เคล็ดลึก(เชิงปฏิบัติ) ตัวนี้จะสวิงเทรดสั้น หรือรันเทรนด์ ดีนะ?

4 กุญแจสำคัญที่นักเทรดต้องมี ถ้าอยาก “ปั้นพอร์ตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” อย่างสม่ำเสมอ
จากแนวคิดของ พี่มาร์ค – แชมป์สวิงเทรดระดับโลก ที่ปั้นพอร์ตโตกว่า 30,000%
.
1. Timing – “จับจังหวะตลาด” คือหัวใจของการเทรด อย่าเพิ่งเข้าตลาดเพราะกลัวตกขบวน และอย่าเพิ่งขายเพราะกำไรนิดเดียว จงเรียนรู้จังหวะที่เหมาะสม เพราะแม้แต่หุ้นดี ถ้าเข้าไม่ถูกเวลา ก็ขาดทุนและเจ็บหนักได้
.
เรียนรู้ที่จะหาจังหวะ easy dollar ของกลยุทธ์เทรดของคุณให้เจอ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลยุทธ์ของคุณ "เวิร์ค" ที่สุด แล้ว จากนั้น ทำข้อ 2 ให้เหมาะสม
.
ช่วงเวลานี้ไม่ง่าย แต่มันจำเป็นต่อการเติบโตและยั่งยืนของการเทรดของคุณเป็นอย่างยิ่ง
.
คุณจำเป็นจะต้องหาให้เจอด้วยตัวเอง
เพราะแต่ละกลยุทธ์ก็จะมีจุดเข้าที่เหมาะสมแตกต่างกัน และแต่ละคนก็จะมีความไวต่อความเสี่ยงและความสามารถในการรับความผันผวนที่แตกต่างกัน
.
ดังนั้นมันจึงควรเป็นจังหวะเฉพาะตัวของแต่ละคน
ถ้าคุณทำข้อนี้ให้ดีข้อต่อไปก็จะง่ายและคมมากขึ้น
.
.
2. Position Concentration – การกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องดี แต่บางครั้ง “โอกาสดี” มาไม่บ่อย ถ้าคุณมี conviction ที่แข็งแรงและมีแผนรองรับความเสี่ยง การกล้า “ใส่หนัก” กับหุ้นที่ผ่านการคัดกรองอย่างดี อาจสร้างความต่างได้อย่างชัดเจน
.
เมื่อคุณรู้แล้วว่าจังหวะไหนที่เป็น easy dollar ของคุณ
การเทรดแบบ "กระจุก" เน้นแค่ 4-5 ตัวต่อครั้ง
ก็จะส่งผลให้พอร์ตโตอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่ง 4-5 ตัวที่คุณต้องเน้นเป็นพิเศษคือหุ้นที่เป็น true market leader เท่านั้น
.
.
3. Turnover – อย่ายึดติดกับหุ้นหรือกลยุทธ์เดิมๆ ตลาดเปลี่ยนตลอดเวลา เทรดเดอร์ที่ดีต้องรู้จัก “หมุน” พอร์ตอย่างมีเหตุผล คัดหุ้นไม่เวิร์กออก และให้ที่ว่างกับตัวที่มีศักยภาพมากกว่า
.
หลักการของพี่มาร์ค คือ ขายเก็บเงินสดออกมาเมื่อได้กำไร 25% แล้วเอาเงินไปเข้าตัวใหม่ที่กำลังวิ่งขึ้น เพื่อให้เงินเติบโตทันที
.
แต่ถึงกระนั้น ... Timing คือตัวกำหนดการ turnover คุณต้องหมุนรอบทุกต้นในช่วงที่กลยุทธ์ของคุณ "เวิร์ค" เท่านั้น เพื่อนของคุณจึงจะทบต้นเติบโต เพราะคุณทบต้นความถูกต้อง
.
....แต่ถ้าคุณไปขยันในช่วงที่กลยุทธ์ของคุณไม่เวิร์ค มันจะกลายเป็นการทบต้นความผิดพลาดซึ่งกลายเป็นการทำลายเงินในพอร์ตของตัวเอง โดยไม่รู้ตัว
.
อย่างไรก็ตาม, การ turnover ที่ดีจำเป็นต้องมีการหยุดเทรดอยู่ในนั้นด้วย เพราะถ้าคุณไป turnover ในช่วงที่ตลาดมันทำเงินยากก็จะกลายเป็นการทบต้นความผิดพลาดคืนกำไรที่ได้มากลับไปโดยไม่รู้ตัว
.
.
4. Risk/Reward Relationship – ทุกการเทรดควรถามตัวเองว่า “ความเสี่ยงที่รับ กับผลตอบแทนที่คาดหวัง คุ้มไหม?” การรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับรางวัล คือสิ่งที่ทำให้คุณอยู่ในเกมนี้ได้ระยะยาว
.
หลักการของพี่มาร์คก็คือ Risk 1 : Reward 3 เป็นพื้นฐาน, แต่ถ้าช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง...แกจะลดลงมาที่ 1:2 แทน
.
ซึ่งในระหว่างของการทนรวยแกจะมีกระบวนการยกจุดตัดขาดทุนไปวางที่ต้นทุนด้วยเพื่อป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วย
.
....นั่นคือเมื่อได้กำไรก้อนงามแล้ว ต้องไม่ปล่อยให้มันกลายเป็นการขาดทุนโดยเด็ดขาด