แนวทางหาหุ้นผู้นำ เมื่อตลาดเริ่มฟื้นจากขาลง

Image
ถ้าคุณกำลังลำบากในการหาหุ้นดีๆ ช่วงตลาดหมีเพิ่งฟื้นตัว ลองพิจารณาไอเดียเหล่านี้ดู (แปลและขยายความจากคำแนะนำของ Leif Soreide; แชมป์การลงทุนในสหรัฐฯ ปี 2019) 1. ในช่วงที่ตลาดผันผวนและไม่แน่นอน เม็ดเงินมักไหลเข้าสู่หุ้นที่ “ปลอดภัย” และ “สภาพคล่องสูง” นักลงทุนจำนวนมากจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยเลือกซื้อหุ้นใหญ่ หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูง หรือที่เรียกว่า “หุ้นผู้นำ” เพราะสามารถเข้า-ออกได้ง่าย ไม่ติดดอยง่าย . ดังนั้น: เวลาตลาดยังไม่แน่นอน อย่าเพิ่งไปเสี่ยงกับหุ้นเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูง เพราะถ้าหลุดแนวรับหรือไม่มีแรงซื้อ คุณอาจขายออกไม่ได้ หรือขายแล้วขาดทุนหนัก การเลือกหุ้นที่ “คนอื่นก็สนใจ” หรือมี “กองทุนใหญ่เข้า” มักจะปลอดภัยกว่า . . 2. อย่าไปหลงกับหุ้นตัวเล็กที่ดูเหมือนตั้งท่าจะพุ่ง แม้จะมีรูปแบบกราฟ “สมบูรณ์แบบ” ก็ตาม อย่าไว้ใจแค่เพียงกราฟดูสวย หรือมีสัญญาณเทคนิคดี หากหุ้นนั้นไม่มีสภาพคล่อง . ด้วยเหตุนี้: หุ้นบางตัวอาจจะดูเหมือนพร้อมจะพุ่งแรง เช่น เบรกขึ้นจากฐาน หรือทำ new high แต่ถ้าไม่มีปริมาณการซื้อขายรองรับ (volume บางๆ) หรือมันเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ มันจะกลายเป็นกับดัก เพ...

Mindset ความน่าจะเป็น คือกุญแจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ กับระบบเทรดแบบ Breakout


Mindset ความน่าจะเป็น 

คือกุญแจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จ

กับระบบเทรดแบบ Breakout

๑) อะไรก็เกิดขึ้นได้ - ตลาดคือความคาดเดาไม่ได้ 

เช่น เมื่อวานราคา breakout สวยมาก 

แต่วันนี้มันอาจจะร่วง false breakout หน้าตาเฉยก็ได้

.

๒) คุณสามารถทำเงินจากการเทรดได้-โดยไม่รู้อนาคต 

แค่คุณมีระบบเทรดที่ได้เปรียบ (หรือ Edge) คุณก็สามารถทำกำไรได้

คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าราคาจะไปถึงระดับไหน แค่ทนรวยตามแนวโน้มก็พอ

.

๓) Edge หรือ การเทรดที่ได้เปรียบนั้น ไม่ได้ชนะทุกครั้ง ไม้ได้มี Win rate 100% มันก็มีขาดทุนกำไรปะปนอยู่ในการเทรดจำนวนหลายครั้งนั้น 

เพราะ Edge คือ Positive Expectancy 

แม้คุณจะมี Win rate แค่ 30-35% (ระบบ trend following) แต่ถ้าผลการเทรดออกมาได้ Positive Expectancy ระบบนั้นก็มีความได้เปรียบระดับสุดยอดแล้ว

.

๔) Edge ไม่ได้หมายความว่ามันจะชัวร์ทุกครั้ง ก็แค่มันมีโอกาสเกิดเรื่องหนึ่งมากกว่าอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง

เช่น การเทรดแบบ breakout ฐานราคา 

โอกาสที่หนึ่ง: หลังจากที่มันทะลุขึ้นไปได้แล้ว มันวิ่งไปต่อ หากยังคงรักษาโมเมนตัมได้ มันก็จะวิ่งตามแนวโน้มให้กำไรก้อนโตแก่เรา

โอกาสที่สอง : หลังจากที่มันทะลุขึ้นไปได้แล้ว แต่ยืนไม่อยู่ ร่วงสวนกลับมาที่เดิม และอาจจบรอบไปเลย

อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

Edge ของการ breakout ไม่ใช่การชนะทุกครั้ง แต่เป็นเรื่องของขนาด Reward ที่เรามีโอกาสได้ เมื่อราคาวิ่งตามแนวโน้มรอบใหญ่

ยกตัวอย่าง กรณีของหุ้นขาขึ้นรอบใหญ่

แม้คุณจะมี Win rate 30-35% 

แต่ถ้าหากคุณได้หุ้นผู้ชนะที่วิ่งรอบใหญ่ ขายได้กำไรระดับ 30-50%

แล้วคุณตัดขาดทุนหุ้นผู้แพ้ที่ 5-8% อย่างเคร่งครัด

ที่สำคัญคือคุณ Position size เท่ากันทุกครั้ง แบบกระจายความเสี่ยง

คุณก็มีโอกาสได้กำไรจากการเทรดแม้จะตัดขาดทุนหลายครั้งก็ตาม

Edge ของการ breakout จึงไม่ใช่การชนะทุกครั้ง แต่เป็นการบริหาร Risk : Reward ที่เป็นธุรกิจ และ Position size ให้คุณอยู่รอดไว้ก่อน

.

๕) ทุกโมเมนต์ของตลาดนั้นมีความเฉพาะตัว

เช่น แม้หุ้น B จะมีการสร้างฐานราคาเหมือนกับที่หุ้น A เคยทำ(ซึ่งหุ้น A วิ่งได้กำไรเป็นเด้ง) 

แต่หุ้น B อาจจะล้มเหลวหลังจาก breakout ก็ได้

อะไรก็เกิดขึ้นได้

ฉะนั้น คุณอย่าได้คาดหวังว่าตลาดจะต้องทำตัวตามทฤษฎี

อย่าได้คาดหวังว่าตลาดจะต้องช่วยให้คุณได้กำไร

เพราะตลาดจะไม่ทำแบบนั้นแน่

คุณจึงต้อง "รับผิดชอบตัวเอง" ถ้าราคาล้มเหลว - คุณต้องจัดการมันด้วยตัวคุณเอง ตามแผนการตัดขาดทุนที่คุณวางแผนไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

Volume (โวลุ่ม เทรด ซื้อขายหุ้น) คืออะไร เขาบอกอะไรเราบ้าง?