Google TPU คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ หุ้นตัวไหนบ้างที่เกี่ยวข้อง

Image
เรื่องราวเบื้องหลัง: Google TPU คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ Google พัฒนาชิปของตัวเองที่เรียกว่า TPU (Tensor Processing Unit)—ชิปเฉพาะทางสำหรับ AI รุ่นใหญ่ของยุคนี้ ไม่ต่างจากหัวใจที่เต้นอยู่ในเบื้องหลังของบริการอย่าง Search, YouTube, Maps และระบบ AI ใหม่ ๆ ยิ่ง AI เติบโตเร็วเท่าไร - เครือข่ายซัพพลายเชนที่สนับสนุนชิปรุ่นใหม่ ๆ ก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น ภาพนี้กำลังบอกเราว่า ใครบ้างเป็นผู้เล่นหลัก ในซัพพลายเชนของ TPU รุ่นต่าง ๆ --- TPU สามตระกูลใหญ่ 1. Ironwood / Ghostfish – รุ่นที่ร่วมออกแบบกับ Broadcom 2. Sunfish – ยังคงร่วมงานกับ Broadcom 3. Zebrafish – มี MediaTek เข้ามาเป็นแกนนำด้านการออกแบบ แต่ละรุ่นมีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกันออกไป และนี่คือสัญญาณสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักเทรด—เพราะทุกบริษัทในสายนี้มีโอกาส “โตพร้อมกับกระแส AI” --- ซัพพลายเชนถูกแบ่งตามขั้นตอนการสร้างชิป ลองนึกว่าคุณเดินผ่านโรงงานประกอบชิปทีละแผนก… 1) Design Partner – หุ้นสมองของชิป Broadcom (AVGO) MediaTek พวกเขาเป็นต้นทางของการออกแบบชิป TPU แต่ละรุ่น การได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ Google คือการการันตีรายได้และออเดอร์ร...

สับสนเรื่อง “จะขายทำกำไร(Take Profit)ตอนไหนดี” อยู่ไหม? อ่านบทความนี้

สับสนเรื่อง “จะขายทำกำไรตอนไหนดี” อยู่ไหม?

นี่คือ “ทักษะสำคัญ” ที่แยกระหว่างนักเทรดทั่วไป กับ “เซียนตลาดหุ้น” ที่ทำเงินล้าน สม่ำเสมอ

แปลจาก https://x.com/TraderLion_/status/1839397246124871908?t=uv2m7h-E0s9GHbtuFEoRrQ&s=19

เราขอถอดรหัสการขายตอนที่หุ้นแข็งแรง (Selling into Strength) ให้ง่ายขึ้นใน 3 ขั้นตอนใช้งานได้จริง

พร้อม กฎเสริมอีก 5+ ข้อ ที่คุณเอาไปใช้ได้เลยในวันพรุ่งนี้


สนับสนุนโดย
อีบุ๊ก เคล็ดลึก Let’s profit run: ทนรวยอย่างไร? ถือสั้น-ยาวแค่ไหน? ให้ได้กำไรคุ้มที่สุด
 https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM2NDk4MTt9


มาเริ่มกันเลย 

แนวคิดหลัก: “เซียนเทรด” ไม่ขายหมดทีเดียว แต่ “ขายเป็นส่วนๆ”


และนี่คือสิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้วันนี้:

1. ขายรอบแรกเมื่อได้กำไรระดับต้น (2-3R)

2. ขายรอบกลางเมื่อได้กำไรระดับกลาง (4-5R)

3. ขายรอบสุดท้ายเมื่อได้กำไรระดับสูง (6R+)

---

R คือ ขนาดความเสี่ยงที่คุณยอมเสียได้ต่อการเทรดแต่ละครั้ง
ตามหลักการแบบเบสิคคือ 1% ของเงินทั้งพอร์ต
ถ้าคุณมีเงินทุนทั้งพอร์ต 100,000 บาท : 1R = 1,000 บาท

---


1. ขายรอบแรก – Initial Profit Taking

ขายอย่างน้อย 1/3 ของพอร์ต เมื่อราคาวิ่งไปถึงจุดที่คุณวางแผนไว้ เช่น 2-3 เท่าของความเสี่ยง (2-3R)

ตัวอย่าง:

ถ้าคุณตั้ง Stop Loss ที่ 4% → ขาย 1/3 ทันทีที่กำไรถึง 8%-12%

อย่าลืมขยับ Stop Loss มาที่จุดคุ้มทุนด้วย




กฎเสริม:

กฎ “หลุด Low วันก่อน”

ถ้าหุ้นยังไม่หลุด Low ของวันก่อนหน้า อย่าพึ่งขาย

(เหมาะกับตลาดที่เทรนด์แรง อาจได้ขายที่ราคาแพงกว่า)


กฎ “บวกวันเดียว 8%”

ถ้าหุ้นบวกแรงวันเดียวเกิน 8% (หรือ 2 เท่าของความเสี่ยงเริ่มต้น)

แม้จะขาย 1/3 ไปแล้ว ก็อาจพิจารณาขายเพิ่มอีก 1/4 หรือ 1/3

ใช้โมเมนตัมขาขึ้นให้คุ้ม!




---


2. ขายรอบกลาง – Medium-Term Profit Taking

ถ้าตลาดยังดีอยู่ คุณต้อง “ใจเย็นรอ” ให้ได้กำไร 4-5R ก่อนขายรอบที่สอง



ตัวอย่าง:

ถ้าเสี่ยง 3-4% → ขายเมื่อได้กำไร 12%-20%

หุ้นช่วงนี้มักจะ…

กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง

ย่อลงมาใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 10EMA

หรือทดสอบ 20/21EMA แล้วดีดกลับ


เคล็ดลับ:

หากหุ้นลงไปสร้างฐานระยะสั้น (เช่นจุดต่ำของโครงสร้าง Wave 3) → ใช้จุดนั้นตั้ง Stop ใหม่ เพื่อไม่ให้คืนกำไรที่ได้มา


อีกสัญญาณควรขาย:

แท่งกลับตัวลง (Downside Reversal Bars)

ทำจุดสูงใหม่ แต่ปิดใกล้ต่ำสุด

ปริมาณซื้อขายสูงผิดปกติ

→ ขายเพิ่มหรือลดพอร์ตก่อนที่ราคาจะย่อลึก







---


3. ขายรอบสุดท้าย – Long-Term Profit Taking

ถึงตรงนี้คุณได้กำไรระดับ 6R หรือมากกว่านั้นแล้ว

ขอแสดงความยินดี!


นี่คือช่วงที่คุณควร “ปล่อยให้กำไรวิ่ง” โดยไม่ต้องจ้องจอ


ทางเลือกสำหรับการถือรอบสุดท้าย:

๑) ใช้เส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง/ยาว (MA):

ใช้เส้น 50 วัน (SMA50) เป็นจุด Stop Trailing

แนะนำรอให้ปิดต่ำกว่า SMA50 “2 วันติด” ก่อนขาย


๒) ดูกราฟรายสัปดาห์:

สำหรับนักลงทุนสายยาว เปลี่ยนไปดูกราฟ Week

ใช้เส้น 10-week MA เป็นตัววัดโมเมนตัม และปล่อยให้หุ้นทำงานแทนคุณ


---


สภาพตลาดสำคัญที่สุด!

อย่าขายที่ 2R ถ้าตลาดกำลังแรงมาก (เพราะหุ้นอาจวิ่งได้มากกว่านั้น)

ในทางกลับกัน ถ้าตลาดอ่อนแรง → การรอไปถึง 4R อาจไม่สมเหตุสมผล


สรุป: ต้องปรับตัวให้เข้ากับ “สภาพตลาดตอนนั้น”

---


คำถามยอดฮิต:

Q: ต้องขายเป็น 1/3 เสมอไหม?

A: ไม่จำเป็นเลย! ขายเป็น 1/4 หรือ 1/5 ก็ได้

ขึ้นอยู่กับ “สไตล์ของคุณ” และ “ไทม์เฟรมการเทรด”

แต่ 1/3 คือสูตรง่ายที่เริ่มใช้ได้เลย



---


Q: ถ้าเทรดด้วยขนาดพอร์ตที่ใหญ่เกิน 20% ล่ะ?

A: ควรขายออกอย่างน้อย 1/4 ก่อนตลาดปิด

แล้วค่อยรอขายอีกทีที่ 2-3R ตามแผนเดิม



---


Q: ถ้าหุ้นพุ่งแรงเขียวยาวห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยมากผิดปกติ?

A: ให้เช็คระดับการยืดในอดีต ถ้าเลยจุดนั้น → นี่แหละคือ “โอกาสทอง” ในการขายทำกำไร

โดยเฉพาะถ้า “ใกล้วันประกาศงบ” → ควรลดความเสี่ยงทันที



---


สรุปอีกครั้ง:

วันนี้คุณได้เรียนรู้…

เทคนิคขายกำไรเป็น “ส่วนๆ”

การรอขายตามระดับ R

กฎ “หลุด Low วันก่อน”

กฎ “บวก 8% วันเดียว”

กฎ “ปิดต่ำกว่า MA 2 วัน”


และตอบคำถามยอดฮิต 3 ข้อ

ตอนนี้คุณมีแผนขายตอนหุ้นแข็งแรงครบถ้วนแล้ว!


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน