สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

กระบวนการ 5 ขั้น เพื่อการสวิงเทรดแบบโมเมนตัมและเบรกเอ้าท์ ที่ให้ประสิทธิภาพ ปั้นพอร์ตได้สูงที่สุด

(นักเทรดที่สำเร็จจะให้ความสำคัญกับกระบวนการ ก่อนผลลัพธ์)

ลำดับ 5 ขั้น เพื่อการสวิงเทรดแบบโมเมนตัมที่ให้ประสิทธิภาพปั้นพอร์ตได้สูงที่สุด

นี่เป็นวิธีตลกที่ฉันชอบคิดเกี่ยวกับการซื้อขาย:

การบริหารความเสี่ยง>สภาวะตลาด>Setup< Breakout <follow-through

สิ่งที่เราตามหาในท้ายที่สุดคือ follow-through แต่คุณต้องดำเนินการแต่ละขั้นตอนก่อน

๑) การจัดการความเสี่ยง: นี่คือรากฐานของกลยุทธ์การซื้อขาย มันเกี่ยวข้องกับหน้าเทรด จุดหยุดขาดทุน การกำหนดขนาดตำแหน่ง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่เสี่ยงมากกว่าเปอร์เซ็นต์ของพอร์ตโฟลิโอของคุณในการซื้อขายแต่ละครั้ง การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมสามารถช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงความสูญเสียร้ายแรงและช่วยให้เงินทุนในการซื้อขายมีอายุยืนยาวได้

๒) สภาวะตลาด(ดัชนี): ก่อนที่จะเข้าสู่การซื้อขายใดๆ การประเมินสภาวะตลาดโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญ เราอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง หรือตลาดไซด์เวย์หรือไม่? สภาวะตลาดที่กว้างขึ้นสามารถมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัวได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในช่วงตลาดกระทิงที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์การฝ่าวงล้อมทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากมีแง่ดีโดยทั่วไปที่สามารถผลักดันหุ้นให้สูงขึ้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

๓) หน้าเทรด: ในบริบทของการซื้อขาย หน้าเทรดหมายถึงรูปแบบหรือเงื่อนไขเฉพาะที่เกิดขึ้นก่อนการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น สำหรับเทรดเดอร์สวิงและโมเมนตัม นี่อาจเป็นรูปแบบทางเทคนิค เช่น ธง หรือการดึงกลับ หรืออาจขึ้นอยู่กับเหตุการณ์พื้นฐานหรือเหตุการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข่าว การตั้งค่าโดยพื้นฐานแล้วคือ "เหตุผล" หรือ "เงื่อนไขเบื้องต้น" ในการพิจารณาการซื้อขาย

๔) การเบรกเอาท์: นี่เป็นแนวคิดยอดนิยมในการซื้อขายแบบโมเมนตัม การเบรกเอาท์เกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นเคลื่อนไหวเหนือระดับแนวต้านหรือต่ำกว่าระดับแนวรับจากปริมาณที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้สามารถส่งสัญญาณการเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ เทรดเดอร์ที่มีโมเมนตัมมักจะเข้าสู่การซื้อขายระหว่างการทะลุกรอบ โดยคาดว่าราคาจะยังคงดำเนินต่อไปในทิศทางของการทะลุกรอบ

๕) Follow Through: หลังจากการเบรกเอาท์ เทรดเดอร์มองหาการ Follow Through เพื่อยืนยันการเคลื่อนไหว ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องการเห็นหุ้นเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางของการทะลุกรอบ การ Follow Through ที่แข็งแกร่ง (ด้วยโวลุ่มที่ดี) สามารถบ่งชี้ว่าการทะลุเกิดขึ้นจริงและหุ้นมีแรงผลักดันให้เคลื่อนไหวต่อไป 


ในทางกลับกัน การขาดการ Follow Through (หรือการกลับตัว) อาจบ่งบอกถึงการทะลุที่ผิดพลาด โดยที่หุ้นไม่สามารถคงการเคลื่อนไหวเกินระดับการทะลุได้

ในบริบทของสูตร Setup ไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การทะลุและการทะลุไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การ Follow Through 

การ Breakout ที่รุนแรงสามารถเอาชนะ Setup ที่อ่อนแอได้ หุ้นสามารถวิ่งตามมาได้แม้ว่าจะมีการทะลุจุดอ่อนก็ตาม แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญและบทบาทในกระบวนการซื้อขายของตัวเอง แต่สิ่งที่เราติดตามคือการ follow-through และทำให้มั่นใจว่าเรามีเงื่อนไขเบื้องต้นที่สนับสนุนการ follow-through


โดยสรุป สำหรับการสวิงเทรดและโมเมนตัม กระบวนการอาจมีลักษณะดังนี้:

1. จัดให้มีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

2. ประเมินสภาวะตลาดในวงกว้าง

3. ระบุ Setup ที่มีแนวโน้ม

4. รอการทะลุจาก Setup นั้น

5. มองหาการ Follow Through เพื่อยืนยันความถูกต้องของการ Breakout

แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญและแตกต่าง และการทำความเข้าใจความแตกต่างอาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในการซื้อขาย

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks