IPO ที่ยอดเยี่ยม และเหตุผลว่าทำไมการเทรด IPO ถึงมี Edge

Image
Qullamaggie เล่าว่า เขาชอบเทรดหุ้น IPO ใหม่ๆ มาก ไม่ว่าจะเป็น - IPO ที่เบรกขึ้น - IPO ที่โดนทุบลงมาแล้วเริ่มฟื้น (beat-and-down IPO) - หรือรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการเปลี่ยนเทรนด์ เหตุผลไม่ใช่เพราะ “มันดูเท่” แต่เพราะ มันมี Edge จริงๆ ที่มา https://x.com/i/status/2004040960360026543 Step 1: IPO คือหุ้นใหม่ → ข้อมูลยังไม่แน่น หุ้น IPO คือหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด สิ่งสำคัญคือ สถาบันใหญ่ยัง “ซื้อไม่ครบ” กองทุนยังจัดพอร์ตไม่เสร็จ ยังไม่มีใครถือเยอะจริง ตรงนี้แหละครับคือ ความได้เปรียบของนักเทรดรายย่อย เพราะราคายัง “ไม่ถูกกำหนด” แบบชัดเจน Step 2: ความตื่นเต้น + เรื่องราวใหม่ = พลังของเทรนด์ IPO มักมาพร้อมกับ - ธีมใหม่ - เทคโนโลยีใหม่ - อุตสาหกรรมที่ตลาดกำลังสนใจ Qullamaggie ยกตัวอย่าง TLRY ตอนนั้นหุ้นกัญชามีน้อยมากในตลาด ผลคือ TLRY พุ่งจากประมาณ 22 ไปถึงเกือบ 300 หรือ BYND (Beyond Meat) จากราว 50 ขึ้นไปถึง 240 นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือผลของ “ของใหม่ + ของหายาก + ความฝันของนักลงทุน” Step 3: ถ้า IPO อยู่ใน “Hot Sector” พลังจะยิ่งแรง Qullamaggie เน้นมากว่า ถ้า IPO เข้ามาในช่วงที่อุตสาหกรรมนั้...

วิธีการสแกนหาหุ้นดาวรุ่งแบบ Mark Minervini

 

1. สแกนกราฟหุ้น คัดเอาที่เป็นขาขึ้น(stage 2) เอาไว้ก่อน 

เก็บรายชื่อไว้ในลิสต์

2. เอารายชื่อหุ้นที่ได้ไปกรองหาตัวที่มีพื้นฐานดี โดยดูจากผลกำไร ยอดขาย และส่วนต่างกำไรที่เพิ่มขึ้น ความได้เปรียบในอุตสาหกรรมและความผันผวนของราคา

3. วิเคราะห์ด้วยตัวเอง โดยให้คะแนนว่าตัวไหนดีกว่ากัน ตามหัวข้อดังนี้

- ผลกำไรและยอดขายประกาศออกมาว่าใครดีกว่า

- ประวัติผลกำไรและยอดขายที่ทำให้ตลาดตื่นเต้น

- การเติบโตและอัตราเร่งของผลกำไรต่อหุ้น (EPS)

- การเติบโตและอัตราเร่งของยอดขาย

- การชี้นำของบริษัทที่พิมพ์(ให้ข่าว)ออกมา

- การปรับประมาณการณ์ผลกำไรของนักวิเคราะห์ที่ให้ราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้น

- ส่วนต่างผลกำไร

- ตำแหน่งทางการตลาดและอุตสาหกรรม

- ตัวกระตุ้นที่อาจเกิดขึ้นได้ (ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงเฉพาะบริษัท หรือเฉพาะอุตสาหกรรม)

- การดำเนินงานเปรียบเทียบกับหุ้นอื่นในหมวดเดียวกัน

- ราคาและวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง




ต่อไปต้องพยายามหาเบาะแสเหล่านี้ให้พบ

1. ผลกำไรและยอดขายในอนาคตที่ทำให้ตลาดตื่นเต้น และการปรับประมาณการในทางบวก

2. มีปริมาณการซื้อขาย สนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน(มีความต้องการซื้อสูง)

3. ราคาปรับขึ้นเร็วจากความไม่สมดุลของ demand supply (แรงขายไม่มี เมื่อเทียบกับแรงซื้อ)

.

สุดท้ายคือการรอจังหวะซื้อที่ใช่ คือ VCP









7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

กราฟหุ้น GFPT ล่าสุด

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

$BMNR ทำธุรกิจอะไร? จุดแข็ง/จุดอ่อน และตัวเร่ง

Grok? $IREN หุ้นอเมริกาตัวนี้ ถูกเชียร์เกินเหตุหรือเปล่า?