แนวทางหาหุ้นผู้นำ เมื่อตลาดเริ่มฟื้นจากขาลง

Image
ถ้าคุณกำลังลำบากในการหาหุ้นดีๆ ช่วงตลาดหมีเพิ่งฟื้นตัว ลองพิจารณาไอเดียเหล่านี้ดู (แปลและขยายความจากคำแนะนำของ Leif Soreide; แชมป์การลงทุนในสหรัฐฯ ปี 2019) 1. ในช่วงที่ตลาดผันผวนและไม่แน่นอน เม็ดเงินมักไหลเข้าสู่หุ้นที่ “ปลอดภัย” และ “สภาพคล่องสูง” นักลงทุนจำนวนมากจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยเลือกซื้อหุ้นใหญ่ หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูง หรือที่เรียกว่า “หุ้นผู้นำ” เพราะสามารถเข้า-ออกได้ง่าย ไม่ติดดอยง่าย . ดังนั้น: เวลาตลาดยังไม่แน่นอน อย่าเพิ่งไปเสี่ยงกับหุ้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูง เพราะถ้าหลุดแนวรับหรือไม่มีแรงซื้อ คุณอาจขายออกไม่ได้ หรือขายแล้วขาดทุนหนัก การเลือกหุ้นที่ “คนอื่นก็สนใจ” หรือมี “กองทุนใหญ่เข้า” มักจะปลอดภัยกว่า . . 2. อย่าไปหลงกับหุ้นตัวเล็กที่ดูเหมือนตั้งท่าจะพุ่ง แม้จะมีรูปแบบกราฟ “สมบูรณ์แบบ” ก็ตาม อย่าไว้ใจแค่เพียงกราฟดูสวย หรือมีสัญญาณเทคนิคดี หากหุ้นนั้นไม่มีสภาพคล่อง . ด้วยเหตุนี้: หุ้นบางตัวอาจจะดูเหมือนพร้อมจะพุ่งแรง เช่น เบรกขึ้นจากฐาน หรือทำ new high แต่ถ้าไม่มีปริมาณการซื้อขายรองรับ (volume บางๆ) หรือมันเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ มันจะกลายเป็นกับดัก เพ...

Position sizing ที่ดี ช่วยลดปัญหา Trading psychology ได้แทบทั้งหมด

Steve Burns พูดได้น่าสนใจว่า "ส่วนใหญ่ของปัญหาด้านจิตวิทยาการเทรดสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดขนาดของการเทรดลง และเฝ้าดูกราฟเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับสัญญาณที่คุณใช้ ไม่ใช่การดูกราฟทั้งวัน"


Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง
  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087


หมายความว่าไง:

1. ปัญหาด้านจิตวิทยาในการเทรดคืออะไร?

เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ ความเครียด หรือความกังวล ที่อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด เช่น ขายเร็วเกินไป ซื้อเพิ่มโดยไม่ไตร่ตรอง หรือไม่กล้าปิดขาดทุน


2. ทำไมการลดขนาดการเทรดถึงช่วยได้?

ถ้าคุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ เช่น ใช้เงินจำนวนมากหรือเลเวอเรจสูง คุณจะรู้สึกกดดัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาอาจทำให้คุณขาดทุนหรือกำไรมาก

แต่ถ้าคุณลดขนาดการเทรดลง เช่น ใช้เงินหรือเลเวอเรจน้อยลง คุณจะควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะแรงกดดันลดลง และมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้น


3. การดูกราฟตลอดทั้งวันมีผลเสียอย่างไร?

การจ้องกราฟนานเกินไปอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ รวมถึงสร้างความกังวลเกินเหตุ

ยิ่งคุณดูกราฟบ่อยเท่าไหร่ คุณอาจรู้สึกอยาก "เทรดตามอารมณ์" เช่น เห็นราคาขึ้นก็รีบซื้อ เห็นราคาลงก็รีบขาย โดยไม่อิงกับแผนที่วางไว้


e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook


4. แล้วควรทำอย่างไร?

ตั้งเวลาในการดูกราฟให้ชัดเจน เช่น ดูเฉพาะช่วงที่กราฟมีโอกาสส่งสัญญาณการเข้า/ออก เช่น ทุกชั่วโมง หรือแค่ช่วงปิดตลาด

ใช้แผนการเทรดที่คุณกำหนดไว้ เช่น รอสัญญาณที่ชัดเจนจากเครื่องมือ เช่น MACD, RSI หรือกราฟแท่งเทียน แล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ใช่ดูกราฟแล้วเทรดตามอารมณ์


5. ประโยชน์ของการทำตามนี้:

- ช่วยลดความเครียดและการตัดสินใจผิดพลาด

- ทำให้คุณมีเวลาโฟกัสกับเรื่องอื่นในชีวิต เช่น การศึกษาเพิ่มเติม การพักผ่อน หรือวางแผนเทรด

- ส่งเสริมการเทรดที่มีวินัยและยั่งยืนในระยะยาว

eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด"

มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340

สรุปง่าย ๆ: ลดขนาดการเทรดเพื่อไม่ให้กดดันตัวเอง และอย่าจ้องกราฟทั้งวัน เลือกดูเฉพาะช่วงที่จำเป็นตามแผนการเทรดของคุณ แล้วจิตใจคุณจะนิ่งขึ้นและการตัดสินใจดีขึ้น!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?