สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ
![Image](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjziPw0iRNtRi-kEDbQ3P-5qkHbCb9d-VHnhmAySwYnO-mkgwiDDUHDeFYHUI3BrOT55qoN6CD2sUlMzfa_u0LImGQYe0CI4M93WAWq4-XTPp_xbdqsgiUORxWyRKibEie_fWMU2MlYCFLRlQ-Vu-9Fhyphenhyphenrl1OjvD19z0Ad_YirkVtMn1yAUqwukqRorD5Y/w640-h602/Screenshot%202024-07-26%20074007.png)
1. สแกนกราฟหุ้น คัดเอาที่เป็นขาขึ้น(stage 2) เอาไว้ก่อน
เก็บรายชื่อไว้ในลิสต์
2. เอารายชื่อหุ้นที่ได้ไปกรองหาตัวที่มีพื้นฐานดี โดยดูจากผลกำไร ยอดขาย และส่วนต่างกำไรที่เพิ่มขึ้น ความได้เปรียบในอุตสาหกรรมและความผันผวนของราคา
3. วิเคราะห์ด้วยตัวเอง โดยให้คะแนนว่าตัวไหนดีกว่ากัน ตามหัวข้อดังนี้
- ผลกำไรและยอดขายประกาศออกมาว่าใครดีกว่า
- ประวัติผลกำไรและยอดขายที่ทำให้ตลาดตื่นเต้น
- การเติบโตและอัตราเร่งของผลกำไรต่อหุ้น (EPS)
- การเติบโตและอัตราเร่งของยอดขาย
- การชี้นำของบริษัทที่พิมพ์(ให้ข่าว)ออกมา
- การปรับประมาณการณ์ผลกำไรของนักวิเคราะห์ที่ให้ราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้น
- ส่วนต่างผลกำไร
- ตำแหน่งทางการตลาดและอุตสาหกรรม
- ตัวกระตุ้นที่อาจเกิดขึ้นได้ (ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงเฉพาะบริษัท หรือเฉพาะอุตสาหกรรม)
- การดำเนินงานเปรียบเทียบกับหุ้นอื่นในหมวดเดียวกัน
- ราคาและวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
ต่อไปต้องพยายามหาเบาะแสเหล่านี้ให้พบ
1. ผลกำไรและยอดขายในอนาคตที่ทำให้ตลาดตื่นเต้น และการปรับประมาณการในทางบวก
2. มีปริมาณการซื้อขาย สนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน(มีความต้องการซื้อสูง)
3. ราคาปรับขึ้นเร็วจากความไม่สมดุลของ demand supply (แรงขายไม่มี เมื่อเทียบกับแรงซื้อ)
.
สุดท้ายคือการรอจังหวะซื้อที่ใช่ คือ VCP