เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?

Image
เหตุใดเราจึงควรใส่ใจเกี่ยวกับแง่มุมทางจิตของการเทรด?  Dr. Van K. Tharp พูดเสมอว่า “นักเทรดไม่เทรดตามที่ตลาดเป็นหรอก  แต่พวกเขาเทรดตามความเชื่อของพวกเขา”   เรื่องนี้ผมเห็นด้วยอย่างสมบูรณ์   ความเชื่อของผมมีดังนี้:  1) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลไกการซื้อ/ขายที่สมเหตุสมผลและช่วยให้เขาลงมือตามสัญญาณได้ทันที   2) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีแนวทางที่สมเหตุสมผลในการกำหนด Position Size ของเขาอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยลดความน่าจะเป็นที่จะถูกทำลาย   3) นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมีกลยุทธ์ที่ช่วยลด Drawdown ของ Equity Curve เพื่อทำให้เขาเครียดน้อยลง   4) ตลาดจะเปลี่ยนแปลงเสมอ มันจะขึ้น, ลง, และไซด์เวย์ 5) การลอกกลยุทธ์คนอื่นมาใช้ทั้งดุ้น มักจะไม่เวิร์ค  การสร้างกลยุทธ์หรือพัฒนากลยุทธ์ที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณคือแนวทางที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า 6) ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบในการเทรด   7) ตลาดจะทำในสิ่งที่มันอยากจะทำ - Tom Basso จากหนังสือ The All-Weather Trader

ที่ผมเทพ...เพราะเรียนรู้จากความผิดพลาด - Ray Dalio

"มนุษย์มีจุดอ่อนและมีโอกาสผิดพลาดเหมือนกันทุกคน 
แต่คนที่แตกต่างกว่าใครคือ ....
คนที่สามารถจัดการกับความผิดพลาดนั้นได้
- Ray Dalio


ท่องเว็บไปเพลินๆ ไปเจอคลิปของลุงเรย์ แมคโดนัลด์ เอ้ย...ดาลิโอ สะดุดกับ 4 วินาทีแรก
เขาเปิดหัวด้วยการตั้งคำถามของพิธีกร
ผมก็แปลไม่ออกหรอกนะว่ารายละเอียดทุกคำที่เขาถามว่าอะไร คงประมาณว่า...

"....เฮียเป็นนักลงทุนที่โคตรประสบความสำเร็จในระยะเวลาหลายสิบปีมานี้
...เฮียเริ่มลงทุนและพัฒนามันยังถึงได้มีผลงานที่ระบือลือลั่นดุจเทพประทานขนาดนี้?"



ลุงเรย์ กระแอมนิดนึง มองไปที่พิธีกร สายตาถ่อมตน แล้วบอกว่า "ผมเรียนรู้จากความผิดพลาด"

......แค่นี้แหละครับ "โดนเลย"
สารภาพว่าตอนแรก ผมไม่สนใจอีตานี่เลย เพราะใครๆก็พูดถึง
ก็คงเป็นกระแสคลั่งไอดอลของคนยุคโซเชียลเท่านั้นเอง

แต่พอแกกล้าพูดคำนี้ออกมา แสดงว่า "มีของ"
เพราะว่าใครก็ตามที่กล้ายอมรับว่าตัวเองมีบาดแผล มีความผิดพลาด และกล้าออกสื่อ แถมเคารพมัน และสามารถใช้ประโยชน์จากความล้มเหลวได้อย่างสุดยอด
ผมว่าคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่ "เหนือมนุษย์" อยู่ไม่มากก็น้อย

แสดงว่า แกน่าจะสุดยอดจริงๆ ไม่น่าจะเป็นแค่กระแส

มันทำให้อยากค้นต่อว่าแกพลาดอะไรมา?
แล้ววิธีการเอาความผิดพลาดมาใช้เป็นสปริงเด้งให้เติบโต มีพัฒนาการสุดยอดแบบนี้ แกทำยังไง?

ขออภัยที่ผมไม่ได้สนใจแกะความสำเร็จของแกตามคนส่วนใหญ่ เพราะคิดว่าแค่เท่ แต่กินไม่ได้
ทว่าเคล็ดลับของผู้ยิ่งใหญ่แต่ละคนล้วนมาจาก "ความล้มเหลว"
ถ้าใครสักคนบอกคุณว่า เขามีวันนี้ได้เพราะ "ความล้มเหลว" คนนั้นน่าสนใจ


เคยพลาดอะไรมาบ้าง?
“ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมทำข้อผิดพลาดเยอะแยะมากมาย ทำให้เรียนรู้หลักการใหม่ๆตลอดเวลา”
เขาพบว่าจริงๆ แล้ว ความผิดพลาดเป็นสิ่งสวยงาม เพราะมันจะบอกให้รู้ว่า เราทำอะไรลงไปบ้าง จึงได้ผลลัพธ์แย่ๆแบบนั้น ถ้าเปิดใจยอมรับและเรียนรู้เพื่อลงมือแก้ไขอย่างเป็นระบบ ก็จะสามารถเปลี่ยนความผิดพลาดเป็นความสำเร็จได้

หนักสุดคือเหตุการณ์นี้...
ปี 1982 เป็นช่วงที่หนุ่มเรย์มองว่า "ตลาดหุ้นน่าจะเจอวิกฤติครั้งใหญ่"
เหตุผลก็คือ ช่วงระหว่างปี 1979-1982 เป็น 4 ปีที่เต็มไปด้วยความผันผวน
ตลาดหุ้นขึ้นๆลงๆ ส่วนเศรษฐกิจก็ลุ่มๆดอนๆ
เมื่อประเมินอย่างที่ถ้วนแล้ว เค้าฟันธงเลยครับว่า เศรษฐกิจกำลังจะพังแน่ๆ

มั่นใจมาก ถึงมากที่สุด

จึงจัดหนักจัดเต็มฝั่ง short เลย คือ all in มีตังเท่าไหร่ ใส่ไปไม่ยั้ง
คือถ้าตลาดลงดิ่งจริง แกจะรวยเป็นมหาเศรษฐี

แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ตลาดหุ้นกลับวิ่งสวนเป็นขาขึ้นรอบใหญ่สุดๆ
สวนทางกับการ short ของแกสิ

ผลก็คือ "เจ๊งไม่เป็นท่า" บริษัทต้องให้คนออกหมด เหลือตัวแกคนเดียว
ไม่เหลือเงินสักบาท ถังแตก จนต้องขอยืมเงิน 4,000 เหรียญหรือ 1.2 แสนบาทจากพ่อ เพื่อจ่ายหนี้

ตอนนั้นรู้สึกอายมาก เพราะเริ่มมีชื่อเสียงแล้ว ออกทีวีก็พอสมควร ไม่อยากไปพูดต่อหน้าผู้คนมากมาย เพราะตัวเองทำผิดพลาดอย่างมหาศาล จนเจ๊ง ใครๆก็รู้

แต่ไม่ฆ่าตัวตาย....เหมือนผู้แพ้ส่วนใหญ่

แกเคยรู้มาว่า...เมื่อเจอความล้มเหลว มีให้เลือกอยู่ 2 ทางครับ
1.เผชิญหน้ากับมันและดึงตัวเองขึ้นมาจากหลุมดำแห่งความทุกข์ (เป็นผู้ชนะ)
หรือ....
2.จมอยู่กับความทุกข์ และไม่ยอมหาทางออกกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา (เป็นขี้แพ้)

แกเลือกข้อแรกครับ

เขาเปลี่ยนแนวคิดเดิมกับความเจ็บปวด จาก ”เกลียดชัง(ผลัก)” มาเป็น “โอบรับ(ดึงเข้า)”
เนื่องจากเขาเชื่อว่ามันเป็นหนทางเดียวสู่ความแข็งแกร่ง และการวิวัฒนาการจากเราวันนี้ ไปเป็นเราที่ใกล้เป้าหมายขึ้นในวันข้างหน้า ผ่านการเรียนรู้ว่าทำอะไรแล้วเราไปข้างหน้า ทำอะไรแล้วเราล้ม

จึงได้เรียนรู้ว่า แม้ว่าจะมองตลาดถูกมากกว่าผิด แต่การมองผิดพลาดครั้งเดียว
ความมั่นใจเกินเหตุ(Overconfidence)เพียงแค่ครั้งเดียวทำให้กำไรที่เคยทำมาตลอดทั้งชีวิต หายไปในพริบตา

บทเรียนราคาแพงที่ได้รับคือ ต้องมองโอกาสในการลงทุนควบคู่ไปกับการมองความเสี่ยง
อย่ามองว่าจะได้กำไรเพียง อย่างเดียว

เพื่อการกลับมาให้ได้ เพื่อชื่อเสียงและความฝัน
หนุ่มเรย์ก็เอาใหม่ ด้วยแผนพัฒนาตัวเอง ๔ ข้อ
๑) ตามหาเป้าหมายใหม่ๆ
๒) ทำงาน และเรียนรู้วิธีการไปสู่เป้าหมาย
๓) เดินทางไปถึงเป้าหมาย
๔) ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก

แค่นี้แหละ....

ความมุ่งมั่น พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น + ทำซ้ำ + พัฒนา + ทำซ้ำ
ทำให้ล่าสุด Ray Dalio มีสินทรัพย์มูลค่า $15,000,000,000 (หนึ่งหมื่นห้าพันล้านเหรีญสหรัฐอเมริกา)
และผมเองก็มั่นใจว่า เขายังไปได้ไกล รวยกว่านี้ได้อีก

รายละเอียดการพัฒนาตัวเองให้เป็น "คนเหนือคน"
แนะนำให้อ่านหนังสือ Talent is Overrated ชาตินี้คงไปไม่ถึงไหนถ้าทำอะไรแค่พอผ่าน



Ray เรียนรู้มันได้ยังไง?
ย้อนกลับไปวิธีเรียนรู้จากปัญหา ที่ลุงเค้าแนะนำ
ให้ใช้หลักการ Dialo’s Principles & Questions ซึ่ง มี ๖ ข้อ

๑) พลาดเรื่องอะไร? 
พอเกิดความผิดพลาดให้รีบขบคิดและระบุให้ชัดว่ามันเกิดจากอะไร

๒) เคยพลาดแบบนี้มาก่อนมั้ย?
ถ้าตอบข้อนี้ได้ จะเป็นจุดเปลี่ยนเลย โดยเฉพาะเคยทำพลาดมาแล้วหลายครั้ง แสดงว่า มันเป็นสันดานแล้ว คุณต้องหาทางแก้มันให้ได้ ไม่งั้นจมปลักแน่

๓) พลาดเพราะอะไร
เป็นการหาต้นตอ,สาเหตุ จะได้แก้ถูกจุด ให้นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้นอย่างช้าๆ

๔) อะไรคือสาเหตุของความผิดพลาด
การย้อนไปนึกถึงเหตุการณ์อย่างช้าๆ ก็เพื่อหาสำเหตุ เหมือนเรากรอวิดีโอย้อนกลับเพื่อดูการกระทำของตัวละครอีกครั้งนั้นแหละครับ จากนั้นก็ให้วิพากษ์ตัวเองอย่างเป็นกลางจากหลักฐาน เราเป็นต้นตอของปัญหาตั้งแต่ส่วนใหน

๕) วิธีจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เป็นการแก้ที่ปลายเหตุเพื่อเคลียร์ให้มันจบ

๖) คิดต่อว่าทำยังไงไม่ให้พลาดซ้ำเดิมอีก
คนฉลาดจะไม่ยอมให้ความผิดพลาดเดิมๆมาหลอกหลอนอีก เขาจะเอาต้นตอแท้จริงของปัญหามากางดู แยกแยะและประเมิน สิ่งใดที่ไม่ควรทำอีกก็อย่าได้ทำ มันจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก






คำคมเกี่ยวกับความผิดพลาด/ความล้มเหว ของ Ray Dalio

- เรียนรู้ความผิดพลาดและจุดอ่อนของเรา ปัญหาก็เหมือนกับเกม Puzzle ถ้าเราแก้ได้ ก็ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น

- คนเราไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด

- ยิ่งเราเข้าใกล้เป้าหมายมากเท่าไหร่ ยิ่งเจอปัญหามากขึ้นเท่านั้น

- วิธีต่อสู้กับปัญหาที่ดีที่สุด คือ การเผชิญหน้ากับมัน

- เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ชีวิต(ทั้งการลงทุน ชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว) มันจะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ อย่าพยายามทำผิดซ้ำสอง

- ความล้มเหลว มาจากความไม่ยอมรับความจริง และความสำเร็จมาจากการยอมรับความจริง

- ทำไมบุคคลส่วนใหญ่ที่เคยล้มเหลว สามารถทำลายช่วงเวลาแห่งความย่ำแย่และจบลงด้วยความสุขได้  ก็เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จในการปรับตัว บุคคลที่ปรับตัวได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วกว่า ย่อมดีกว่า

- (ผู้แพ้ตลอดกาล)มักเชื่อว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จ คือ บุคคลที่มีคำตอบในหัวตลอดเวลาและไม่มีจุดอ่อนใดๆเลย ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงเลย

- ผมไม่เคยเห็น บุคคลประสบความสำเร็จโดยไม่ผ่านการเรียนรู้ พวกเขาล้วนมีจุดอ่อนเหมือนกับคนอื่นๆ แค่เรียนรู้วิธีการจัดการกับสิ่งเหล่านั้น

- ทุกคนล้วนมีจุดอ่อน ....
แต่ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างคนที่สำเร็จและคนที่ล้มเหลวคือ
คนที่สำเร็จเลือกที่จะค้นหาจุดอ่อนของตัวเองและจัดการมัน
แต่คนล้มเหลวกลับมองข้ามจุดนี้ไป

- ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ การมองไม่เห็นตัวเองและคนอื่นอย่างเป็นกลาง
ถ้าพวกเขาสามารถมองเห็นตัวเองได้ ก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักยภาพ

- คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ไม่ดี ผมกลับเชื่อว่า ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ดี
เพราะผมเชื่อว่า การเรียนรู้ส่วนใหญ่มาจากการทำผิดพลาด และการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของตัวเอง

- บุคคลที่มีความก้าวหน้าในการเผชิญหน้ากับความจริง โดยเฉพาะอุปสรรคที่เจ็บปวด จะได้เรียนรู้มากกว่าและได้รับในสิ่งที่ต้องการรวดเร็วกว่าคนที่ไม่ได้ทำเช่นนั้น

ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ
ผมว่าเรื่องนี้ดีมากๆ


ข้อมูลอ้างอิง และอ่านเพิ่ม
slingshot.co.th
แปลหนังสือ Principles by Ray Dalio
- บล็อก หุ้นการบ้าน
ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน Tam-eig
- สยามรัฐ
3 บทเรียนชีวิตจากหนังสือ Principles โดย Ray Dalio
http://www.missiontothemoon.co/blog/articles/183

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดหุ้น คุณไม่ต้องรอบรู้ไม่ต้องเก่งทุกเรื่องและทุกอย่างหรอก ทำแค่ 7 เรื่องนี้ให้ได้ก็พอ....

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ศาสตร์และศิลปะของการปั้นพอร์ต ให้เติบโตสม่ำเสมอ Art & Science of Trading