Google TPU คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ หุ้นตัวไหนบ้างที่เกี่ยวข้อง

Image
เรื่องราวเบื้องหลัง: Google TPU คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ Google พัฒนาชิปของตัวเองที่เรียกว่า TPU (Tensor Processing Unit)—ชิปเฉพาะทางสำหรับ AI รุ่นใหญ่ของยุคนี้ ไม่ต่างจากหัวใจที่เต้นอยู่ในเบื้องหลังของบริการอย่าง Search, YouTube, Maps และระบบ AI ใหม่ ๆ ยิ่ง AI เติบโตเร็วเท่าไร - เครือข่ายซัพพลายเชนที่สนับสนุนชิปรุ่นใหม่ ๆ ก็ยิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น ภาพนี้กำลังบอกเราว่า ใครบ้างเป็นผู้เล่นหลัก ในซัพพลายเชนของ TPU รุ่นต่าง ๆ --- TPU สามตระกูลใหญ่ 1. Ironwood / Ghostfish – รุ่นที่ร่วมออกแบบกับ Broadcom 2. Sunfish – ยังคงร่วมงานกับ Broadcom 3. Zebrafish – มี MediaTek เข้ามาเป็นแกนนำด้านการออกแบบ แต่ละรุ่นมีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกันออกไป และนี่คือสัญญาณสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักเทรด—เพราะทุกบริษัทในสายนี้มีโอกาส “โตพร้อมกับกระแส AI” --- ซัพพลายเชนถูกแบ่งตามขั้นตอนการสร้างชิป ลองนึกว่าคุณเดินผ่านโรงงานประกอบชิปทีละแผนก… 1) Design Partner – หุ้นสมองของชิป Broadcom (AVGO) MediaTek พวกเขาเป็นต้นทางของการออกแบบชิป TPU แต่ละรุ่น การได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ Google คือการการันตีรายได้และออเดอร์ร...

4 กุญแจสำคัญที่นักเทรดต้องมี ถ้าอยาก “ปั้นพอร์ตให้เติบโตอน่างมีนัยสำคัญ” อย่างสม่ำเสมอ

4 กุญแจสำคัญที่นักเทรดต้องมี ถ้าอยาก “ปั้นพอร์ตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” อย่างสม่ำเสมอ

จากแนวคิดของ พี่มาร์ค – แชมป์สวิงเทรดระดับโลก ที่ปั้นพอร์ตโตกว่า 30,000%

.

1. Timing – “จับจังหวะตลาด” คือหัวใจของการเทรด อย่าเพิ่งเข้าตลาดเพราะกลัวตกขบวน และอย่าเพิ่งขายเพราะกำไรนิดเดียว จงเรียนรู้จังหวะที่เหมาะสม เพราะแม้แต่หุ้นดี ถ้าเข้าไม่ถูกเวลา ก็ขาดทุนและเจ็บหนักได้

.

เรียนรู้ที่จะหาจังหวะ easy dollar ของกลยุทธ์เทรดของคุณให้เจอ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลยุทธ์ของคุณ "เวิร์ค" ที่สุด แล้ว จากนั้น ทำข้อ 2 ให้เหมาะสม

.

ช่วงเวลานี้ไม่ง่าย แต่มันจำเป็นต่อการเติบโตและยั่งยืนของการเทรดของคุณเป็นอย่างยิ่ง

.

คุณจำเป็นจะต้องหาให้เจอด้วยตัวเอง 

เพราะแต่ละกลยุทธ์ก็จะมีจุดเข้าที่เหมาะสมแตกต่างกัน และแต่ละคนก็จะมีความไวต่อความเสี่ยงและความสามารถในการรับความผันผวนที่แตกต่างกัน

.

ดังนั้นมันจึงควรเป็นจังหวะเฉพาะตัวของแต่ละคน

ถ้าคุณทำข้อนี้ให้ดีข้อต่อไปก็จะง่ายและคมมากขึ้น

.

.

2. Position Concentration – การกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องดี แต่บางครั้ง “โอกาสดี” มาไม่บ่อย ถ้าคุณมี conviction ที่แข็งแรงและมีแผนรองรับความเสี่ยง การกล้า “ใส่หนัก” กับหุ้นที่ผ่านการคัดกรองอย่างดี อาจสร้างความต่างได้อย่างชัดเจน

.

เมื่อคุณรู้แล้วว่าจังหวะไหนที่เป็น easy dollar ของคุณ 

การเทรดแบบ "กระจุก" เน้นแค่ 4-5 ตัวต่อครั้ง 

ก็จะส่งผลให้พอร์ตโตอย่างมีนัยสำคัญ


ซึ่ง 4-5 ตัวที่คุณต้องเน้นเป็นพิเศษคือหุ้นที่เป็น true market leader เท่านั้น

.

.

3. Turnover – อย่ายึดติดกับหุ้นหรือกลยุทธ์เดิมๆ ตลาดเปลี่ยนตลอดเวลา เทรดเดอร์ที่ดีต้องรู้จัก “หมุน” พอร์ตอย่างมีเหตุผล คัดหุ้นไม่เวิร์กออก และให้ที่ว่างกับตัวที่มีศักยภาพมากกว่า

.

หลักการของพี่มาร์ค คือ ขายเก็บเงินสดออกมาเมื่อได้กำไร 25% แล้วเอาเงินไปเข้าตัวใหม่ที่กำลังวิ่งขึ้น เพื่อให้เงินเติบโตทันที

 .

แต่ถึงกระนั้น ... Timing คือตัวกำหนดการ turnover คุณต้องหมุนรอบทุกต้นในช่วงที่กลยุทธ์ของคุณ "เวิร์ค" เท่านั้น เพื่อนของคุณจึงจะทบต้นเติบโต เพราะคุณทบต้นความถูกต้อง 

.

....แต่ถ้าคุณไปขยันในช่วงที่กลยุทธ์ของคุณไม่เวิร์ค มันจะกลายเป็นการทบต้นความผิดพลาดซึ่งกลายเป็นการทำลายเงินในพอร์ตของตัวเอง โดยไม่รู้ตัว

.

อย่างไรก็ตาม, การ turnover ที่ดีจำเป็นต้องมีการหยุดเทรดอยู่ในนั้นด้วย เพราะถ้าคุณไป turnover ในช่วงที่ตลาดมันทำเงินยากก็จะกลายเป็นการทบต้นความผิดพลาดคืนกำไรที่ได้มากลับไปโดยไม่รู้ตัว 

.

.

4. Risk/Reward Relationship – ทุกการเทรดควรถามตัวเองว่า “ความเสี่ยงที่รับ กับผลตอบแทนที่คาดหวัง คุ้มไหม?” การรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยงกับรางวัล คือสิ่งที่ทำให้คุณอยู่ในเกมนี้ได้ระยะยาว

.

หลักการของพี่มาร์คก็คือ Risk 1 : Reward 3 เป็นพื้นฐาน, แต่ถ้าช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง...แกจะลดลงมาที่ 1:2 แทน 

.

ซึ่งในระหว่างของการทนรวยแกจะมีกระบวนการยกจุดตัดขาดทุนไปวางที่ต้นทุนด้วยเพื่อป้องกันและรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วย 

.

....นั่นคือเมื่อได้กำไรก้อนงามแล้ว ต้องไม่ปล่อยให้มันกลายเป็นการขาดทุนโดยเด็ดขาด

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน