เล่นหุ้นตามฝูง ไม่รุ่ง มีแต่เจ๊ง?

Image
" การเล่นหุ้นตามฝูงชน " มักจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่จะทำให้นักเทรดขาดทุนยับเยิน ถ้าได้ไปอ่านเว็บต่างประเทศ ก็ไม่ว่าจากแหล่งไหน ก็บอกตรงกัน ยิ่งนักลงทุนสายวีไอ ยิ่งแล้วใหญ่ พวกเขาชอบใช้ความบ้าคลั่งของฝูงชนเป็น "อินดิเคเตอร์" ซื้อขาย "ซื้อเมื่อเลือดไหลนองวอลสตรีท" และ"ขายเมื่อฝูงชนบ้าคลั่ง" เขาพูดกันถึงขนาดนี้เลย บ้านเราก็มีกูรูเทพอย่างคุณวิชับ จาวลา เจ้าของ " ทฤษฎีผลประโยชน์ " ท่านบอกว่า " Mass ผิดเสมอ " คนส่วนมากมักขาดทุน มีแต่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่กำไร ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? มีตัวอย่างคลาสสิคหนึ่งที่ชี้ให้เห็นโทษ ท่านเคยได้ยินชื่อ " นิโคลาส ดาร์วาส " กันมั้ยครับ? เขาเป็นหนึ่งในตำนานนักเทรดที่ทำเงินมหาศาลจากตลาดหุ้น เจ้าของ "ทฤษฎีกล่อง" นั่นเองครับ ท่านสามารถอ่านได้จากบทความ  Nicolas Darvas Trading System  ครับ ก่อนที่ทวดดาร์วาส จะประสบความสำเร็จจากตลาดหุ้น ก็เจอพิษของการ " เล่นหุ้นตามผูงชน " มาอย่างน้อยสองครั้ง ครั้งแรก หลังจากที่ได้กำไรหุ้นอย่างฟลุคๆ ก็เข้ามาเล่นหุ้นในตลาด

ความเสี่ยงในการเทรด/ลงทุน คืออะไร? + แนวทางบริหาร ความเสี่ยง


www.newtraderu.com/2020/03/24/a-risk-management-process-for-traders/
ในการเทรด หรือ การลงทุน risk management เป็นกระบวนการที่มาจากความเข้าใจ ระบุได้ ปรับแต่งเป็น และสามารถจัดการความเสี่ยงที่มีศักยภาพ เพื่อที่จะรักษาเงินทุนไม่ให้ถูกทำลายจากการขาดทุนเพียงแค่ครั้งเดียวมากเกินไป ซึ่งความเจ็บปวดจากการขาดทุนจะทำให้นักเทรดเกิดความคิดทางลบต่อระบบการเทรดของตนเอง ทำให้คิดละเมิดกฎ และไม่ให้ความสนใจความน่าจะเป็นในระยะยาว

ความเสี่ยงที่เป็นไปได้ มีอะไรบ้าง?
- ราคากลับตัวอย่างรุนแรง
- ราคาเปิด gap ไปไกล

เพราะอะไร? นี่คือสาเหตุ
- เกิดสถานการณ์ทางการเมือง (ม็อบ ปิดสถานที่สำคัญ)
- ตลาด panic
- บริษัทล้มละลาย
- ความเสี่ยงทางการเงิน (เช่นลดค่าเงินบาท)
- รายงานกำไรขาดทุนหนัก/กำไรโตเว่อร์
- ข้อบังคับจากทางการ
- เงินเฟ้อ
มาตรการเกี่ยงกับเงินตรา ฯลฯ

เหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้ราคาร่วงแรง หรือวิ่งสวนทางกับความต้องการของนักเทรด สร้างความเสี่ยง คือ ทำให้ขาดทุนครั้งเดียว มากเกินที่จะควบคุมได้ มันคือ worst case scenario ที่เราต้องคิดเผื่อไว้ เพื่อที่จะหาทางจำกัดความเสียหายไม่ให้รุนแรงจนทำลายเงินทุนของเรามากเกินไป
หน้าที่แรกของนักเทรด คือ การรักษาเงินทุนของตัวเอง ต้องจำไว้ให้มั่น
คุณต้องเล่นเกมรับให้ดีเสียก่อน ที่จะรุก

วิธีการบริหารความเสี่ยงแบบง่าย ๆ มีดังนี้
๑) ขั้นตอนแรก คือ ระบุความเสี่ยงให้ได้ก่อน
เมื่อคุณรู้ว่าความเสี่ยงมีอยู่จริง และคุณพร้อมยอมรับมัน คุณก็จะสามารถวางแผนรับมือกับความเสี่ยงนั้นได้ นักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่เห็นแต่โอกาสกำไร(ฝันกลางวัน) แต่ละเลยความเสี่ยง(ความจริง) นั่นเป็นสาเหตุให้พวกเขาติดหุ้นติดดอย ขาดทุนเงินหายไปมากมาย

๒) ต่อมา ให้หาข้อมูลเพิ่มว่า มันเกิดถี่แค่ไหน ส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงได้มากขนาดไหน
รายงานผลประกอบการ มีทุกไตรมาส
government issues economic รายงานเป็นประจำ
ธนาคารกลางออกมาตรการดอกเบี้ย
วิกฤติ ตลาดขาลงครั้งใหญ่ มาทุก ๑๐ ปี
พวกนี้เราสามารถคิดเผื่อและบริหารจัดการรองรับได้

๓) ก่อนที่จะลงเงิน คุณต้องรู้ว่า "จุดขายหุ้นหนีตาย" อยู่ตรงไหน เมื่อมันไม่เวิร์ค
ต้องมี stop loss ที่มีพื้นฐานมาจากการเคลื่อนไหวราคาที่าวนทางกับความคาดหวังของคุณ
ส่วนนักลงทุน ก็ต้องดูการเปลี่ยนแปลงทางพื้นฐาน ที่พิสูจน์ชัดว่าคิดผิด

๔) ก่อนลงเงิน คิดต่ออีกว่า ฉันจะยอมเสียเงินกี่บาทถ้าขาดทุน
อย่าได้เสี่ยงด้วยเงินก้อนเดียวลงในหุ้นตัวเดียว (all-in)
กระจายความเสี่ยงให้พอเหมาะ ถ้าตัดขาดทุนก็เสียไม่มาก แต่ถ้ากำไรก็ได้เป็นกอบเป็นกำ

๕) แล้วนึกต่อไปอีกว่า จะเริ่มล็อกกำไรเมื่อไหร่
กำไรที่แท้จริง คือ เงินที่คุณขายออกมาจากการเทรด
ควรมีการทำ trailing stop เพราะมันช่วยบอกคุณได้ว่าควรล็อกกำไรเมื่อใด


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

กลยุทธ์ และสไตล์การเทรดของ ปู่ William O’Neil

เส้น EMA ที่เทรดเดอร์เทพนิยมใช้

เล่นหุ้นตามฝูง ไม่รุ่ง มีแต่เจ๊ง?