Google TPU คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ หุ้นตัวไหนบ้างที่เกี่ยวข้อง

Image
เรื่องราวเบื้องหลัง: Google TPU คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ Google พัฒนาชิปของตัวเองที่เรียกว่า TPU (Tensor Processing Unit)—ชิปเฉพาะทางสำหรับ AI รุ่นใหญ่ของยุคนี้ ไม่ต่างจากหัวใจที่เต้นอยู่ในเบื้องหลังของบริการอย่าง Search, YouTube, Maps และระบบ AI ใหม่ ๆ ยิ่ง AI เติบโตเร็วเท่าไร - เครือข่ายซัพพลายเชนที่สนับสนุนชิปรุ่นใหม่ ๆ ก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น ภาพนี้กำลังบอกเราว่า ใครบ้างเป็นผู้เล่นหลัก ในซัพพลายเชนของ TPU รุ่นต่าง ๆ --- TPU สามตระกูลใหญ่ 1. Ironwood / Ghostfish – รุ่นที่ร่วมออกแบบกับ Broadcom 2. Sunfish – ยังคงร่วมงานกับ Broadcom 3. Zebrafish – มี MediaTek เข้ามาเป็นแกนนำด้านการออกแบบ แต่ละรุ่นมีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกันออกไป และนี่คือสัญญาณสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักเทรด—เพราะทุกบริษัทในสายนี้มีโอกาส “โตพร้อมกับกระแส AI” --- ซัพพลายเชนถูกแบ่งตามขั้นตอนการสร้างชิป ลองนึกว่าคุณเดินผ่านโรงงานประกอบชิปทีละแผนก… 1) Design Partner – หุ้นสมองของชิป Broadcom (AVGO) MediaTek พวกเขาเป็นต้นทางของการออกแบบชิป TPU แต่ละรุ่น การได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ Google คือการการันตีรายได้และออเดอร์ร...

แนวทางหาหุ้นผู้นำ เมื่อตลาดเริ่มฟื้นจากขาลง

ถ้าคุณกำลังลำบากในการหาหุ้นดีๆ ช่วงตลาดหมีเพิ่งฟื้นตัว ลองพิจารณาไอเดียเหล่านี้ดู

(แปลและขยายความจากคำแนะนำของ Leif Soreide; แชมป์การลงทุนในสหรัฐฯ ปี 2019)


1. ในช่วงที่ตลาดผันผวนและไม่แน่นอน เม็ดเงินมักไหลเข้าสู่หุ้นที่ “ปลอดภัย” และ “สภาพคล่องสูง”

นักลงทุนจำนวนมากจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยเลือกซื้อหุ้นใหญ่ หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูง หรือที่เรียกว่า “หุ้นผู้นำ” เพราะสามารถเข้า-ออกได้ง่าย ไม่ติดดอยง่าย

.

ดังนั้น: เวลาตลาดยังไม่แน่นอน อย่าเพิ่งไปเสี่ยงกับหุ้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูง เพราะถ้าหลุดแนวรับหรือไม่มีแรงซื้อ คุณอาจขายออกไม่ได้ หรือขายแล้วขาดทุนหนัก การเลือกหุ้นที่ “คนอื่นก็สนใจ” หรือมี “กองทุนใหญ่เข้า” มักจะปลอดภัยกว่า

.

.

2. อย่าไปหลงกับหุ้นตัวเล็กที่ดูเหมือนตั้งท่าจะพุ่ง แม้จะมีรูปแบบกราฟ “สมบูรณ์แบบ” ก็ตาม

อย่าไว้ใจแค่เพียงกราฟดูสวย หรือมีสัญญาณเทคนิคดี หากหุ้นนั้นไม่มีสภาพคล่อง

.

ด้วยเหตุนี้: หุ้นบางตัวอาจจะดูเหมือนพร้อมจะพุ่งแรง เช่น เบรกขึ้นจากฐาน หรือทำ new high แต่ถ้าไม่มีปริมาณการซื้อขายรองรับ (volume บางๆ) หรือมันเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ มันจะกลายเป็นกับดัก เพราะคุณเข้าไปแล้วไม่มีใครมาซื้อออกจากคุณ ถ้าหุ้นลง คุณจะติดดอยแบบไม่มีทางหนี

.

.

3. ถ้าคุณมีหุ้นที่กำไรแล้ว ให้คอยมองหาผู้นำใหม่ที่เริ่มเด่นขึ้นมา แล้ว “หมุนพอร์ต” เข้าไปหาตัวที่มีแนวโน้มดีกว่า

พอหุ้นที่ถือไว้เริ่มทำกำไรได้ ควรใช้โอกาสนี้เข้าไปหาหุ้นใหม่ที่กำลังกลายเป็น “ผู้นำหน้าใหม่”

.

หมายความว่า: ตลาดที่ฟื้นจากภาวะหมีมักจะมีผู้นำใหม่ ไม่ใช่หุ้นเดิมที่เคยดังตอนตลาดกระทิงรอบก่อน ถ้าเรารู้จัก “สลับตัว” จากหุ้นเก่าไปหุ้นใหม่ที่เริ่มแสดงพลัง เราจะสามารถรักษาผลกำไร และเพิ่มโอกาสทำกำไรต่อเนื่องได้ อย่ายึดติดกับหุ้นตัวเดิมเกินไป



4. ไม่เป็นไรถ้าจะถือหุ้นเพิ่มอีก 1-2 ตัว เพื่อยืนยันแนวโน้ม เพราะส่วนใหญ่จะวิ่งใกล้เคียงกันหลังตลาดหมีสิ้นสุด

การถือหุ้นหลายตัวในช่วงนี้อาจช่วยเพิ่มความมั่นใจ และหลายตัวก็มีแนวโน้มจะขึ้นคล้ายกัน


ดังนั้น: เมื่อตลาดเริ่มฟื้นจริงๆ หุ้นหลายตัวจะ “ตื่น” พร้อมกัน และมีโอกาสขึ้นไปด้วยกัน คุณสามารถถือหุ้นหลายตัวเพื่อจับโอกาสไว้ ไม่จำเป็นต้องเลือกแค่ตัวเดียว ขอแค่ไม่กระจายเกินไป และยังควบคุมความเสี่ยงได้


เคล็ดลึกเทรดหุ้น True Market Leader จำหน่ายที่

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM2MTk3ODt9


สรุป

การเทรดหลังตลาดหมี (Bear Market) เป็นช่วงสำคัญที่หลายคนอาจ “พลาด” โอกาส เพราะกลัว หรือยังไม่มั่นใจ แต่ถ้าคุณวางแผนดี เลือกหุ้นที่ถูกต้อง และรู้จักปรับพอร์ตตามผู้นำตัวใหม่ คุณก็สามารถเปลี่ยนช่วงที่คนส่วนใหญ่ยังลังเล ให้กลายเป็น “จุดเริ่มต้นของกำไรระยะยาว” ได้


จำไว้ว่า: ช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ยังกลัว อาจเป็นช่วงเวลาทองของคนที่ “กล้าพอที่จะเตรียมตัวและรับความเสี่ยง”

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน