สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ

Image
สาเหตุที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ ต้องขาดทุนซ้ำซาก หรือ ไม่สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอ ๑) เทรดแบบงานอดิเรก - มาทรงนี้ จะไปไวมาก เพราะงานอดิเรกมีแต่จ่าย และจ่าย // อีกกลุ่มใหญ่ไม่แพ้กันคือ เทรดแบบการพนัน เล่นหุ้นเสี่ยงสูงทั้งๆ ที่ตนเองความรู้แทบไม่มี จำคำพูดเซียนมาใช้เป็นกลยุทธ์ ๒) ถึงแม้จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หาความรู้และฝึกฝนอย่างหนัก ก็ยังคงมีโอกาสขาดทุนหนักอยู่ เพราะ - ไปได้ข้อมูล แนวทางที่ผิด โดยเฉพาะการโฟกัสที่ผลลัพธ์ที่แม่นยำสูง + เทรดโดยไม่มีการบริหารความเสี่ยง - แต่แม้จะได้ข้อมูลที่ดี ก็ยังมีโอกาสขาดทุนยับอยู่ ถ้าคุณมีความเชื่อที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์/กระบวนการและกฎการเทรดที่ทำเงิน -- แบบนี้เรียกว่าความขัดแย้งจากภายใน ตัวอย่างที่ชัดมากคือ กลยุทธ์ให้คุณตัดขาดทุน แต่ถ้าภายในใจของคุณไม่เชื่อ คุณก็ทำตามไม่ได้ // กลยุทธ์ให้คุณบริหารความเสี่ยง แต่ถ้าคุณอยากรวยเร็ว คุณก็ไม่ยอมทำตาม ๓) ประสบการณ์ คือ ตัวแปรสำคัญ ของการเทรดที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ถ้าคุณมีประสบการณ์มากพอ คุณผ่านเกมมากพอ คุณจะเข้าใจหลายเรื่อง ที่มันขัดกับความเชื่อทั่วไปของมนุษย์ได้ เพราะหลายเรื่องของเกมการเทรดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาชนะ -

สรุป Mastering the Market Cycle


Mastering the Market Cycle by Howard Marks
แปลจาก www.investorsingh.com/mastering-the-market-cycle-by-howard-marks-an-executive-summary/

‘Getting the odds on your side’ เลือกอยู่ในฝั่งที่ได้เปรียบเท่านั้น



หลัก ๕ ประการสำหรับสร้างปรัชญาการลงทุนให้ได้ชัยชนะ
๑) ศึกษาเทคนิคการทำบัญชี, การเงิน และ เศรษฐศาสตร์  ล้วนมีความจำเป็น แต่ยังไม่เพียงพอ
๒) ศึกษา เฝ้าดู ว่าตลาดการเงินทำงานอย่างไร
๓) อ่าน ลองอ่านงานที่อยู่นอกเหนือความสนใจ
๔) แลกเปลี่ยนความรู้กับนักลงทุนคนอื่น
๕) มีประสบการณ์กับการลงทุน/เก็งกำไร ลงทุนให้นานพอ จนผ่านวัฏจักรขึ้นและลงให้ครบ คุณจะมีประสบการณ์และรู้จักเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า


บทที่ ๑ ทำไมต้องศึกษาวัฏจักร
เพราะคุณต้อง ‘Getting the odds on your side’ เลือกอยู่ในฝั่งที่ได้เปรียบเท่านั้น

นักลงทุนขั้นเทพ คือคนที่..
- ใส่ใจกับวัฏจักร
- มีเซนส์ รู้ว่าลักษณะสภาพตลาดม การเคลื่อนไหวราคา ในขณะนั้นมันคุ้มค่าต่อการเสี่ยงหรือไม่
- มองแนวโน้มอนาคตออกว่า ถ้าลงทุนในตอนนี้ เขาจะได้เปรียบมากกว่าความเสี่ยง หรือยังคงเสี่ยงอยู่

สิ่งที่นักลงทุนควรสละเวลาเรียนรู้มากที่สุด ๓ เรื่องนี้
๑. รู้ให้มากกว่าคนอื่น โดยเฉพาะในเรื่องของ พื้นฐานของอุตสาหกรรม, บริษัท และ หลักทรัพย์
๒) รู้เรื่องการมีวินัย ในการควบคุมตนเอง ทำตามกฎและแผนที่วางไว้
๓) รู้และเข้าใจสภาพแวดล้อมของสิ่งที่เรากำลังลงทุน สามารถตัดสินใจและเลือกกลยุทธ์การลงทุนที่ดีที่สุด


บทที่ ๒ ธรรมชาติของวัฏจักร
- ค่ากลาง คือทุกอย่าง แม้ราคาจะแกว่งขึ้นแรง ลงหนัก แต่ในที่สุดแล้วมันต้องกลับมาที่ค่ากลาง
- อย่าได้โฟกัสไปที่เหตุการณ์เดียว แต่จงมองต่อไปว่า จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
- จุดสูงสุด (มองโลกในแง่ดี) จุดต่ำสุด (มองโลกในแง่ร้าย) คือสองด้านในเหรียญเดียวกัน
- Cycle คือ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้, เป็นสิ่งใหม่สำหรับคนที่ไม่เคยจดจำอดีต, มีการพักฐาน(ย่อตัว) และมักจะถูกมองว่า ขาดความสมมาตร
- อย่าได้โยนผ้ายอมแพ้ในยามที่เกิดความหดหู่ที่สุด และอย่าได้กระโจนเข้าร่วมในเวลาที่สุขใจที่สุด


บทที่ ๓ ความสม่ำเสมอของ cycle
- เราอาศัยอยู่ในโลกที่ให้ผลลัพธ์แบบสุ่ม ความเป็นมนุษย์คือความปัจเจก สิ่งที่เขาเลือกทำจะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากเกิม แม้ว่าพวกเขาจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม และนั่นเองที่ทำให้ cycle คาดเดาได้แม่นยาก
- บางครั้ง cycle ก็ไม่สมบูรณ์ การคาดการณืตามทฤษฎีจึงเป็นไปในแบบสุ่ม เพราะถ้า cycle มันคาดเดาได้ง่าย คนทั้งโลกรู้กันหมด ก็ไม่ควรจะมีเกมการเก็งกำไรกันแล้ว


บทที่ ๔ วัฏจักรเศรษฐกิจ
วัฏจักรเศรษฐกิจ เป็นรากฐานที่ก่อให้เกิดวัฏจักรแทบทุกอย่างในโลกธุรกิจและตลาดหุ้น เพราะเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว บริษัทก็จะเติบโต กำไรเพิ่ม ราคาหุ้นก็สูงขึ้น
- ควรโฟกัสไปที่แนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาวมากกว่าระยะสั้น  มองไปที่ค่ากลางหรือค่าเฉลี่ย ระยะสั้นแกว่งแรง แต่ระยะยาวจะมีความเสถีบรมากกว่า
- ความอิ่มเอมจะไม่ยั่งยืน เช่นเดียวกันกับความทุกข์ยาก ในที่สุดมันก็จะกลับตัวไปหาค่ากลาง แต่มีสิ่งหนึ่งที่สร้างความแตกต่างและกลับตัวยากก็คือ "พื้นฐาน"


บทที่ ๕ รัฐบาลกับวัฏจักรเศรษฐกิจ
- economic cycle ที่รุนแรงถือเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ถ้าเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ดีมากเกินไป ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับตวเป็นถดถอย(อย่างเลี่ยงไม่ได้)ในอีกไม่นานจากนั้น
ในทางกลับกันหากถดถอยมากเกินไป อาจทำให้ผลกำไรของบริษัทตก คนตกงาน ในที่สุดก็ต้องเดือดร้อนไปถึงธนาคารกลาง การคลังของรัฐ รวมถึงรัฐบาลเข้ามแทรกแซง


บทที่ ๖ วัฏจักรกำไร
- วัฏจักรเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทส่วนใหญ่แบบเลี่ยงไม่พ้น
- มันมีผลต่อยอดขาย ราคาวัตถุดิบ ราคาสินค้า ซึ่งการตอบสนองของแต่ละแห่งก็จะต่างกันไป


บทที่ ๗ Pendulum ของ จิตวิทยาการลงทุน
- คุณสามารถหลีกเลี่ยงความสุดขั้วของการแกว่ง ด้วยการทำความเข้าใจ
- ความแปรปรวนของตลาดหุ้นคล้ายกับการแกว่งลูกตุ้น (pendulum) มันไม่หยุดนิ่ง แต่มันก็ไม่เคยสุดขั้วได้นาน เพราะมันจะกลับมาตรงกลางเสมอ


บทที่ ๘ cycle ของทัศนคติ ที่มีต่อความเสี่ยง
- ความเสี่ยง คือ ปัจจัยที่สำคัญที่สุด สำหรับนักลงทุน
- การลงทุนคือการเสี่ยงเพื่อให้ได้กำไร
- ความเสี่ยง เป็นตัวขับเคลื่อนการลงทุน เสี่ยงน้อย-เข้าร่วม(ซื้อ) เสี่ยงมาก-สละเรือ(ขาย/เฉย)
- ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ คือ "การไม่คิดว่ามันไม่มีความเสี่ยงเลย" นักลงทุน/นักเก็งกำไรที่ยิ่งใหญ่ มักให้ความเสี่ยงนำเสมอ แต่เขาก็ไม่ได้กลัว เขาเปิดใจรับมันและพร้อมบริหารจัดการตามแผนที่วางไว้


บทที่ ๙ Credit ycle
เครดิต เป็นเส้นเลือดของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจะไม่สามารถเดินต่อไปได้ถ้าหากไม่มีสินเชื่อให้บริการ เครดิตเป็นเหมือนออกซิเจนต่อเศรษฐกิจ หากไร้ซึ่งเครดิตแล้วเศรษฐกิจพังแน่นอน


บทที่ ๑๐ Cycle ของหนี้ด้อยคุณภาพ
- ประเด็นนี้ถือเป็น "ความเชี่ยวชาญ" ของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เลย Howard Marks เป็นคนแรกที่จัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนในหนี้ด้อยคุณภาพ
- ในช่วงที่ตลาดสินเชื่อร้อนแรง จะมีการปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่ด้อยค่า มีการออกพัมธบัตรที่ไม่มีหลักประกัน การขยายเครดิตแบบไม่ฉลาด นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายครั้งใหญ่
- เมื่อเกิดการล่ม การเจ๊ง นักลงทุนในการบริหารสินทรัพย์ก็จะเข้ามาคัดเอาของดีที่ยังพอหลงเหลือในเศษซากนั้น ตามกระบวนการที่เขาเห็นว่ามีโอกาสมากกว่าความเสี่ยง


บทที่ ๑๑ Real Estate Cycle
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์สินที่นิยมของนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเขาเชื่อว่า ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้, ราคาแพงขึ้นตามกาลเวลา ฯลฯ
- แต่พวกเขาลืมไปว่า ราคาที่เขาจ่ายไปนั้น มันแพงเกินไปหรือเปล่า?
- วัฏจักรของอสังหาฯ มีอยู่เช่นกัน มันมีระยะของมัน ตั้งแต่ การรอคอยให้คนมาเห็น, เริ่มต้นวางแผน, ก่อสร้าง และเปิดตัวเพื่อขาย มันใช้เวลานาน และถ้าระยะที่ต้องการขายเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอยด้วยล่ะก็ เจ๊งลูกเดียว


บทที่ ๑๒ ยำรวมกัน
- พื้นฐานไม่ใช่ตัวแปรสำคัญที่สุดของการลงทุนสำหรับเขา มันคือ การวิเคราะห์ว่าตอนนี้นักลงทุนกำลังทำตัวเบี่ยงเบนไปจากสมมุติฐานของการมีเหตุผลที่ควรจะเป็นหรือไม่
- เซนส์ในการคาดเดาอนาคต (ตามเหตุและผลทางจิตวิทยา) มีความสำคัญไม่น้อย คนที่ประสบความสำเร็จจะมีทักษะของ "การคิดสองชั้น" มองไกลกว่าคนทั่วไป
- ๓ ขั้นตอนของตลาดกระทิง(ขาขึ้น)
๑. นักลงทุนส่วนน้อย มองว่าทุกอย่างเริ่มดีขึ้นแล้ว
๒. นักลงทุนจำนวนมากขึ้น เริ่มเชื่อว่าขาขึ้นเริ่มชัดเจน
๓. แทบทุกคน เชื่อว่ามันจะต้องวิ่งขึ้นตลอดกาล
- คนฉลาดลงมือทำก่อน คนโง่ลงมือทำในตอนจบ
- ลงมือทำก่อน คือ ผู้สร้าง จากนั้นเป็นคิวของนักเลียนแบบ สุดท้ายคนโง่จะทำตาม - บัฟเฟตต์


บทที่ ๑๓ วิธีประยุกต์ใช้ความรู้ market cycle
- เป้าหมายคือ วางเงินในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ เงินเติบโตขึ้นในอนาคตอันไกล้
๔ ตัวช่วยในการระบุวัฏจักร
๑. p/e ratios of stocks
๒. yields on bonds
๓. capitalization ratios of real estate (อัตราส่วนการโอนเป็นทุนของอสังหาริมทรัพย์)
๔. cash flow multiples on buyouts (กระแสเงินสดทวีคูณในการซื้อกิจการ)
- ผู้ที่ไม่เคยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ จะทำพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า


บทที่ ๑๔ Cycle positioning
- แบ่งสรรพอร์ตลงทุนตามการเคลื่อนไหวของตลาด(ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล้) จะรุก หรือ จะตั้งรับ
- แนวคิดเบื้องหลังของการศึกษาวัฏจักร ทำเพื่อแบ่งสรรพอร์ต เพื่อรองรับกับโอกาสที่เป็นไปได้ในอนาคต
- สูตรสำเร็จในการลงทุนให้สำเร็จ ๓ เรื่อง
๑. Cycle positioning & Asset selection
๒. Aggressiveness & Defensiveness
๓. Skill & Luck


บทที่ ๑๕ ลิมิตของการเผชิญหน้า
- การแบ่งพอร์ตให้เหมาะสมกับการแกว่งของวัฏจักรไม่ใช่เรื่องง่าย
- หลายอย่าง มันไม่เป๊ะ คุณต้องทำความเข้าใจถึงข้อจำกัด ทักษะของคุณ และ อุปสรรคที่ไม่คาดคิด


บทที่ ๑๖ วัฏจักรแห่งความสำเร็จ
- การลงทุนนั้น มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของจิตใจมนุษย์
- ความสำเร็จนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ดี สำหรับคนส่นใหญ่ “Success isn’t good for most people’’ เพราะมันเปลี่ยนคน คือ ทำให้เขาคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าตลาด ทำให้ทิ้งความรอบคอบและทำในสิ่งที่โง่กว่าเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
- บางครั้ง ที่ความสำเร็จ ก็ทำให้นักลงทุนคนนั้น ขาดแรงจูงใจ


บทที่ ๑๗ The Future of Cycles
- ภาวะฟองสบู่ ภาวะหลาดกลัวสุดขีด จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ผู้มาใหม่จะทำพลาดซ้ำได้อีก
- ความเบี่ยงเบนจากค่ากลาง เกิดจากการมองโลกในแง่ดีมากเกินไป จากนั้นมันจะกลับตัว ไปหาค่ากลาง  และมองแง่ร้ายมากเกินจริง แล้วก็กลับตัวไปหาค่ากลาง
- เศรษฐกิจและตลลาดเก็งกำไรไม่เคยเคลื่อนไหวเป็นเส้นตรง มันจะแกว่งขึ้นลง และจะเป็นแบบนี้ตลอดกาล


(จบ) หนังสือ Mastering the Market Cycle มีขายที่เว็บ amazon.com ครับ
ตอนนี้ยังไม่มีแปลเป็นภาษาไทย แต่อนาคต ผมเชื่อว่าต้องมี



(แนะนำหนังสือของ Zyo)



7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

แท่งเทียนกลับตัว - Reversal Candlesticks