3 จังหวะสำคัญที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้ ก่อนกดซื้อหุ้น

Image
  หนังสือแนะนำ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" มีขายที่ https://www.facebook.com/zyobooks หลายคนเริ่มต้นเทรดด้วยความ “อยากเข้าเร็ว” แต่กลับ “ออกไว” เพราะใจไม่แข็งพอ บางคนซื้อแบบเดาสุ่ม บางคนดูกราฟแต่ไม่เข้าใจจุดเข้าออกจริง ๆ วันนี้ขอแชร์ให้ฟังว่า นักเทรดสาย “สวิงเทรด” เขามองจุดซื้อขายยังไง... ✅ 1. ซื้อเมื่อเกิด Breakout เมื่อราคาวิ่งทะลุแนวต้าน พร้อมปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น ถือเป็นสัญญาณบอกว่า “แรงซื้อกำลังมา” แต่ต้องแน่ใจว่ามันไม่ใช่ "หลอก breakout" (false breakout) ด้วยนะ ✅ 2. ซื้อเมื่อเปิด Gap ขาขึ้น หากวันใหม่ราคาเปิดกระโดดเหนือกรอบเดิม และมีปริมาณมาก นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “รายใหญ่เริ่มเก็บของ” นักเทรดสายไหวพริบจะไม่มองข้าม gap เลย ✅ 3. ซื้อเมื่อย่อตัวพักฐาน หุ้นที่ขึ้นมาแรง มักต้องพักบ้าง ถ้าราคาย่อลงอย่างสงบ (ไม่รุนแรง) และยังอยู่เหนือเส้นแนวรับหรือ EMA นี่คือจังหวะที่นักเทรดใจเย็นรอซื้อมากที่สุด ใครที่อยากฝึกมองจังหวะให้เฉียบคมขึ้น ลองฝึกดูจากกราฟย้อนหลัง  หรือศึกษาจากประสบการณ์เทรดของคนที่เคย “พลาด” และ “พลิกเกม” ได้แล้ว หนังสือแนะนำ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" มีขาย...

นักวิเคราะห์ที่ให้เป้าหุ้น xxx ที่ y บาท ให้รีบซื้อ ต้องรับผิดชอบไหม เม่าขาดทุนยับ

นักวิเคราะห์ที่ให้เป้าหุ้น xxx ที่ y บาท ให้รีบซื้อ ต้องรับผิดชอบไหม เม่าขาดทุนยับ

คำตอบคือ เขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรเลย เพราะความผิดมันอยู่ที่คุณ
ถ้านักวิเคราะห์ให้แม่นจริง แล้วจะมีใครจะโง่ขาดทุน ทุกคนก็ซื้อตามนักวิเคราะห์หมดสิ แล้วตลาดหุ้นที่เป็นตลาดเก็งกำไรจะอยู่ยังไง? เมื่อไม่มีคนขาดทุนเลย? คิดสิคิดสิคิดให้เยอะ ๆ
คุณไม่เข้าใจโลกเอาเสียเลย
คนที่ผิดก็คือคุณ คุณไม่เข้าใจธรรมชาติของตลาดหุ้น
ปรับความคิดใหม่ซะถ้าอยากเล่นหุ้นให้มีความสุข นั่นคือ
๑. รับผิดชอบต่อตัวเอง ไม่มีใครบังคับคุณให้ซื้อหุ้น เขาแค่ให้ข้อมูลกับสาธารณะเท่านั้น มันเป็นอาชีพของเขา
๒. อย่าได้เชื่อใครทั้งสิ้น ทุกคนสามารถผิดพลาดได้ทั้งนั้น ฟังหูไว้หู ถ้าซื้อตามก็ต้องระมัดระวัง รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คิดผิด เพราะทุกคนคิดผิดได้
๓. คิดถึงความเสี่ยงทุกครั้ง ว่าถ้าขาดทุนมา จะขายตรงไหน รู้จักขายหุ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เจ๊งหุ้น
๔. พยายามปรับความเข้าใจตลาดหุ้นเสียใหม่ว่า มันไม่ได้ง่ายขนาดที่มีคนมาบอกว่าหุ้นตัวนั้นตัวนี้ดี ราคาจะไปถึงเท่านั้นท่านี้ มันต้องเป็นเช่นนั้นจริง มันไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปหรอก ถ้ามันเป็นจริงทุกครั้ง ตลาดหุ้นจะไม่มีทางอยู่นาวนานจนถึงวันนี้ เสน่ห์ของตลาดหุ้นคือ ความแปลกใจ และนักลงทุนส่วนใหญ่ขาดทุน
๕. ความจริงของการเล่นหุ้นให้ได้กำไรก็คือ ถ้าคุณได้กำไร ๖ จาก ๑๐ ตัว ถือว่าโคตรเก่งเลย นี่คือความจริง ไม่มีใครได้กำไรทุกครั้ง ขนาดเขาทำการบ้านเอง มีตัวคัดกรองอย่างเข้มข้น ก็ยังขาดทุน ๔ ครั้งจาก ๑๐ ครั้งเลย แล้วคุณล่ะที่คอยซื้อตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์ที่ทำตามหน้าที่ไปวัน ๆ (ไม่ได้ซื้อหุ้นเอง) ความแม่นยำจะขนาดไหน ลองคิดดู
๖. ปรับการลงทุนใหม่โดยให้ความสำคัญกับ Risk Reward โดยยึด 1 :3 นั่นคือ จำกัดการขาดทุนก่อนเลยว่าจะยอมเสียแค่ 10% เท่านั้น พอกำไรรอขายเมื่อได้ 30% ทำแบบนี้ให้เป็นนิสัยและกระบวนการ
๗. แบ่งเงินซื้อให้เหมาะสม ตัวละไม่เกิน 10% ของเงินทั้งพอร์ตเท่านั้นพอ มันช่วยให้คุณอยู่รอดในระยะยาวได้ เพราะคุณยังคิดเองไม่เป็น
๘. มองเกมยาว ตลาดหุ้นไม่ใช่ทางด่วนรวยลัด หรือ ล็อตเตอรี่ หรือ แหล่งทำเงินง่าย อย่าคิดแบบเม่า (เม่าคือคนที่หลงตามการเชียร์ การเย้ายวน ที่เป็นอันตราย) แต่จงคิดแบบทำธุรกิจ
๙. เทรดแบบทำธุรกิจ คือคำตอบสุดท้าย

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

แนะวิธีดูกราฟหุ้นเบื้องต้น

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

(มือใหม่เล่นหุ้น) แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ

(มือใหม่เล่นหุ้น) แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น