หลักการแบ่งขายกำไร Partial profit

Image
สนับสนุนโดย  คอร์ส เทรดหุ้นอเมริกา ติดต่อสมัครที่:   https://m.me/zyoit ทำไมการขายบางส่วนที่ 2R ถึงสำคัญ การขาย ⅓ ของพอร์ตเมื่อราคาไปถึง 2R จะได้กำไร +0.67R ถ้าภายหลังราคากลับลงมาโดนจุดตัดขาดทุนเดิม ส่วนที่เหลืออีก ⅔ จะขาดทุน –0.67R → สรุปแล้ว แทบจะไม่ขาดทุน (ใกล้เคียง breakeven) วิธีนี้ช่วย ลดความเสี่ยง, ลดความเครียด และทำให้สามารถถือข้ามแรงเหวี่ยงระยะสั้นได้ เพื่อไปลุ้นกำไรจากแนวโน้มใหญ่หลายเดือน --- วินัยและระบบอัตโนมัติ การตั้งเป้าหมายเป็น “R” ช่วยให้สามารถตั้ง คำสั่งล่วงหน้ากับโบรกเกอร์ (Limit Order/OCO) ได้ เช่น ขาย ⅓ ที่ 2R ขายอีก ⅓ ที่ 5R วิธีนี้ทำให้กระบวนการขายเป็นระบบที่ชัดเจนและ ไม่ต้องตัดสินใจซ้ำๆ เวลาตลาดเคลื่อนไหว --- หมายเหตุการเข้าออก (Execution Notes) ตัดสินใจเรื่อง Stop/โครงสร้างตลาด ตอนสิ้นวัน เว้นแต่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น Gap ใหญ่เกินเป้าหมาย หรือหลุดแนวโครงสร้างชัดเจน ถ้าราคาเปิดกระโดดผ่าน 2R หรือ 5R ก็ขายที่ราคาที่ทำได้ดีที่สุด และถือว่าการเทรดนั้น ลดความเสี่ยงแล้ว จากนั้นย้าย Stop ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 สัปดาห์ (10-WMA) สรุป: ใช้ระบบขายบ...

เคล็ดลึก การใช้เส้นค่าเฉลี่ยให้ได้ประโยชน์สูงสุด ที่มือใหม่ต้องรู้

แปลจาก https://x.com/wey_how12640/status/1928299095070032174?t=o4nIc2KWaiHlfLqtTHdTjQ&s=19

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า MA คืออะไร และมันมีที่มาทางเทคนิคอย่างไร

Moving Average (MA) หรือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราดูแนวโน้มของราคาในตลาด มันเกิดจากการนำราคาย้อนหลังมาคำนวณเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ค่าเฉลี่ย 20 วัน, 50 วัน หรือ 200 วัน


แต่... แค่รู้ว่า MA คืออะไรยังไม่พอ

เราต้องรู้ด้วยว่า "เมื่อไร" และ "ทำไม" มันถึงมีประโยชน์ — และที่สำคัญคือ เมื่อไรที่มัน “ไม่ควรใช้”



---


MA จะมีประโยชน์จริง ก็ต่อเมื่อมีสองเงื่อนไขนี้:


1. ตลาดต้องมีเทรนด์ — ตลาดต้องกำลังขึ้นหรือลงอย่างชัดเจน


2. คนส่วนใหญ่ต้องดูสิ่งเดียวกัน — ถ้ามีเทรดเดอร์จำนวนมากใช้ MA แบบเดียวกัน มันก็ยิ่งมีพลัง เพราะราคาจะมีแนวโน้ม “ตอบสนอง” ตามจุดที่คนจำนวนมากจับตาดูอยู่ เหมือนกลายเป็น “คำทำนายที่กลายเป็นจริงด้วยตัวของมันเอง” (self-fulfilling prophecy)


ยกตัวอย่างง่าย ๆ จากตลาดฮ่องกง —

นักเทรดที่นั่นส่วนใหญ่นิยมดู Simple Moving Average (SMA) มากกว่า Exponential Moving Average (EMA)

แม้ EMA จะตอบสนองต่อราคาได้ไวกว่า แต่เพราะนักวิเคราะห์และข่าวต่าง ๆ พูดถึง SMA มากกว่า คนส่วนใหญ่ก็เลยใช้ SMA และมันเลย "ได้ผล" เพราะมีคนจำนวนมากตอบสนองต่อมัน


---


แต่ถ้าตลาด "ไม่มีเทรนด์" ล่ะ?

ตรงนี้แหละที่นักเทรดมือใหม่พลาดบ่อยที่สุด...


พลาดเพราะยังใช้ MA ทั้ง ๆ ที่มันไม่เหมาะ

MA เป็นเครื่องมือดู "แนวโน้ม"

แต่ถ้าตลาดกำลัง "แกว่งตัวไปมา ไม่มีทิศทางชัดเจน" หรือที่เรียกว่า Sideway หรือ Choppy — เส้น MA จะ “หลอก” คุณให้เข้าใจผิด

คุณจะเข้าเร็วเกินไป หรือออกช้าเกินไป เพราะ MA มัน "หน่วง" (lagging)


ในช่วงแบบนี้ เครื่องมือที่ควรใช้คือ

แนวรับแนวต้านในแนวนอน (horizontal pivots) และ การดูโซนราคา (zone to zone)

เพราะตลาดกำลังเล่นเกม “ตีไปตีมา” อยู่ในกรอบ ไม่ได้เดินหน้าไปทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจน



---


อีกจุดสำคัญ — ดูพฤติกรรมของราคา (Price Action)


ในตลาดที่ไม่ชัดเจน หรือช่วงกลับตัวจากเทรนด์เดิม

สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ MA แต่คือ “โครงสร้างราคา” และ “พฤติกรรมของแท่งเทียน” ในแต่ละวัน


เพราะ MA จะ "ช้า" และอาจทำให้คุณเข้าใจผิดว่าตลาดยังอยู่ในเทรนด์เดิม ทั้งที่จริงมันกำลังจะเปลี่ยน


ดูตัวอย่างช่วงปี 2024 —

มี 2 ครั้งที่ตลาดดิ่งลงอย่างแรง (2 dips) และตามด้วย “ภาวะตลาดหมี”

ใครที่ดูแต่ MA อย่างเดียว อาจพลาดสัญญาณเตือนล่วงหน้า เพราะ MA จะบอกคุณช้าเกินไป



---


สรุปง่าย ๆ สำหรับมือใหม่:


MA ดีมากในตลาดที่มีเทรนด์ และคนส่วนใหญ่ใช้


อย่าใช้ MA ในตลาดที่แกว่ง ไม่มีเทรนด์ — เพราะมันจะหลอกคุณ


ในช่วงตลาดนิ่งหรือกลับตัว ให้เน้นดูโซนราคา, แนวรับแนวต้าน, และพฤติกรรมของราคาแทน


อย่าพึ่งเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งมากเกินไป — เข้าใจ “บริบท” ของตลาดก่อนเสมอ




---


ถ้าคุณเข้าใจสิ่งนี้ คุณจะเริ่มมองตลาดอย่างเป็นระบบ และไม่หลงทางตามเส้นกราฟอีกต่อไปครับ 

เทรดอย่างมีสติ เข้าใจบริบท แล้วคุณจะค่อย ๆ เห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น 


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

หนังสือกราฟแท่งเทียน