สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ
![Image](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjziPw0iRNtRi-kEDbQ3P-5qkHbCb9d-VHnhmAySwYnO-mkgwiDDUHDeFYHUI3BrOT55qoN6CD2sUlMzfa_u0LImGQYe0CI4M93WAWq4-XTPp_xbdqsgiUORxWyRKibEie_fWMU2MlYCFLRlQ-Vu-9Fhyphenhyphenrl1OjvD19z0Ad_YirkVtMn1yAUqwukqRorD5Y/w640-h602/Screenshot%202024-07-26%20074007.png)
ยิ่งบ้าทำนาย ยิ่งขาดทุนหนัก
คนที่ไร้ความรู้ ไม่มั่นใจ มองหาที่พึ่ง จะสนใจการคาดการณ์/ทำนายอนาคต เพื่อให้เป็นหลักชีวิต/ฝากความหวัง (แม้จะไม่แม่นยำ แต่ก็เป็นจุดยึดเหนี่ยวความมั่นใจ)
คนดูดวง เสียเงินเป็นลูกค้าประจำ
หมอดูดวง ได้เงินสม่ำเสมอ ทำราคาได้
.
การทำนาย ก็เหมือนการเดาสุ่ม
นักทำนายโด่งดังเพราะเดาถูก
แต่พอเดาผิด ก็เสมอตัว นั่นเป็นในชีวิตจริง
แต่ ๆๆๆ มันไม่ใช่ในตลาดหุ้น
ถ้าคุณเชื่อคำทำนายที่ผิด แล้วไม่ยอมรับผิด ยังคงดันทุรังอยู่ในความผิดพลาด ซื้อถัวเฉลี่ย คุณก็มีโอกาสหมดตัวได้เลยนะ
.
ตรงข้ามกับนักเทคนิคอล
เขาซึ้อแบบสุ่มเหมือนกัน แต่เขารู้ว่าเมื่อไหร่ที่คิดผิด แล้วก็หนีทันทีที่รู้ เขาเสีย-แต่เสียน้อย
ในยามที่เขาคิดถูก เขาทนรวยยาว ๆ นาน ๆ + ซื้อเพิ่ม ก็จะได้กำไรก้อนโตกว่า
.
ความต่างของคนงมงายการทำนายกับคนเทรดแบบมีหลักการ ไม่ใช่ความแม่นยำ เพราะมันไม่แม่นทั้งคู่ แต่มันคือ "รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คิดผิด"
.
การทำนายสนับสนุนการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์โดยกำหนดให้นักเรียนใช้ความรู้และประสบการณ์เดิมของพวกเขารวมถึงการสังเกตเพื่อคาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้น ความสามารถในการทำนายเชิงตรรกะสนับสนุนการพัฒนาความสามารถในการกำหนดสมมติฐาน