Position sizing ที่ดี ช่วยลดปัญหา Trading psychology ได้แทบทั้งหมด

Image
Steve Burns พูดได้น่าสนใจว่า "ส่วนใหญ่ของปัญหาด้านจิตวิทยาการเทรดสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดขนาดของการเทรดลง และเฝ้าดูกราฟเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับสัญญาณที่คุณใช้ ไม่ใช่การดูกราฟทั้งวัน" Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง    https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087 หมายความว่าไง: 1. ปัญหาด้านจิตวิทยาในการเทรดคืออะไร? เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ ความเครียด หรือความกังวล ที่อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด เช่น ขายเร็วเกินไป ซื้อเพิ่มโดยไม่ไตร่ตรอง หรือไม่กล้าปิดขาดทุน 2. ทำไมการลดขนาดการเทรดถึงช่วยได้? ถ้าคุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ เช่น ใช้เงินจำนวนมากหรือเลเวอเรจสูง คุณจะรู้สึกกดดัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาอาจทำให้คุณขาดทุนหรือกำไรมาก แต่ถ้าคุณลดขนาดการเทรดลง เช่น ใช้เงินหรือเลเวอเรจน้อยลง คุณจะควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะแรงกดดันลดลง และมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้น 3. การดูกราฟตลอดทั้งวันมีผลเสียอย่างไร? การจ้องกราฟนานเกินไปอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ รวมถึงสร้างความกังว...

ภูเขาน้ำแข็งของความสำเร็จ



เมื่อวาน ได้ดูคลิปนี้ครับ



ว่าด้วยเกรียนคีย์บอร์ด คอมเมนต์ว่าประตูที่ เชกีซ อุนแดร์ ดาวเตะชาวตุรกี ที่ซัดประตูพาทีมเอาชนะ ปาร์ม่าได้นั้นว่า "ลูกยิงนั้น มันง่ายมาก ฉันก็ยิงได้"

ผมคิดว่าคนต้นคิดน่าจะเป็นมาร์เกตติ้ง หรือเจ้าหน้าที่การตลาดของรถยนต์ฮุนไดแน่ ๆ
ที่เกิดปิ๊งไอเดีย เอาไอ้หมอนี่มารู้จักโลกแห่งความจริงเสียหน่อยว่ามันง่ายเหมือนปากว่ามั้ย
จึงจับมือกับสโมสร พานาย มาร์โก้ นิโคไล เกรียนคีย์บอร์ดคนดังกล่าวมาที่สนาม
และก็ให้ลองยิงลูปแบบ เชกีซ อุนแดร์ ให้ดูหน่อย ว่ามันง่ายเหมือนที่แกโม้มั้ย?

ผลเป็นยังไงน่ะหรือ?
คงรู้กัน เดากันไม่ยากหรอกนะครับ
หมอนี่ วิ่งสะดุดยอดหญ้า ขาอ่อน ทรุดก่อนได้เตะบอลบ้าง
ได้เตะ ก็ไม่ได้องศา ไม่เข้าประตู
พยายามหลายครั้งก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ง่ายเหมือนใจคิด

นี่แหละครับที่ทำให้ผมอยากจะเขียนบทความนี้ขึ้นมา
ว่ามนุษย์เราล้วนมี ความหลงตัวเอง
เห็นคนอื่นทำได้ง่าย ๆ ก็คิดว่าฉันก็ทำได้ แถมทำได้ดีกว่าด้วย
นักจิตวิทยาของฝรั่งเขาบอกว่า มนุษย์เราเชื่อว่าตัวเองเก่งกว่าปกติ 25%
และขณะเดียวกันก็มองว่าคนอื่นด้อยกว่าความเป็นจริง 25%

ซึ่งมันทำให้ผมอดนึกถึงโลกของการเทรดไม่ได้
ปล. ประเด็นนี้ผมเขียนไว้ในหนังสือ "ความรู้หุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท" แล้วนะครับ
ใครสนใจก็ ติดต่อสั่งซื้อได้ที่เพจ Zyo Books นะครับ

ในโลกการเทรดนั้น ก่อนที่เราจะเข้ามาเทรด ไม่ต้องเราหรอกนะ
เอาเป็นผมเองเลยก็แล้วกัน ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน
ก็มีพวก ตีแตก หุ้นห่านทองคำ
อ่านจบแล้ว บรรลุธรรม ไปเลยทันทีครับ
การเล่นหุ้นง่ายมาก เหมือนเกรียนคีย์บอร์ด คนนั้นเป๊ะเลย
เห็นหมอนั่นแล้วนึกถึงตัวเอง

เมื่อคิดว่าง่าย ก็ไม่ต้องรอให้ฮุนไดเชิญ ผมเดินเข้าไปในสนามเทรดเองเลยครับ
และจากนั้น ก็ประสบหายนะ ไม่ต่างกัน
ไอ้หนุ่ม มาร์โก้ นิโคไล แค่อาย
แต่เซียว จับอิดนึ้ง "แทบวอดวาย" เงินหายไปเป็นล้าน
จากที่มองว่าเงิน 2 ล้าน จะเป็น 4 ล้าน
จาก 4 โตเป็น 8 ล้าน
จาก 8 โตเป็น 16 ล้าน
จาก 16 โตเป็น 32 ล้าน
จาก 32 โตเป็น 64 ล้าน
จาก 64 โตเป็น 128 ล้าน
รวยร้อยล้านในเวลา 6 ปี แบบง่าย ๆ ชิลล์ ตามประสาเกรียนคีย์บอร์ด

กลายเป็นผิดคาดครับ
สนามจริงไม่ง่ายอย่างที่คิด
เพราะจาก 2 ล้าน ขาดทุนยับ เหลือแค่ 2 แสนเท่านั้น
ซื้อหุ้นผิดตัว ถัวเฉลี่ยหุ้นขาลง ซื้อหุ้นเน่าติด SP ฯลฯ

เละเทะครับ
ตอนนี้เอง จึงได้รู้สึกตัวว่า "ตลาดหุ้นไม่ง่าย"
เรามันเป็นแค่ "ไก่อ่อน" ในตลาดหุ้น
เป็นแค่เหยื่อ ที่เดินเข้าไปในสนาม ให้มืออาชีพกระทำชำเรา

พอรู้ตัวเอง ว่าอยู่ในสถานะไหน
ก็ไปเจอรูปนี้สิครับ

กว่าจะประสบความสำเร็จ มันไม่ใช่เรื่องง่าย
กว่าที่เซียนหุ้นระดับเทพ จะได้กำไรหุ้นหนึ่งเด้ง สิบเด้ง ร้อยเด้ง ไม่ใช่นั่งดูนอกสนาม
พวกเขาลงมือทำ ลงมือซ้อมอย่างหนัก
เขาต้องผ่านการขาดทุนหนักมาก่อน จึงเห็นค่าของความเสี่ยง
เขาต้องเจอความเจ็บปวดมาก่อนถึงได้กล้าเปลี่ยนแปลง
เขาต้องเจอการวิพากษ์วิจารณ์มาก่อน ถึงได้รู้คุณค่าของความพยายาม
เขาต้องสู้ทั้งๆที่ขลาดกลัว เพราะโดนตลาดเล่นหนักจนขยาด แต่ก็ไม่ถอย
เขาต้องเจอการขาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนรู้สึกว่า แนวทางนี้มันไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง
เขาต้องมีวินัยขั้นสูง เพื่อทำตามกฎและแผนการเทรด รวมถุงทำการบ้าน ตรวจสอบตัวเอง
เขาต้องยอมอดหลับอดนอน เพื่อหาความรู้ ไม่รู้ไม่เลิก
เขาต้องเพียรพยายาม ศึกษาหาความรู้ ลองผิดลองถูก จ่ายค่าเทอมไปมากมาย เพื่อให้เจอแนวทางที่ใช่ แม้ระหว่างทางจะยังไม่เห็นทางสว่างเลย
เขาต้องทำงานหนัก ทุ่มเท สละเวลา สละทุกอย่างเพื่อให้รู้จริงในการเทรดที่จำเพาะ
ไหนจะต้องสร้างนิสัยที่ถูกต้องสำหรับการเทรด
มีการปรับปรุง สร้างแนวทางการเทรดที่เหมาะกับตัวเอง
มีความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง พร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปทั้งหมด
ที่สำคัญคือ มีความปรารถนาที่จะเป็นคนรวยจากการเทรดให้ได้ แม้จะล้มกี่ครั้งก็ตาม

เหล่านี้เองที่เกรียนคีย์บอร์ด หรือมือใหม่ไร้เดียงสาอย่างผมไม่เคยมองเห็นมาก่อน
เพราะแค่อ่านหนังสือไม่กี่หน้าก็บรรลุธรรมไปทันที "การเล่นหุ้นไม่ยาก"

พอได้ลงสนามจริง ทำแล้วไม่สำเร็จแบบที่เห็นในหนังสือ
และก็โดนตลาดสอนซะอ่วมอรทัย เจ๊งยับเยินนั่นแหละครับ
จึงรู้ซึ้ง ว่าเรามองอะไรแบบโลกสวยเกินไป


โลกของมืออาชีพ มันไม่ได้ง่ายแบบที่เราเห็นเลย
ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันไม่ผิดนะ
เพราะหนังสือ หรือสื่อที่เราได้รับฟังรับชม
เซียนเขาบอกเรามาแค่นี้จริง แบบรูปซ้ายมือนั้น

แต่ไม่บอกว่ากว่าจะไปถึงเส้นชัย เส้นทางที่เขาเดิน เป็นภาพขวา
อาจเป็นเพราะเวลาจำกัด หรือเขียนไปก็ไม่มีใครอยากอ่าน
ก็เลยไม่บอกมันซะดีกว่า
กลายเป็นว่า การสื่อสารไม่สมบูรณ์น่ะสิ

ซึ่งจะว่าไป ก็ไม่อาจโทษเซียน หรือ นักเขียนได้ 100%
เพราะมนุษย์เราเองมีเชื้อแห่งความขี้เกียจ อยากได้อะไรง่าย ๆ อยู่ในสมองตั้งแต่เกิด
เรารักความสบาย อยากได้อะไรง่าย ๆ อยากรวยง่าย ๆ ไม่ต้องพยายาม
เราจึงชอบอะไรที่มันเป็น "ความสำเร็จชั่วข้ามคืน"
ซึ่งมันไม่มีจริง (ถ้าลงมือทำจริง)

และเมื่อเราใฝ่หามันมาก ความสำเร็จชั่วข้ามคืน
จึงมีนักขุดพลั่ว พ่อค้าที่ตั้งใจจะหากินกับนักฝัน อยากรวยง่าย ๆ
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า "รวยง่าย ๆ" มากมายเกลื่อนตลาด
ซึ่งขายดีมาก แต่ต้องถามต่อว่า มันใช้ได้ผลมั้ย
คนที่อ่านไปแล้ว พอลงสนามจริง ยิงประตูเข้าแบบง่าย ๆ ทันทีมั้ย?
ไม่มีทางครับ

อย่างไรก็ตาม
ที่ยกประเด็นนี้มาพูด ก็ไม่ได้ตัดทอนกำลังใจของ "เหล่านักล่าฝัน" นะครับ
แค่พูดความจริง ความจริงที่ไม่ค่อยมีคนเอามานำเสนอ
ว่าถ้านายอยากได้ของดี อยากได้ผลตอบแทนสูง ๆ นายต้องพยายาม
นายต้องทำตัวให้คู่ควรกับเงินก้อนนั้นด้วย

โอเค ตอนนี้เรารู้แล้วว่า "ตลาดหุ้นโคตรยาก"
สิ่งที่เราเห็นเซียนเขียน หรือฟังจากเซียนนั้น มันเป็นแค่ภูเขาน้ำแข็ง
ถ้าอยากประสบคำสำเร็จแบบเขา "เรายังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะมาก"
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ฝึกฝน เรียนรู้ ทำความเข้าใจความยากลำบาก
สร้างวินัย หา passion ที่จะทำให้เรามีความกระตือรือร้นอยากทำงาน
ฝึก ฝึก ฝึก ทำการบ้าน ทำการบ้าน ทำการบ้าน
ตรวจสอบความผิดพลาดของตัวเอง สร้างกฎเพื่อป้องกันไม่ให้พลาดซ้ำ
ทำไปเรื่อย ๆ จนมีทักษะที่คู่ควร



ดังนั้น ในช่วงที่เรากำลังลองผิดลองถูก เป็นมือใหม่
อย่าเพิ่งคิดรวยเร็ว รวยทางลัด เลยครับ
ทุ่มเทเวลา ทำงานฟรีไปก่อน เพื่อสร้างตัวเอง พัฒนาตัวเอง ลงทุนในตัวเอง
ให้มีความรู้ มีทักษะ จนคู่ควรกับเงินที่เราฝัน
แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลา แต่มันก็คุ้มค่าถ้าหากเราทำได้

อย่าท้อครับ เพราะมันเป็นปกติที่ระหว่างทาง มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่แล้ว
ถ้าหากพลาด ก็ให้คิดเสียว่าเรายังอยู่ในช่วงเรียนรู้ หยุดให้เวลาศึกษาความผิดพลาดนั้น
ขณะเดียวกันก็พัฒนาจุดแข็งให้แกร่งกล้า ปิดจุดด้อย หรือเลี่ยงมันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ทำ ทำ ทำ ฝึก ฝึก ฝึก ฝึก
จนทุกอย่างมันทบต้นครับ
อย่าคิดว่า 5 ปี 10 ปี มันนานเกินไป
เพราะยังไงซะ มันก็มาถึงอยู่ดี
อย่ารอให้เวลานั้นมาถึงโดยที่เรายังอยู่กับที่ เพราะมันจะเสียเวลาเปล่า
จงลงมือทำ ฝึกฝน ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
ผมมั่นใจว่า ในที่สุด เราต้องไปถึงเส้นชัยแน่นอนครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

ทฤษฏีวัฏจักรตลาดหุ้น (Market Cycle)