(สำหรับอเมริกา) ตลาดกระทิงและขาขึ้นรอบใหญ่ เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

Image
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 (สำหรับอเมริกา) ตลาดกระทิงและขาขึ้นรอบใหญ่ เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แปลจาก  https://x.com/Trader_mcaruso/status/1928807700944577011 ตลาดยังไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่เลย และมีเพียงหุ้นไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ทำได้ ส่วนใหญ่เวลาตลาดหยุดพักเล็กน้อยตามปกติ แทนที่คนจะใช้โอกาสนี้สะสมหุ้นดีๆ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเริ่มวิตก ขายหุ้นหนี แล้วก็ไม่กล้าซื้อกลับเข้ามาใหม่ สาเหตุหลักๆ ก็มาจากความกังวลเรื่องต่างๆ ทั้งภาษีสงคราม, ตลาดพันธบัตร หรือข่าวร้ายอีกสารพัดอย่างที่ล้วนแต่ทำให้ใจสั่น มี "ข้อผิดพลาดไม่กี่อย่าง" ที่คอยขัดขวางคนส่วนใหญ่ไม่ให้ไปถึงเป้าหมาย และหนึ่งในข้อผิดพลาดร้ายแรงที่สุด ก็มักเกิดขึ้นหลังจากตลาดปรับฐานลงแรง — คือเราจะเริ่มคิดว่า "แย่แล้ว ตลาดคงไปต่อไม่ได้ ความเสี่ยงสูงเกินไป" ผมพูดได้เพราะผมเคยเจอมากับตัวเอง... ย้อนกลับไปปี 2011 — ตอนนั้นผมเพิ่งมีช่วงเวลาทอง 3 ปีแรกของ...

เคล็ดลึกลด Overtrading สูตรแชมป์ USIC

สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"  https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9


แปลจาก https://x.com/Clement_Ang17/status/1925503872937890089?t=U5aX6qAvT-pP6knhX6a4Uw&s=19

ผมขอแชร์เรื่อง “Overtrading” หรือ “การเทรดมากเกินไป” ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก โดยเฉพาะในยุคที่การเข้าถึงตลาดเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว จะซื้อจะขายเมื่อไหร่ก็ทำได้ทันที ยิ่งทำให้หลายคนเผลอกดปุ่มซื้อ-ขายเพื่อไล่ล่าความตื่นเต้น จนกลายเป็นความเคยชิน


ผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น—“อดีตนักเทรดที่ติด Overtrade” และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมมักเห็นนักเทรดที่ติดกับดักนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ พร้อมแนวทางแก้แบบตรงจุด ดังนี้ครับ:


---


กลุ่มที่ 1: เทรดทุกอย่างที่ขยับ

คุณอาจกำลังซื้อหรือขายหุ้นแค่เพราะมัน “วิ่ง” โดยไม่ได้มีแผนหรือเกณฑ์ชัดเจนว่าหุ้นแบบไหนถึงจะควรเข้า นี่เป็นสัญญาณว่า:

1) คุณยังไม่รู้ว่ากำลังมองหาอะไรจากการตั้งค่าเทรด (setup)

2) ไม่มีขั้นตอนที่ชัดเจนในการคัดเลือกหุ้นที่ควรโฟกัสในแต่ละวัน


แนวทางแก้:

1) สร้างกิจวัตรก่อนตลาดเปิด และทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน

2) วางระบบการ “คัดหุ้น” ที่มีโอกาสทำกำไรสูงที่สุดสำหรับสไตล์ของคุณ

3) เรียนรู้จุดสังเกตที่บอกความแตกต่างระหว่าง “A setup” (โอกาสดีมาก) กับ “C setup” (เสี่ยงสูง/ไม่น่าสนใจ)

4) เขียนแผนธุรกิจสำหรับการเทรดของคุณ—รวมถึงกฎการเข้าออกแต่ละสถานการณ์, วิธีเพิ่มหรือลดขนาดการถือครอง และเกณฑ์การเลือกหุ้นที่ชัดเจน


---


กลุ่มที่ 2: มีแผนแล้ว แต่ “ใจยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้”

บางคนมีระบบที่ดีแล้ว แต่พอเทรดแล้วเจอจุดตัดขาดทุน ก็ยังดื้อดึงเข้าอีกครั้ง... และอีกครั้ง... จนเสียหนัก เข้า “วังวนแห่งความพินาศ” แบบไม่รู้ตัว เหมือนพยายามจะเอาชนะตลาด ทั้งที่ควรฟังตลาดแทน


แนวทางแก้:

1. เข้าใจ “ความจริง” เบื้องหลังการเทรดของตัวเอง

จดบันทึกการเทรดอย่างละเอียด แล้วกลับมาทบทวนทุกวัน ลองย้อนดูการเทรดที่เข้าข่าย Overtrade เช่น คุณมักเข้าเทรดซ้ำหลังโดนตัดขาดทุนไหม? สัญญาณบนกราฟรายวันยังคงมีอยู่หรือหมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว?


2. ตั้งกฎสำหรับการเข้าเทรดซ้ำ

หากจะเข้าอีกรอบ ต้องมี “เงื่อนไข” ชัดเจน และกำหนด “จำนวนครั้งสูงสุด” ที่จะเทรดหุ้นตัวเดิมในวันเดียวกัน เพื่อลดโอกาสหลุดวงจรเสียซ้ำ


3. เจาะลึกประวัติศาสตร์ตลาด

ศึกษาหุ้นที่เคยสร้างกำไรใหญ่ ๆ ดูพฤติกรรมของพวกมันในอดีต แล้วหาจุดร่วมว่า setup แบบไหนที่คุณสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง วิธีนี้จะช่วยให้คุณ “มั่นใจในจุดแข็งของระบบตัวเอง” และกล้าจะรอเฉพาะเทรดที่คุ้มค่าเท่านั้น


---


สรุปส่งท้าย:

1) Overtrading ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่มันคือบทเรียนที่ทุกคนต้องผ่าน หากคุณรู้ตัวเร็ว ปรับทัน และฝึกใจให้เทรดตามแผน ไม่ใช่อารมณ์ คุณจะกลายเป็นนักเทรดที่แกร่งและมีวินัยมากขึ้นในทุกวัน

2) คุณไม่จำเป็นต้องเทรดบ่อย แค่ต้องเทรดให้ถูกจังหวะ

3) ขอให้คุณชนะใจตัวเอง และอยู่รอดในตลาดได้อย่างยั่งยืนครับ!


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่