การเทรดคือสงครามกับ “ตัวเราเวอร์ชันใจร้อน”

Image
การเทรดคือสงครามกับ “ตัวเราเวอร์ชันใจร้อน” สรุปจาก  https://x.com/i/status/1998937895151820931 หลายคนคิดว่าการเทรดคือการเอาชนะตลาด แต่ความจริงแล้ว ศัตรูตัวจริงอยู่ในตัวเราเอง—ตัวเราที่อยากได้ผลลัพธ์เดี๋ยวนี้ อยากชนะตอนนี้ อยากรู้สึกว่าตัวเอง “ถูก” ทันที และตัวตนแบบนั้นนี่แหละ ที่ทำให้บัญชีพัง ไม่ใช่ตลาด นักเทรดส่วนใหญ่ไม่ได้แพ้เพราะระบบไม่ดี แต่แพ้เพราะ “รีบ” รีบเข้า เพราะกลัวพลาด รีบแก้มือ เพราะอารมณ์นำ รีบปิดกำไร เพราะกลัวโดนกินคืน และรีบถือขาดทุน เพราะ “หวัง” ว่ามันจะกลับมา นี่ไม่ใช่ปัญหาของกลยุทธ์ แต่มันคือปัญหาของจิตใจ --- พฤติกรรมศัตรูในตัวเรามีหน้าตาแบบนี้ - เห็นกราฟกำลังจะสวย ก็เข้าเร็วเกินเหตุ - เบื่อแล้วกดสุ่ม - ขาดทุนนิดเดียว ก็เพิ่มล็อตเพื่อเอาคืน - ไล่ราคา - ปิดกำไรเร็วเพราะกลัว - ปล่อยขาดทุนเพราะ “หวัง” ทั้งหมดนี้คือสัญญาณว่าร่างกายกำลังควบคุมมือคุณ ไม่ใช่สมอง --- เครื่องมือที่ช่วยให้คุณเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้น 1. หยุด 10 วินาทีก่อนกดคำสั่ง ถามตัวเองหนึ่งคำถามง่าย ๆ “ฉันกำลังทำตามระบบอยู่ไหม?” ถ้าไม่ใช่—ไม่ต้องเทรด กฎนี้ช่วยรักษาบัญชีมากกว่าที่คุณคิด 2. จำกัดจำนวนเทรดต่...

ความกลัวการขาดทุน: ศัตรูตัวฉกาจของนักเทรด

ความกลัวการขาดทุน: ศัตรูตัวฉกาจของนักเทรด

สำหรับนักเทรดมือใหม่ การกลัวการขาดทุนจากการเทรดอาจเป็นความกลัวที่ใหญ่ที่สุด เพราะมันสามารถทำให้คุณไม่กล้าตัดสินใจ หรือแย่กว่านั้น อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดเพราะความกังวล แต่คุณรู้ไหมว่า คุณสามารถจัดการกับความกลัวนี้ได้ผ่านการวางแผนที่ดีและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม?  


การบริหารความเสี่ยงและการจัดการขนาดการลงทุน (Position Sizing) เป็นเหมือนโล่ป้องกันตัวของนักเทรด เมื่อคุณจัดสรรเงินลงทุนในแต่ละการเทรดอย่างเหมาะสม และกำหนดขอบเขตความเสี่ยงที่คุณรับได้ คุณจะไม่รู้สึกกดดันหรือกลัวผลลัพธ์มากเกินไป แม้ว่าจะเกิดการขาดทุนจริงๆ เพราะคุณได้เตรียมใจและวางแผนรองรับไว้แล้ว

eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด"

มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340


วิธีทำให้นักเทรดมือใหม่มีความมั่นใจมากขึ้น

1. กำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ต่อการเทรด (Risk per Trade):  

   อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณจะยอมเสียได้ หากคุณกำหนดความเสี่ยงไว้ที่ 1% ของพอร์ตในแต่ละการเทรด คุณจะยังคงมีทุนเหลือพอที่จะเดินหน้าต่อไปได้ แม้จะเจอการขาดทุนติดๆ กันหลายครั้ง


Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook 

 https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087

2. ใช้การจัดการขนาดการลงทุน (Position Sizing):  

   คำนวณจำนวนหน่วย (หุ้น, ล็อต, หรือสัญญา) ที่จะซื้อหรือขายให้เหมาะสมกับขนาดพอร์ตและระดับความเสี่ยงที่ตั้งไว้ เช่น หากคุณมีพอร์ต 100,000 บาท และกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดไว้ที่ 1% (1,000 บาท) คุณควรเลือกขนาดการลงทุนที่ขาดทุนสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท


3. ตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss):  

   กำหนดจุดที่คุณจะยอมรับความพ่ายแพ้ในแต่ละการเทรด หากราคาตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การมี Stop Loss จะช่วยป้องกันไม่ให้ขาดทุนเกินควบคุม

e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook

4. ฝึกฝนจิตใจ (Mental Discipline):  

   อย่าลืมว่าความกลัวเป็นเพียงความรู้สึกที่มักเกิดจากการขาดความมั่นใจ การฝึกฝนและทบทวนแผนการเทรดจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นคงและพร้อมเผชิญหน้ากับตลาดได้มากขึ้น


แรงบันดาลใจสำหรับนักเทรด

ตลาดเป็นเหมือนสนามแห่งโอกาส คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้ง แค่ชนะในภาพรวมของเกมเท่านั้น การแพ้ในบางครั้งไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นบทเรียนสำคัญที่จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น ลองถามตัวเองว่า:  

“ถ้าฉันไม่ปล่อยให้ความกลัวมาขวางทาง ฉันจะเป็นนักเทรดแบบไหน?”

จำไว้ว่า ทุกครั้งที่คุณเผชิญหน้ากับตลาดด้วยแผนที่ดีและความมั่นใจ คุณไม่ได้แค่เอาชนะตลาด แต่คุณกำลังเอาชนะความกลัวในตัวเองด้วย!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?