จังหวะพักตัว: พื้นที่แห่งโอกาสของนักสวิงเทรด

"จังหวะพักตัว: พื้นที่แห่งโอกาสของนักสวิงเทรด" สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 ในโลกของการเทรด การเคลื่อนไหวของตลาดไม่ได้มีแต่เส้นทางที่ราบรื่น หลังจากราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง (leg up) ตลาดมักจะเข้าสู่ช่วงพักตัว (pullback) หรือการแกว่งตัวแบบไร้ทิศทางชัดเจน (chop and slop) ซึ่งแม้ว่าจะดูเหมือนช่วงเวลาที่ตลาดไม่มีความแน่นอน แต่นี่คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับนักเทรดสายสวิงที่มีสายตาแหลมคม จังหวะพักตัวคือช่วงเวลาที่ตลาดปรับสมดุล ทดสอบแรงสนับสนุนและแรงต้าน การสังเกตจังหวะนี้อย่างใกล้ชิดช่วยให้นักเทรดมองเห็นรูปแบบที่สามารถนำไปสู่โอกาสการเทรดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อราคาหุ้นหรือสินทรัพย์เคลื่อนไหวสอดคล้องกับดัชนี (index) และอาจนำหน้าดัชนีในบางจุด เคล็ดลับจากยอดนักสวิงเทรดการมองรอบราคาตลาด 1. ดูรอบของดัชนีตลาด (Price Cycle): การทำความเข้าใจว่าดัชนีอยู่ในช่วงไหนของวัฏจักรราคา เช่น ช่วงขาขึ้น ช่วงพักตั...

ทำไมทั้ง ๆ ที่ "การเทรดเป็นระบบ" เป็นเรื่องที่ดีต่อ "ความสำเร็จในการเทรด" แต่นักเทรด 90% ทำตามไม่ได้

"ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่" : Ebook ลดราคา 20% ครับ ที่แอพ MEB https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNDk4Njt9


การเทรดเป็นระบบ (Systematic Trading) เป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จในการเทรด เนื่องจากมันช่วยลดความไม่แน่นอนและอารมณ์ที่มักส่งผลเสียต่อการตัดสินใจ แต่ในความเป็นจริง นักเทรดจำนวนมากไม่สามารถทำตามระบบได้ หรือบางคนไม่มีระบบเลย สาเหตุของปัญหานี้และเหตุผลที่การเทรดเป็นระบบสำคัญ สามารถอธิบายได้ดังนี้:



ทำไมการเทรดเป็นระบบจึงดีต่อความสำเร็จ

1. ลดอารมณ์ในการตัดสินใจ  

   ระบบเทรดที่ดีจะมีกฎชัดเจนเกี่ยวกับการเข้า-ออกออเดอร์ การจัดการความเสี่ยง และการทำกำไร สิ่งนี้ช่วยลดความโลภและความกลัว ซึ่งเป็นอารมณ์ที่ทำลายการเทรด


2. สร้างความสม่ำเสมอ  

   การมีระบบทำให้คุณตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและแผนที่วางไว้ แทนที่จะเปลี่ยนวิธีการเทรดทุกครั้งที่ตลาดเปลี่ยนแปลง


3. สามารถวัดผลและปรับปรุงได้  

   ระบบช่วยให้คุณสามารถบันทึกและวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อพัฒนาการเทรดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ


4. บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น

   ระบบมักรวมถึงการกำหนด Stop Loss และ Take Profit ชัดเจน ซึ่งช่วยควบคุมการขาดทุนและปกป้องกำไร


5. เพิ่มโอกาสทำกำไรระยะยาว 

   แม้จะมีการขาดทุนบ้าง แต่การเทรดตามระบบที่ได้รับการทดสอบแล้วช่วยให้คุณมีกำไรที่มั่นคงในระยะยาว


ทำไมนักเทรด 90% ทำตามระบบไม่ได้

1. ขาดวินัย  

   การทำตามระบบต้องใช้วินัยอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นักเทรดมักจะละเมิดกฎ เช่น ปรับ Stop Loss หรือออกจากออเดอร์ก่อนเวลาเพราะความกังวล


2. ไม่มีความเชื่อมั่นในระบบ  

   หลายคนสร้างระบบขึ้นมาแต่ไม่ได้ทดสอบ หรือฝึกฝนเพียงพอ จึงไม่มั่นใจว่าระบบจะทำงานได้จริงในสถานการณ์ที่ตลาดเปลี่ยนแปลง


3. อารมณ์มีบทบาทสำคัญเกินไป  

   เมื่อเผชิญกับการขาดทุนต่อเนื่องหรือกำไรที่ยังไม่ถึงเป้าหมาย นักเทรดมักปล่อยให้อารมณ์เข้ามาควบคุม เช่น การเพิ่มขนาดออเดอร์เพื่อ "เอาคืน" หรือหยุดเทรดเพราะความกลัว


4. ขาดการจัดการความเสี่ยง  

   นักเทรดบางคนไม่รวมเรื่องการบริหารเงิน เข้าไว้ในระบบ เช่น การกำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อออเดอร์ ทำให้เมื่อเกิดการขาดทุน พอร์ตได้รับผลกระทบรุนแรงจนพวกเขาหยุดทำตามระบบ


5. คาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป  

   นักเทรดส่วนใหญ่อยากเห็นกำไรทันที แต่ระบบเทรดมักต้องใช้เวลาในการแสดงผลในระยะยาว เมื่อไม่ได้ผลลัพธ์ทันใจ พวกเขามักจะละทิ้งระบบ


6. เปลี่ยนแปลงระบบบ่อยเกินไป  

   ความไม่อดทนทำให้นักเทรดเปลี่ยนระบบหลังจากเผชิญกับการขาดทุนเล็กน้อย ทั้งที่ในความจริง ระบบที่ดีต้องเผชิญกับการขาดทุนเป็นเรื่องปกติ


ตัวอย่างสถานการณ์: ทำไมระบบถูกละเลย

สถานการณ์: คุณสร้างระบบที่ให้สัญญาณซื้อขายชัดเจน แต่หลังจากการขาดทุน 3 ครั้งติดกัน คุณเริ่มสงสัยในระบบ และครั้งถัดมา เลือกไม่ทำตามสัญญาณระบบ ผลปรากฏว่าตลาดเคลื่อนไหวตามระบบที่คุณไม่ทำตาม และคุณเสียโอกาสทำกำไรใหญ่


นี่คือผลของการขาดวินัยและความเชื่อมั่นในระบบ ที่เกิดจากการไม่เข้าใจธรรมชาติของการขาดทุนในระบบที่ดี


วิธีแก้ไข: ทำให้การเทรดตามระบบเป็นนิสัย

1. ทดสอบระบบให้มั่นใจ  

   ใช้การ Backtest และ Forward Test เพื่อดูว่าสมรรถภาพของระบบในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นอย่างไร และมั่นใจว่าสอดคล้องกับเป้าหมายการเทรด


2. สร้างแผนการเทรด  

   เขียนแผนเทรดที่ระบุชัดเจนว่า:

   - คุณจะเข้าเทรดเมื่อไร

   - คุณจะจัดการความเสี่ยงอย่างไร

   - คุณจะออกจากออเดอร์เมื่อไร


3. ฝึกวินัยในการปฏิบัติตามระบบ  

   ใช้บัญชีทดลอง เพื่อฝึกทำตามระบบอย่างเคร่งครัดก่อนลงเงินจริง


4. ทำความเข้าใจกับการขาดทุน  

   การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด แม้ระบบที่ดีที่สุดก็ยังขาดทุนได้บ้าง การเข้าใจธรรมชาติของการขาดทุนจะช่วยลดความกังวลและไม่ละทิ้งระบบง่าย ๆ


5. ใช้บันทึกการเทรด  

   บันทึกทุกการเทรดเพื่อวิเคราะห์ว่าเมื่อไรคุณละเมิดระบบ และผลลัพธ์เป็นอย่างไร


6. ตั้งเป้าหมายระยะยาว  

   มองภาพใหญ่ของผลลัพธ์ระยะยาวแทนที่จะตัดสินระบบจากการเทรดไม่กี่ครั้ง


แรงบันดาลใจสำหรับนักเทรด

"ระบบที่ดีคือเครื่องมือของคุณ แต่วินัยคือพลังที่ขับเคลื่อนมัน"  

การเทรดตามระบบต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจในธรรมชาติของตลาด แต่หากคุณยึดมั่นและพัฒนาตัวเอง ระบบเทรดจะกลายเป็นพันธมิตรที่พาคุณไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว


นักเทรด 90% อาจล้มเหลว แต่คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ 10% ที่ประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่คุณเลือกที่จะปฏิบัติตามระบบด้วยความมุ่งมั่นและวินัยที่ไม่สั่นคลอน!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)