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นอย่างไร และมั่นใจว่าสอดคล้องกับเป้าหมายการเทรด


2. สร้างแผนการเทรด  

   เขียนแผนเทรดที่ระบุชัดเจนว่า:

   - คุณจะเข้าเทรดเมื่อไร

   - คุณจะจัดการความเสี่ยงอย่างไร

   - คุณจะออกจากออเดอร์เมื่อไร


3. ฝึกวินัยในการปฏิบัติตามระบบ  

   ใช้บัญชีทดลอง เพื่อฝึกทำตามระบบอย่างเคร่งครัดก่อนลงเงินจริง


4. ทำความเข้าใจกับการขาดทุน  

   การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด แม้ระบบที่ดีที่สุดก็ยังขาดทุนได้บ้าง การเข้าใจธรรมชาติของการขาดทุนจะช่วยลดความกังวลและไม่ละทิ้งระบบง่าย ๆ


5. ใช้บันทึกการเทรด  

   บันทึกทุกการเทรดเพื่อวิเคราะห์ว่าเมื่อไรคุณละเมิดระบบ และผลลัพธ์เป็นอย่างไร


6. ตั้งเป้าหมายระยะยาว  

   มองภาพใหญ่ของผลลัพธ์ระยะยาวแทนที่จะตัดสินระบบจากการเทรดไม่กี่ครั้ง


แรงบันดาลใจสำหรับนักเทรด

"ระบบที่ดีคือเครื่องมือของคุณ แต่วินัยคือพลังที่ขับเคลื่อนมัน"  

การเทรดตามระบบต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจในธรรมชาติของตลาด แต่หากคุณยึดมั่นและพัฒนาตัวเอง ระบบเทรดจะกลายเป็นพันธมิตรที่พาคุณไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว


นักเทรด 90% อาจล้มเหลว แต่คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ 10% ที่ประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่คุณเลือกที่จะปฏิบัติตามระบบด้วยความมุ่งมั่นและวินัยที่ไม่สั่นคลอน!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

VCP หรือ Volatility Contraction Pattern

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

คุณต้องลงสนามเทรดจริง ถึงจะเข้าใจการเทรดอย่างแท้จริงได้