สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

Inverted Head and Shoulders ต้นเทรนด์ของหุ้นขาขึ้น


ผมจะซื้อหุ้นที่กราฟทำรูปแบบ Inverted Head and Shoulders 
ซึ่งจะเกิดหลังจากหุ้นตัวนั้นจบรอบขาลง 
หลังจากที่มันทำ lower lows และ lower highs มาอย่างต่อเนื่อง
- Dan Zanger

พี่แดน ได้ให้ข้อมูลในหนังสือ Momentum Masters ไว้ว่า แกมีจุดสังเกตในการซื้อหุ้นต้นเทรนด์ขาขึ้นด้วยการหาทรง Inverted Head and Shoulders ครับ

ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลและเก็บเคสทำหนังสือมาสองเล่ม ก็เห็นด้วยกับแกเลยครับ
ว่ารูปแบบ Inverted Head and Shoulders
หรือ Inverse head and shoulders นั้น ค่อนข้างน่าเชื่อถือเอามากๆ

โดยทรงของมัน ตามทฤษฎีจะเป็นแบบนี้ครับ

ที่มาของรูปแบบราคา
โดยพฤติกรรมของมันคือ มีลงแรงทำไหล่ซ้ายก่อน จากนั้นก็เด้งขึ้น
แต่ก็เด้งไม่ไกลนัก ถึงระดับหนึ่งก็หยุด (จุด A)
แล้วก็เจอขาย กดให้ลงแรงทำจุดต่ำสุดใหม่ด้วยด้วยแรงเฉื่อย เพื่อทำหัว
โดยปกติแล้วช่วงการลงเป็นหัว, วอลุ่มขายไม่มีมากนัก

จากนั้นก็มีแรงซื้อหุ้นไล่กลับขึ้นไปจนถึงหรือใกล้ๆกับจุด A
ซึ่งมันอาจจะอยู่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าก็ได้  ก็เจอขายใส่จนกดราคาให้กลับลงไปอีก
แต่คราวนี้, ไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่แล้ว มันยกโลว์สูงกว่าเดิม
เป็นไหล่ขวา

แล้วก็มีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาผลักให้ราคาวิ่งพุ่งขึ้นแรงจนทะลุ neckline ขึ้นไปได้ในที่สุด
จุดซื้อก็คือตอนที่มัน breakout ข้าม neckline ขึ้นไปได้
หรือทะลุยอดจุดสูงสุดก่อนย่อทำไหล่ขวา

โดย stop loss ชุดสุดท้ายอยู่ที่โลว์ของไหล่ขวาครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น,ก็อยู่ที่แผนของท่านด้วย ว่า limit loss ของท่านตั้งไว้ที่เท่าไหร่
เพราะบางทีเราก็ไม่มีทางรู้เลยว่า ระดับจุดต่ำสุดของไหล่ขวาจะรับไว้อยู่หรือเปล่า
ดังนัน้ ถ้าเกิน limit loss หนีก่อนครับ ซึ่งถึงแม้รูปแบบ Head and Shoulders จะเป็น pattern ที่ทรงพลังและน่าเชื่อถือมาก ถ้า breakout ไปได้มีโอกาสไปต่อถึง 83% เลย แต่กระนั้น มันก็มีอีกเกือบ 20% ที่ล้มเหลวนะครับ กันไว้ก่อนก็ดี


สำหรับหน้าตาของมัน ก็อย่าไปยึดติด ว่าต้องเป็นแนวนอนเท่านั้นนะ
จะเฉียงหน่อยก็ได้ ขอให้หน้าตามันคล้าย แต่ถ้าเทียบกัน ถ้าได้ทำในแนวระนาบ, เวลา breakout ขึ้นไปได้ก็จะยิ่งทรงพลัง เฉียงมากเกินไปก็ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าครับ



ภาพจาก chiangmaifx.com

แนะนำว่าถ้า neckline เฉียงขึ้น ให้ใช้ระดับ breakout ยอดล่าสุดเป็นจุดซื้อครับ
หรือถ้าท่านเห็นว่ามันทำทรงสามเหลี่ยม ก็ให้ลาดเส้นกดพาดไว้เลย (เดี๋ยวมีตัวอย่างข้างล่าง)
เพราะหลักการคือเราจะใช้การ breakout ที่การบีบตัวตรงไหล่ขวาไง
ถ้าเราเห็นเบาะแสก่อน เห็นฐานราคาซ่อนอยู่ในไหล่ขวาก่อน ก็เข้าซื้อก่อนได้
ไม่ต้องไปยึดติดว่าต้องเป๊ะตามทฤษฎีจนเกินไปนัก



วอลุ่มกับรูปแบบ Inverted Head and Shoulders

ลักษณะพิเศษของวอลุ่มคือตอนที่มันทำไหล่ฝั่งขวานั้น วอลุ่มจะเบาบางมาก สื่อว่าแรงขายอ่อนแอสุดๆ ก็เพราะสัญญาณแบบนี้แหละ นักซื้อหรือคนทำราคาถึงได้คึกไง คนอยากขายน้อยแล้ว ไม่รอรับซื้อที่ bids แล้ว ไล่งับที่ offer ไปเลย พอมีความเห็น หรือ Attitudes พ้องกันแบบนี้ไง ราคาก็เลยขยับขึ้นแรง พอราคาบวกขึ้นไป คนกำไรก็ขาย คนดอยก็ดักขาย วอลุ่มก็เลยออกมากไง แต่ด้วยความที่นักซื้อเขามองภาพบวกมาก ก็เลยไม่กลัว ไล่ซื้อดันราคาให้ทะลุกรอบหรือ neckline ขึ้นไปได้อย่างเด็ดขาด




เคสล่าสุดที่เกิดกับหุ้นไทย
ก็ต้องบแกกันตรงๆไว้ก่อนเลยว่า หาได้ยากพอสมควร
แต่ก็มีให้เห็นอยู่ตลอดแหละครับ นี่เป็นการบอกว่า มันเป็นสากลจริงๆ


NPP มีช่วงหนึ่ง ก่อนที่ราคาจะเปิด gap
ก็มีการสร้างฐานคล้าย Inverted Head and Shoulders ครับ
แต่ด้วยการเปิด gap มันโดดเด่นกว่าทรงนี้ก็เลยดูด้อยไป


BPP ทรงคล้ายมากครับ ยังไม่ได้ทะลุด้วย
รอดูว่าตลาดจะเฉลยยังไง


RPH ออกไปทางคล้าย round bottom เลยนะครับ
แต่ถ้าดูขยัก ก็พอเข้าทาง Inverted Head and Shoulders อยู่เหมือนกัน
ทั้งคู่เป็นรูปแบบราคาที่น่าเชื่อถือด้วยกันครับ


CPN หุ้นใหญ่บลูชิพ ก็มีทรง Inverted Head and Shoulders เช่นเดียวกันครับ
แต่ช่วงนี้ตลาดไม่ค่อยดี ก็ไม่รู้ว่าจะยืนไหวหรือเปล่า


BTS ก่อนที่จะดีดเขียวต่อเนื่องจาก 8.5 ไปเกือบ 10 บาท ก็มีการฟอร์มตัวคล้าย Inverted Head and Shoulders อยู่นะครับ


TOP เพิ่งข้ามไหล่ขวาขึ้นไปได้ แถมยังสร้างฐานรอดูทรงตลาดครับ
ถ้า SET ยืนได้ ไม่แน่นะ



ASAP ทำทรง Inverted Head and Shoulders ให้เห็นสองครั้งแล้ว


ESSO มีฐานเล็ก ซ่อนอยู่ในฐานใหญ่



WORK เป็นเคสที่ล้มเหลวครับ
เราซื้อเมื่อราคา breakout การบีบตัวในช่วงไหล่ซ้าย
ให้ stop loss ที่โลว์ของการบีบตัวนั้น
ซื้อแล้วก็คาดหวังว่ามันจะกลับตัวเป็นขาขึ้น
แต่ถ้ามันอ่อนแรงลง เพราะกำลังซื้อไม่มี
เมื่อหลุด stop loss ก็ต้องขายออกครับ

แถมทรงที่เข้าข่าย.....
ก็เอาไปทำการบ้านต่อกันเองนะ วางแผนให้ดี







ก็ขอนำเสนอคร่าวๆแค่นี้นะครับ ลองไปทำการบ้านต่อกันดู


-------------------------

(หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้)
เรียนเล่นหุ้น เรียนเทรด forex จิตวิทยาการเทรด มือใหม่เล่นหุ้น
คลิกลิ้งนี้ครับ https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ






และ eBook มีขายที่เว็บ https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1
แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า
ebook หนังสือสอนเล่นหุ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks