Memory–Centric AI: เมื่อ “หน่วยความจำ” กลายเป็นคอขวดใหม่ของโลก AI

Image
Memory–Centric AI: เมื่อ “หน่วยความจำ” กลายเป็นคอขวดใหม่ของโลก AI สรุปจาก  https://x.com/wey_how12640/status/1990249851788136559?s=20 ก่อนหน้านี้ทุกคนพูดถึง GPU แต่ตอนนี้…สิ่งที่ขาดไม่แพ้กันคือ หน่วยความจำระดับสูง (HBM / NAND) และนี่คือเหตุผลที่ทำให้หุ้นอย่าง $SNDK และ $MU เริ่มโดดเด่นขึ้นมา แม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับคู่แข่ง แต่ “พฤติกรรมราคา” กลับให้ภาพที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ 🧭 มุมมองรวม: Cyclical หรือ Structural? ในรอบที่ผ่านมา ราคาของบริษัทกลุ่มหน่วยความจำขึ้น—แต่คำถามสำคัญคือ นี่คือ “รอบวัฏจักร” ที่ขึ้นตามปกติ? หรือนี่คือ “โครงสร้างใหม่” ของอุตสาหกรรมที่ถูกเปลี่ยนโดย AI? หรืออาจเป็น “Super Cycle” ที่แรงกว่าที่เคย? หรือเป็น “Super Bubble” ที่นักเทรดต้องระวัง? คำตอบไม่มีใครรู้ล่วงหน้า แต่…ราคาคือสิ่งที่สะท้อนความจริงที่สุดในเวลานั้น และตอนนี้ ราคา $SNDK และ $MU ยืนเหนือ 10SMA ได้ ในขณะที่หุ้นกลุ่มเดียวกันหลายตัวอ่อนแรงกว่าอย่างชัดเจน 1️⃣ $SNDK – การเล่นกับอนาคตของ NAND + HBF ✔ จุดเด่นด้านราคา ยืนเหนือ 10SMA ความแข็งแกร่งเชิง Relative Strength เหนือหุ้นเพื่อนบ้านในอุตสาหกรรม...

หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit

สนับสนุนโดย คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา

ติดต่อสมัครที่:  https://m.me/zyoit

คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา



ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ

การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven)

วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน


---


วินัยและระบบอัตโนมัติ

การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น


ขาย ⅓ ที่ 2R

ขายอีก ⅓ ที่ 5R


วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว



---


หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes)

ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน


ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA)


สรุป: ใช้ระบบขายบางส่วนที่ 2R และ 5R + บริหารตาม 10-WMA รายสัปดาห์ ช่วยให้ได้อัตราส่วนกำไรต่อความเสี่ยง (R:R) ที่ดีขึ้นตั้งแต่เริ่ม, สามารถเปิดไม้ใหญ่ขึ้น และมีโอกาสเก็บเทรนด์ใหญ่เมื่อการเทรดยืนยันแล้ว



---


SELLING PROCESS (กระบวนการขาย)


Stop Loss

จุดตัดขาดทุนเริ่มต้น (รายวัน): ใช้โครงสร้างค่าเฉลี่ย 21 วัน (21-DMA/21-EMA Low Band) ตราบใดที่ราคาปิดรายวันยังอยู่เหนือโครงสร้างนี้ก็ถือว่า Stop ยังไม่โดน


หลังจากขายบางส่วนที่ 2R: ย้าย Stop ไปดูกราฟรายสัปดาห์ (10-WMA) ถ้าปิดสัปดาห์หลุด = ออกการเทรด

วิธีนี้ช่วยเปิดโอกาสเก็บเทรนด์ใหญ่หลายเดือน โดยที่ความเสี่ยงถูกลดไปแล้ว


ใช้ Soft Stop หมายถึงไม่ตั้งคำสั่ง Stop แข็งกับโบรก แต่จะออกเองเมื่อเห็นการปิดแท่งที่ผิดเงื่อนไข




---

Partial Selling (ขายบางส่วนตาม R)

ที่ 2R: ขาย ⅓

ที่ 5R: ขายอีก ⅓

ส่วนสุดท้าย (Runner): ถือจนกว่า 10-WMA หลุดบนกราฟสัปดาห์




---

“R” คืออะไร และคำนวณอย่างไร

R = ความเสี่ยงเริ่มต้นต่อหุ้น


สูตร:

Long: Entry – Initial Stop

2R Target = Entry + 2R

5R Target = Entry + 5R


ตัวอย่าง

เข้า $100, Stop ที่ $95 → R = $5

2R = $100 + (2×$5) = $110 → ขาย ⅓

5R = $100 + (5×$5) = $125 → ขายอีก ⅓

ส่วนสุดท้ายถือจนกว่า 10-WMA สัปดาห์จะหลุด


---


👉 สรุปสั้นๆ:

นี่คือระบบที่ชัดเจนในการขายบางส่วน เพื่อ “ลดความเสี่ยง + เก็บกำไรบางส่วน + เปิดโอกาสให้เทรนด์ใหญ่” โดยใช้ R-multiples และค่าเฉลี่ย 10-WMA เป็นเครื่องมือนำทาง

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น