สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ
![Image](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjziPw0iRNtRi-kEDbQ3P-5qkHbCb9d-VHnhmAySwYnO-mkgwiDDUHDeFYHUI3BrOT55qoN6CD2sUlMzfa_u0LImGQYe0CI4M93WAWq4-XTPp_xbdqsgiUORxWyRKibEie_fWMU2MlYCFLRlQ-Vu-9Fhyphenhyphenrl1OjvD19z0Ad_YirkVtMn1yAUqwukqRorD5Y/w640-h602/Screenshot%202024-07-26%20074007.png)
นักเทรดมือโปร กับ นักเทรดมือใหม่ ต่างกันตรงไหนบ้าง?
๑) นักเทรดมือโปรจะไม่ใช้เลเวอเรจเสี่ยงเกินไป // นักเทรดมือใหม่ใช้เลเวเรจสูงมากเกินความเสี่ยงและทุ่มเงินเทรดในหุ้นตัวเดียวมากเกินไป
๒) นักเทรดมือโปรจะยอมรับการขาดทุนและไม่เทรดแก้แค้นตามอารมณ์ // นักเทรดมือใหม่จะโกรธแค้นเมื่อเจอการขาดทุนจึงจำใจขายด้วยความแค้นแล้วจากนั้นก็เสี่ยงมากกว่าเดิมเพื่อเอาคืนให้ได้ไวที่สุด
๓) นักเทรดมือโปรจะเข้าเทรดเมื่อมีโอกาสที่ตรงเกณฑ์การเข้าเทรดของเขา(มี Edge) // นักเทรดมือใหม่จะเทรดแบบสุ่มไร้กฎเกณฑ์(ไม่มี Edge) แล้วหวังให้การเทรดนั้นได้กำไร(ให้โชคเข้าข้าง)
๔) นักเทรดมือโปรปฏิบัติการเทดรแบบทำธุรกิจที่จริงจัง // นักเทรดมือใหม่เทรดตามอารมณ์แบบนักพนัน
๕) นักเทรดมือโปรมีกลยุทธ์ทำเงินที่ได้เปรียบเฉพาะตัว(มี Edge)และวางแผนการเทรดทุกครั้ง // นักเทรดมือใหม่ไม่เคยมีกลยุทธ์และแผนตายตัว-นึกอยากเทรดก็เทรด หาหุ้นและจุดซื้อได้ตลอดเวลาแต่ไม่เคยได้ประสิทธิภาพที่คุมค่าเลย
๖) นักเทรดมือโปรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ไม่เทรด // นักเทรดมือใหม่จะหยุดเทรดเมื่อเงินในพอร์ตเหลือ 0 เท่านั้น