Drawdown กับ จุดประสงค์ของการลงทุนและการเทรด
- Get link
- X
- Other Apps
จุดประสงค์ของการลงทุนและการเทรด ในมุมมองของปู่ปีเตอร์ แบรนดท์
"จุดประสงค์ของการลงทุนคือการสร้างความมั่งคั่ง
แต่จุดประสงค์ของการเทรดแบบแอคทีฟขึ้นไปอีกคือ (a) เพื่อสร้างความมั่งคั่ง และ (b) เพื่อสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
การขาดทุนหนัก (Drawdowns) บังคับให้นักเทรดต้องทำเงินก้อนเดิมซ้ำไปซ้ำมา - ซึ่งเป็นเรื่องไม่ฉลาดเลย
ดังนั้นการจำกัดการขาดทุนหนักเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเทรด"
การลงทุนและการเทรดอาจดูคล้ายกัน เพราะมีเป้าหมายหลักที่เหมือนกันคือ การสร้างความมั่งคั่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว แต่ละวิธีมีวัตถุประสงค์และวิธีการที่แตกต่างกันไป:
1. การลงทุน: การลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น, กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เป็นการถือครองสินทรัพย์ไว้เพื่อให้มูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยที่นักลงทุนไม่จำเป็นต้องซื้อขายบ่อย ๆ
2. การเทรด: การเทรดเป็นการทำกำไรระยะสั้น โดยมีเป้าหมายหลักสองอย่างคือ
- สร้างความมั่งคั่ง ผ่านการทำกำไรในแต่ละการเทรด
- สร้างกระแสรายได้ต่อเนื่อง จากการทำกำไรสม่ำเสมอในระยะสั้น
นักเทรดจะต้องทำการซื้อขายบ่อยครั้งเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาทุนและผลกำไรที่ทำได้ไว้
Drawdowns หรือการขาดทุนชั่วคราว
Drawdown หมายถึงการลดลงของมูลค่าพอร์ตการลงทุนหรือพอร์ตการเทรดจากระดับสูงสุด เช่น หากพอร์ตมีมูลค่าที่สูงสุดที่ 100,000 บาท และลดลงมาเหลือ 90,000 บาท นั่นคือการขาดทุนชั่วคราวหรือ Drawdown ที่ 10%
การขาดทุนชั่วคราวส่งผลให้เทรดเดอร์ต้องทำกำไรกลับมาเท่าจำนวนที่ขาดทุนไป ซึ่งในระยะยาวอาจจะทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสในการทำกำไรใหม่ ๆ ทำให้นักเทรดหลายคนมองว่าเป็น “ความผิดพลาด” หรือ Foolish เพราะพอร์ตที่ขาดทุนย่อมต้องการกำไรที่สูงขึ้นเพื่อให้กลับมาที่จุดเดิม
วิธีการจำกัด Drawdown เพื่อบรรลุเป้าหมายการเทรด
หากคุณต้องการบรรลุเป้าหมายการเทรด เช่น การสร้างกระแสรายได้ต่อเนื่องและความมั่งคั่งในระยะยาว การจำกัด Drawdown จึงเป็นสิ่งสำคัญ เทคนิคในการบริหารจัดการ Drawdown มีดังนี้:
1. กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) – การตั้ง Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนให้ไม่เกินระดับที่คุณรับไหว นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้พอร์ตได้รับผลกระทบจากการขาดทุนหนัก
2. อย่าใช้เลเวอเรจสูงเกินไป – การใช้เลเวอเรจทำให้คุณสามารถทำกำไรได้มากขึ้น แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะแพ้เช่นกัน ควรใช้เลเวอเรจในระดับที่เหมาะสมและอยู่ในขอบเขตที่คุณสามารถจัดการได้
3. กระจายความเสี่ยง – การกระจายพอร์ตการเทรดไปในสินทรัพย์ที่หลากหลายช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิด Drawdown หนักหากสินทรัพย์ตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา
4. ใช้กลยุทธ์การจัดการเงินทุน (Money Management) – ควรกำหนดขนาดการลงทุนในแต่ละการเทรดให้เหมาะสมกับขนาดของพอร์ต และไม่ควรเสี่ยงมากเกินไปในแต่ละคำสั่งซื้อขาย
การจำกัด Drawdown อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสามารถรักษากำไรและรักษาพอร์ตของคุณในระยะยาว
- Get link
- X
- Other Apps