การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

"มันจะเวิร์คหรือไม่?" กับ "ฉันจะทำยังไงให้มันเวิร์ค?" คำถามที่แยกแยะนักเทรดผู้ชนะกับผู้แพ้


"มันจะเวิร์คหรือไม่?" กับ "ฉันจะทำยังไงให้มันเวิร์ค?" 

Mindset ที่แยกแยะนักเทรดผู้ชนะกับผู้แพ้

ฉันคิดว่าความแตกต่างอย่างมากในด้าน Mindset ระหว่างนักเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จและประสบความสำเร็จคือ:

https://twitter.com/corymitc/status/1687482871953649664?s=20

๑) นักเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จถามว่า "วิธีนี้ได้ผลหรือไม่" เพราะเขาต้องการแสวงหาสิ่งที่ทำกำไรได้ทันที หรือติดตามบางสิ่งอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าโดยหวังว่าจะได้กำไรในที่สุด

๒) เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จถามว่า "ฉันจะทำให้สิ่งนี้สำเร็จได้อย่างไร?" ถ้าฉันคิดได้ว่าฉันต้องการจะเทรดอย่างไร ฉันจะทำจนกว่าจะมีกำไร ฉันปรับปรุงมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเวิร์ค และฉันยังคงพัฒนากฎสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ และเงื่อนไขการซื้อขายที่ฉันเจอ ฉันทำให้มันทำงานต่อไป

๓) "มันเวิร์คหรือไม่" หมายความว่าเมื่อคุณพบสิ่งที่เหมาะสมแล้วงานของคุณก็เสร็จสิ้น

"ฉันจะทำอย่างไรให้มันเวิร์ค?" หมายถึงงานไม่เคยเสร็จ และไม่เคยเป็นเทรดเดอร์ เราต้องยืนหยัด จัดการเรื่องแย่ๆ ของตัวเอง และอะไรก็ตามที่ตลาดเหวี่ยงใส่เรา

.

“อย่าหวังว่ามันจะง่ายขึ้น แต่จงหวังว่าคุณจะต้องเก่งขึ้น

อย่าหวังว่าปัญหาจะลดลง แต่จงหวังว่าคุณจะมีทักษะที่มากขึ้น

อย่าหวังว่าอุปสรรคจะลดลง แต่จงหวังว่าคุณจะต้องมีปัญญามากขึ้น”

— จิม โรห์น

.

“เราโกรธเสียใจหรือผิดหวังเพราะความจริงไม่บรรจบกับความคาดหวังของเรา! เราประหลาดใจเพราะสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่างที่เราคิด

เมื่อคุณว่าพบว่าตัวเองหงุดหงิด? อย่าไปโทษคนอื่นหรือเหตุการณ์ภายนอกเลย แต่เป็นที่ตัวคุณเองและความคาดหวังที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริงของคุณ เปลี่ยนจุดสนใจกลับมาที่ข้างในตัวเอง จำไว้ว่าเราต้องรับผิดชอบตัวเอง!

.

สโตอิกสอนเราว่า "ไม่ว่าชีวิตจะโยนอะไรใส่เรา เรามีทางเลือกว่าจะยอมให้อุปสรรคขัดขวางหรือเราจะสู้ทนฟันฝ่าไป จะขวัญหนีดีฝ่อหรือจะเติบโต? ความยากลำบากคือบันไดให้ก้าวขึ้นไปสู่ขั้นที่สูงกว่าในฐานะคนคนหนึ่ง

หากปราศจากโอกาสแบบนี้เราก็ไม่สามารถเติบโตได้และยังคงอยู่ในระดับที่เราอยู่เท่านั้น"


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)